“พาณิชย์” เผยช่วยเหลือนาปรังไร่ละ1,000 บาทไม่เกิน 10ไร่ ชี้จะชดเชยนาปรังเป็นครั้งสุดท้ายรอบการผลิตหน้าไม่มี ยันเป้ารัฐบาลเน้นลดการอุดหนุน ยกระดับผลิตสร้างมูลค่าเพิ่ม กรมการค้าภายใน เร่งให้ชาวนาไปขึ้นทะเบียน พร้อมเสนอเข้าที่ประชุม ครม. เร็วที่สุด
พาณิชย์ เร่ง 7 มาตรการ ดันราคาข้าว เปิดตลาดนัดข้าวเปลือก-ขยายส่งออกตลาดต่างประเทศ เตรียมประชุม อนุ นบข. 20 ก.พ.นี้ “กรมการค้าต่างประเทศ”เตรียมขนผู้นำเข้าลุยตลาดญี่ปุ่น 11 - 14 มี.ค. หวังกระตุ้นความต้องการและขยายส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในญี่ปุ่นให้เพิ่มขึ้น
กรณี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ตอบกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎร ถึงแนวทางแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ช่วงหนึ่งแนะนำให้ชาวนาปลูกกล้วย เพราะเป็นพืชที่ตลาดต่างประเทศต้องการ ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้น ด้านชาวนาบางส่วนแสดงความไม่เห็นด้วย อย่าง สมาน ศรีคำบ่อ ชาวนา จ.มหาสารคาม มองว่าการปลูกกล้วยต้องลงทุนเพิ่ม กว่าจะได้ผลผลิต ต้องรอ 7-8 เดือน ยังไม่มีตลาดรองรับ แต่การทำนาปรัง รอไม่นานก็ได้ข้าวแล้ว ส่วนเรื่องของราคานาปรังตกต่ำเป็นเรื่องที่รัฐบาล ต้องเข้ามาดูแล
รัฐบาลยอมปรับมาตรการการช่วยเหลือชาวนา โดยที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณามาตรการ จ่ายเงินชดเชยเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวนาปรัง ไร่ละ 1,000 บาท หรือ ประมาณคนละ 10,000 บาท หวังช่วยเกษตรกร ปรับเปลี่ยนการปลูกพืช ในฤดูกาลหน้า คาดใช้งบประมาณกว่า 2,800 ล้านบาท
วันนี้ (19 ก.พ. 68) ชาวนาจากหลายจังหวัดภาคกลาง รวมตัวกันกันอีกครั้ง เพื่อทวงถามความคืบหน้าจากรัฐบาลในการแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ หลังยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ส่งเรื่องมายังส่วนกลางระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
วันนี้(20ธ.ค.67)เป็นรอบสุดท้าย ที่รัฐจะโอนเงินช่วยเหลือให้กับชาวนา ส่วนคนที่ได้ไปก่อนหน้านี้แล้ว ก็ไปตรวจสอบและถอนเงินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการพูดคุยกับชาวนาบางส่วนระบุว่าจะนำเงินที่ได้ไปซื้อปัจจัยการผลิตและลงทุนทำนารอบใหม่ทันที ด้านสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร แถลง GDP เกษตร ปีนี้ หดตัว ร้อยละ 1.1 เป็นผลมาจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ กระทบผลผลิตเสียหาย ขณะที่ชาวนาทยอยกดเงินจากการช่วยเหลือของรัฐบาลไปลงทุนทำนากันต่อ
กระทรวงการคลังมั่นใจ การทบทวนหลักเกณฑ์การแจกเงินชาวนา ไร่ละ 1 พันบาท ไม่กระทบชาวนารายย่อย หลังกระทรวงเกษตรฯ เสนอ 2 แนวทาง ได้แก่จ่ายไร่ละ 500 บาท รายละไม่เกิน 20 ไร่ หรือไร่ละ 1 พันบาท รายละไม่เกิน 10 ไร่ คาดประหยัดงบประมาณลง เหลือปีละ 4 หมื่นล้านบาท
ชาวนาไทยหลายคนสะท้อนว่ายังไม่หลุดพ้นจากวังวนหนี้ ทั้ง ๆ ที่เห็นต้นตอปัญหาว่าเกิดจากราคาผลผลิตที่ไม่คุ้มกับที่ลงทุน ยิ่งทำ ยิ่งกู้ ยิ่งสร้างหนี้ไม่รู้จบ อย่าง ประสิทธิ์ บุญสม ชาวนาอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ บอกว่า ทำนา 1 ไร่ จะได้ผลผลิตประมาณ 800 กิโลกรัม หากปีนี้ราคาข้าวเท่ากับปีก่อนที่กิโลกรัมละ 8 บาท ก็จะได้เงินขายข้าวคืน 6,400 บาท เท่ากับต้นทุนการผลิตพอดี เท่ากับว่าลงแรงไป ไม่ได้กำไรงอกเงยมาเลย ส่วนนโยบายของรัฐบาลที่จะมาช่วยชาวนา ประสิทธิ์ บอกว่า นโยบายของรัฐที่ผ่านมา ๆ ทั้งพักชำระหนี้ หรือเงินช่วยเหลือไร่ที่ผ่านมา ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ควรไปแก้ที่ราคาผลผลิต ให้เกษตรกรขายได้ในราคาสูง น่าจะตรงจุดมากกว่า
หลังมีเสียงสะท้อนจากชาวนาบางส่วน ว่าโครงการ "ปุ๋ยคนละครึ่ง" ของรัฐบาล อาจจะไม่ได้เกิดประโยชน์กับชาวนาทุกคน ซึ่งเดิมโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง จะต้องเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่ล่าสุดโครงการนี้ ได้เลื่อนออกไปก่อน ขณะที่ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยอมรับว่า การเมืองเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โครงการต้องหยุดชะงัก
ข่าวดีสำหรับเกษตรผู้ปลูกข้าว ครม. ไฟเขียว โครงการสนับสนุนการลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือ โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้ชาวนา 4.68 ล้านครัวเรือน วงเงินเกือบ 3 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเริ่มโครงการได้ 15 ก.ค.นี้ ขณะที่ชาวนาบางส่วน บอกว่า โครงการนี้ช่วยลดต้นทุนได้บางส่วนเท่านั้น