วันนี้ (20 ธ.ค.2567) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ที่ประชุมของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สรุปสำนวนการสอบสวนคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก หลังใช้เวลาพิจารณาจากพยานหลักฐานทุกอย่างที่รวบรวมมา เช่น เอกสารที่เกี่ยวข้องกว่า 300,000 แผ่น, คำให้การของพยาน 50 คน ซึ่งเป็นสมาชิกของบริษัทดิไอคอนฯ ที่ฝ่ายผู้ต้องหาพามาให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษสอบปากคำ
เมื่อพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งหมดที่มี คณะการสอบสวนคดีพิเศษจึงมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและอีกนิติบุคคลอีกหนึ่งแห่ง ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือ แชร์ลูกโซ่, ความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ส.2545 และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ รวม 4 ข้อหา และเตรียมส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในวันที่ 23 ธ.ค.นี้
นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า คดีนี้ถูกแยกสำนวนออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกจะเป็นการสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 18 คนที่กระทำผิดต่อผู้เสียหายกว่า 7,000 คนที่อยู่ในราชอาณาจักร ขณะที่อีกส่วนเป็นสำนวนที่มีผู้เสียหายอยู่นอกราชอาณาจักร ซึ่งในส่วนนี้อัยการจะเข้าร่วมและเมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้นจะส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาคดี
สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหาความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือ แชร์ลูกโซ่ คณะการสอบสวนคดีพิเศษมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่เชื่อได้ว่าการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 18 คน เป็นการหาลูกข่ายหรือหาสมาชิกมาร่วมลงทุนทำธุรกิจ มากกว่ามุ่งเน้นการขายสินค้า
อ่านข่าว
ตำรวจไซเบอร์ จับ "นักร้องวงเมทัล" เปิดเว็บแทงหวย-พนันบอล
ยันโกทร-สจ.โต้ง ไม่ใช่พ่อลูก ผลตรวจเขม่าดินปืนออก 23 ธ.ค.นี้
"คลัง" จ่อชง มาตรการ "Easy e-Receipt" ลดหย่อนภาษี กระตุ้นใช้จ่ายปีใหม่