วันนี้ (22 ธ.ค.2567) เพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยจากกรณีมีผู้พบเห็นแสงปริศนาเหนือฟ้าเมืองไทย ลักษณะเป็นแสงสีขาว มีจุดสว่างหนึ่งจุด พร้อมฝ้าลักษณะฟุ้งออกไปรอบ ๆ เริ่มปรากฏให้เห็นทางทิศตะวันตกใกล้กับตำแหน่งของดาวศุกร์ จากนั้นเคลื่อนไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ก่อนจะหายลับไป มีผู้พบเห็นในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบ พบว่าเมื่อเวลา 18.34 น.ตามเวลาของประเทศไทย SpaceX บริษัทเอกชนด้านเทคโนโลยีอวกาศในสหรัฐฯ ได้ปล่อยจรวดฟัลคอน 9 (Falcon 9) จากฐานปล่อยจรวดในฐานทัพอวกาศฟานเด็นเบร็ค (Vandenberg Space Force Base) รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา จากช่วงเวลาที่มีผู้พบเห็นแสงปริศนา ประกอบกับลักษณะของแสงกล่าว คาดว่าจะเป็นแสงที่ไอพ่นจรวดสะท้อนแสงอาทิตย์เมื่อจรวดอยู่ในอวกาศ เช่นเดียวกันกับกรณีที่มีผู้พบเห็นแสงปริศนาเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2567 ที่ผ่านมา
สำหรับเที่ยวบินของ SpaceX ครั้งนี้มีชื่อว่า Bandwagon-2 บรรทุกดาวเทียมจำนวนมากจากลูกค้าที่เป็นหน่วยงานหรือบริษัทจากชาติต่าง ๆ เข้าสู่วงโคจรระดับต่ำรอบโลก (LEO) ตัวอย่างของดาวเทียมเหล่านี้ ได้แก่
- 425 Project SAR Sat 2 : ดาวเทียมสังเกตการณ์ทางทหาร ของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้
- LizzieSat-2 และ LizzieSat-3 : ดาวเทียมด้านอินเตอร์เนต ของ Sidus Space บริษัทเอกชนด้านเทคโนโลยีอวกาศในสหรัฐฯ
- ICEYE-X2 : ดาวเทียมสังเกตการณ์การณ์โลกด้วยระบบเรดาร์ ของ ICEYE บริษัทด้านการสังเกตการณ์โลก รวมถึงการผลิตและจัดการดาวเทียมขนาดเล็ก ในฟินแลนด์
- Hawk 11A,11B,11C : ดาวเทียมด้านข่าวกรองทางสัญญาณ จาก HawkEye 360 บริษัทเอกชนสหรัฐฯ ด้านการเก็บ-วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาตำแหน่งด้วยสัญญาณคลื่นวิทยุ โดยใช้เครือข่ายดาวเทียม
- Crocube : ดาวเทียมขนาดเล็กสำหรับสังเกตการณ์โลกดวงแรก ของประเทศโครเอเชีย
- LASARSat : ดาวเทียมขนาดจิ๋วสำหรับสาธิตเทคโนโลยี ของประเทศเช็กเกีย
- XCUBE-1 : ดาวเทียมขนาดจิ๋วสำหรับสังเกตการณ์โลก ของ Xplore บริษัทเอกชนด้านเทคโนโลยีอวกาศในสหรัฐฯ
จะเห็นได้ว่ามีโอกาสพบเห็นแสงในลักษณะนี้ได้บ่อยยิ่งขึ้นในยุคที่เทคโนโลยีอวกาศกำลังก้าวหน้า ถือเป็นเรื่องปกติ และไม่ต้องตื่นตระหนก
อ่านข่าว :