การแกล้งคนอื่นเพื่อเรียกยอดไลก์และสร้างรายได้บนโลกโซเชียล กลายเป็นเทรนด์ที่เพิ่มขึ้นในยุคปัจจุบัน ในบางกรณีอาจดูเหมือนเป็นวิธีที่น่าสนุก หรือเป็นช่องทางในการสร้างความนิยมให้เจ้าของช่อง และผลกำไรจากการแชร์เนื้อหาผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น YouTube, Instagram, หรือ TikTok
การแกล้งคนเพื่อดึงดูดความสนใจและเรียกยอดไลก์ อาจมีผลกระทบต่อผู้ที่ถูกแกล้งและผู้ที่เป็นผู้แกล้งเองในหลายมิติ ทั้งในด้านจิตวิทยา สังคม และกฎหมาย
ผลกระทบทางจิตใจ
การแกล้งที่ทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดทางจิตใจหรืออารมณ์สามารถมีผลกระทบระยะยาวต่อผู้ถูกแกล้งได้ โดยเฉพาะเมื่อการแกล้งนั้นทำให้ผู้ถูกแกล้งรู้สึกอาย เสียศักดิ์ศรี หรือถูกทำลายความมั่นใจในตัวเอง ตัวอย่างเช่น การแกล้งที่มีการเผยแพร่ภาพหรือวิดีโอบนโซเชียลมีเดีย สามารถนำไปสู่การโดนกลั่นแกล้งทางออนไลน์ หรือการถูกแซวในทางที่ไม่ดีจากผู้ชม ซึ่งผลกระทบจากการโดนแกล้งนั้นอาจทำให้เกิดความวิตกกังวล, ความเครียด หรือภาวะซึมเศร้า ตามมา
ผู้ที่ถูกแกล้งอาจรู้สึก ว่าตัวเองถูกโจมตีในที่สาธารณะ ยิ่งถ้าการแกล้งนั้นถูกเผยแพร่ไปในที่ที่คนจำนวนมากสามารถเห็นได้
จนส่งผลให้เสียความมั่นใจในตัวเอง บั่นทอนศักดิ์ศรี ทำให้การนับถือตัวเองลดลง เกิดความรู้สึกน้อยเหนือต่ำใจ จนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลได้
อ่านข่าว : "แบงค์ เลสเตอร์" คนดังโซเชียล เสียชีวิตหลังถูกจ้างดื่มเหล้า
ผลกระทบทางสังคม
การแกล้งคนอื่นเพื่อเรียกยอดไลก์ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้ถูกแกล้งเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้แกล้งและผู้ที่ถูกแกล้ง เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือคู่สมรส โดยเฉพาะเมื่อการแกล้งมีการใช้การกระทำที่รุนแรงหรือไม่เหมาะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจหรือความขัดแย้งระหว่างกัน
การแกล้งที่ใช้ความรุนแรง โดยผู้แกล้งไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น อาจนำไปสู่การเข้าใจผิด ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนหรือคนในครอบครัวตึงเครียดได้ จนทำให้ไม่สามารถเชื่อใจหรือสนิทใจกับผู้แกล้งได้ การแกล้งในลักษณะที่ทำให้ผู้ที่ถูกแกล้งรู้สึกอับอายหรือเจ็บปวด อาจทำให้เกิดความบาดหมางที่ยากจะเยียวยา
ผลกระทบทางกฎหมาย
ในบางกรณี การแกล้งเพื่อเรียกยอดไลก์ อาจเกินขอบเขตจนกลายเป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลหรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเมื่อการแกล้งนั้นมีการเผยแพร่เนื้อหาที่ละเมิดความเป็นส่วนตัว สร้างความเสียหายทางร่างกายหรือจิตใจ
ในแง่ของการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล การเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ถูกแกล้ง ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และอาจทำให้ผู้ถูกแกล้งฟ้องร้องได้ การแกล้งที่ใช้ความรุนแรง จนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ อาจทำให้ผู้แกล้งถูกฟ้องร้อง ในข้อหาทำร้ายร่างกายหรือการละเมิดกฎหมายต่าง ๆ
อ่านข่าว : ตร.รอผล "แบงค์ เลสเตอร์" ก่อนพิจารณาความผิด เทียบคดี "ลัลลาเบล"
จิตวิทยา-จริยธรรมการแกล้งเพื่อเรียกยอดไลก์
การแกล้งที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ มักจะมีแรงจูงใจจากการต้องการสร้างเนื้อหาที่ "สุดโต่ง" เพื่อเรียกยอดไลก์หรือยอดวิว ซึ่งในหลายกรณี อาจเลยเถิดข้ามเส้นจริยธรรมได้ ถ้าผู้สร้างเนื้อหาไม่ได้พิจารณาถึงความรู้สึกของผู้ที่ถูกแกล้งอย่างรอบคอบ การทำเช่นนี้มักมีแรงจูงใจในเชิงเศรษฐกิจหรือเพื่อการสร้างภาพลักษณ์บนโลกออนไลน์ของช่องตนเอง
เพราะมีแรงจูงใจจากการต้องการได้รับความสนใจหรือการสร้างรายได้จากโฆษณาหรือการร่วมโปรโมตสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หากผู้สร้างเนื้อหามุ่งเน้นที่การเพิ่มยอดวิวเป็นหลัก โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ที่ถูกแกล้ง อาจทำให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์ที่ขาดความรับผิดชอบ
บางกรณีผู้แกล้งมองว่าเป็นแค่ "การหยอกล้อ" หรือ "เพื่อความบันเทิง" แต่ในมุมมองของผู้ที่ถูกแกล้งอาจถือเป็นการละเมิดขอบเขตทางจริยธรรมและจิตใจได้
อ่านข่าว : เตือนดื่มสุรามากในระยะเวลาสั้น ออกฤทธิ์รุนแรงอันตรายถึงตาย
เมื่อควรหยุดการแกล้ง
เว็บไซต์ Phochology Today ระบุว่า การแกล้งไม่ควรทำในสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายทางจิตใจหรือร่างกายแก่ผู้ถูกแกล้งเมื่อ
- ผู้ถูกแกล้งแสดงความไม่พอใจหรือบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการให้มีการแกล้งอีกต่อไป ผู้แกล้งควรหยุดและให้ความเคารพต่อขอบเขตและความรู้สึกของผู้อื่น
- หากการแกล้งทำให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล หรือบาดเจ็บทางร่างกาย ผู้แกล้งควรพิจารณาหยุดและขอโทษ รวมถึงหาทางแก้ไข
- หากการแกล้งทำให้ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวหรือเพื่อนเสื่อมลง การแกล้งอาจกลายเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและควรหลีกเลี่ยง
เหล่านี้คือหลักการเพียงเท่านั้น แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง "การกลั่นแกล้งกัน" เป็นพฤติกรรมที่ไม่น่ายอมรับและเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นในโรงเรียน สถานที่ทำงาน หรือแม้แต่ในโลกออนไลน์ การกระทำใด ๆ ที่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกเจ็บปวด อับอาย หรือถูกกีดกัน ล้วนเป็นการกลั่นแกล้งทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้คำพูดที่รุนแรง การกระทำที่รุนแรงทางกาย หรือการบูลลีผ่านโซเชียลมีเดีย
การกระทำเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ถูกกระทำอย่างรุนแรง อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล หรือแม้แต่ความคิดที่จะทำร้ายตัวเองได้
สังคมควรให้ความสำคัญกับปัญหาการกลั่นแกล้งและร่วมกันสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน การปลูกฝังค่านิยมที่ดีงาม การให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของการกลั่นแกล้ง และการส่งเสริมให้ทุกคนมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดปัญหาการกลั่นแกล้งได้ นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งครอบครัว โรงเรียน ชุมชน และภาครัฐ ก็เป็นสิ่งจำเป็นในการแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไป
อ่านข่าว : "หมอแล็บแพนด้า" เตือนกระดกแอลกอฮอล์เพียว-หมดไว ระวังถึงตาย