วันนี้ (1 ม.ค.2568) เมืองใหญ่ที่แรก ๆ ที่มีโอกาสได้นับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ คือที่นครโอกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ โดย โอกแลนด์ สกาย ทาวเวอร์ เปิดไฟนับถอยหลังพร้อมจุดดอกไม้ไฟตระการตาเหมือนเช่นทุกปี การแสดงดอกไม้ไฟและแสงสีชุดนี้เตรียมการมานานถึง 5 เดือน ใช้เวลาติดตั้งอุปกรณ์มากกว่า 350 ชั่วโมง และใช้ดอกไม้ไฟน้ำหนักรวม 500 กิโลกรัม
การแสดงชุดนี้กินเวลานาน 5 นาที ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่มารอชมอยู่ด้านล่าง เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการก้าวเข้าสู่ปี 2568
ขณะที่ท้องฟ้าเหนือ ซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ ในนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย สว่างไสวไปด้วยแสงสีสวยงามจากดอกไม้ไฟที่ถูกจุดขึ้นทันทีเมื่อเวลาล่วงเข้าสู่วันใหม่ของปี 2568 โดยประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มารอชมการแสดงดอกไม้ไฟนี้ต่างส่งเสียงด้วยความดีใจ ท่ามกลางบรรยากาศสุดคึกคัก
การแสดงชุดนี้ใช้ดอกไม้ไฟมากกว่า 9 ตัน ซึ่งการแสดงดอกไม้ไฟของซิดนีย์ถือเป็นหนึ่งในการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ที่แรก ๆ ของโลก ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า น่าจะมีผู้เข้าร่วมชมการแสดงสุดตระการตานี้มากกว่า 1,000,000 คน
เอเชียคึกคักจัดงานฉลองปีใหม่
ที่ไทเป ไต้หวัน อาคารไทเป 101 อาคารที่สูงที่สุดในไต้หวัน ด้วยความสูง 508 เมตร จุดดอกไม้ไฟอลังการตระการตารอบอาคาร เป็นการแสดงยาวต่อเนื่อง 6 นาที ภายใต้แนวคิด ทีม ไทเป แชมป์เปียน ที่ได้แรงบันดาลใจจากชัยชนะของทีมเบสบอลซึ่งไปคว้าชัยชนะระดับโลกมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน
เช่นเดียวกับที่ฮ่องกงที่เปิดการแสดงแสงสีเสียงและดอกไม้ไฟเต็มรูปแบบริมอ่าววิกตอเรีย ความยาว 12 นาทีเต็ม ภายใต้แนวคิด เอดะ ซิมฟานี ออฟ แฮปปีเนส ส่งสารถึงความมั่งมีในการเฉลิมฉลองปีนี้
ผู้ออกแบบการแสดงอลังการครั้งนี้คือ หลิว หลิน ผู้กำกับที่อยู่เบื้องหลังการแสดงดอกไม้ไฟในพิธีเปิดและปิดกีฬาโอลิมปิกปักกิ่ง 2551
ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวหลายร้อยคนต่อแถวรอตีระฆังที่วัดโทะคุไดจิในกรุงโตเกียว เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น เพื่อความเป็นสิริมงคลหลังญี่ปุ่นก้าวเข้าสู่ปี 2568 ซึ่งผู้คนที่อยู่บริเวณดังกล่าวต่างส่งเสียงดีใจและอวยพรปีใหม่ให้กันและกันเมื่อล่วงเข้าสู่ศักราชใหม่
ถัดมา ในเวลาเดียวกับประเทศไทยเข้าสู่ศักราชใหม่ ที่กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียจุดดอกไม้ไฟตระการตาเต็มท้องฟ้า ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เช่นกัน งานนี้จัดขึ้นใจกลางกรุงจาการ์ตา โดยมีผู้เข้าชมจำนวนมาก แน่นขนัดวงเวียน Selamat Datang Monument ที่มีห้างสรรพสินค้าและโรงแรมใหญ่รายล้อม นอกจากนี้ยังมีการเปิดไฟที่อนุสาวรีย์แห่งชาติอินโดนีเซีย - โมนาส
UAE โชว์ดอกไม้ไฟฉลองปีใหม่
ข้ามไปที่ตะวันออกกลาง ขาดไม่ได้คือที่ อาคารเบิร์จ คาลิฟา ในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่เปิดไฟรับปี 2568 พร้อมขึ้นข้อความต้องรับศักราชใหม่หลากหลายภาษา รวมถึงภาษาจีน ซึ่งสำหรับที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จัดงานฉลองรับปีใหม่ในหลายเมืองใหญ่
อีกจุดหนึ่งจัดที่รัฐราสอัลไคมาห์ ที่การแสดงใช้ทั้งดอกไม้ไฟและโดรนประกอบกัน กลายเป็นการแสดงรับปีใหม่สุดอลังการ การแสดงครั้งนี้กินเวลา 15 นาทีและมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าผู้จัดตั้งใจทำสถิติโลกครั้งใหม่
รัฐราสอัลไคมาห์ (Ras Al-Khaimah) เป็นหนึ่งในเมืองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่มีชื่อเสียงในการจัดแสดงดอกไม้ไฟอลังการ และได้สร้างสถิติ Guinness World Records หลายรายการ เช่น การจัดแสดงดอกไม้ไฟที่ใช้โดรนมากที่สุด การจัดแสดงดอกไม้ไฟที่มีความยาวที่สุด การใช้ดอกไม้ไฟจำนวนมากที่สุดในการแสดงชุดเดียว
ภาพแปลกตาที่อาจจะไม่ได้เห็นมานานหลายปี คือการฉลองปีใหม่ในกรุงดามัสกัสของซีเรีย หลังชาวซีเรียก้าวเข้าสู่ยุคใหม่เมื่อกลุ่มต่อต้านเข้ายึดกรุงดามัสกัสได้ในวันที่ 8 ธ.ค.2567 บีบให้ อดีต ปธน.บาชาร์ อัล-อัสซาด ต้องหลบหนี หลังจากสงครามกลางเมืองที่ยาวนานกว่า 13 ปี และจบการปกครองที่ยาวนานหลายทศวรรษของตระกูลอัสซาด
หาดโคปาคาบานาจ่อรับ 2.5 ล้าน นทท.ฉลองปีใหม่
ส่วนทวีปอเมริกา แม้จะยังไม่เข้าสู่ศักราชใหม่ แต่เตรียมความพร้อมรับการเฉลิมฉลองอย่างเต็มที่ นักท่องเที่ยวจำนวนมากนอนอาบแดดและลงเล่นน้ำบริเวณชายหาดโคปาคาบานา สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในนครริโอ เด จาเนโร ของบราซิล ซึ่งคนในพื้นที่ ระบุว่า ผู้คนเริ่มทยอยเดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองนี้ตั้งแต่ช่วงหลังคริสต์มาส จนทำให้ชายหาดแห่งนี้คราคร่ำไปด้วยผู้คน
หาดโคปาคาบานาถือเป็นหนึ่งในจุดจัดงานฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยในทุก ๆ ปี จะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมารวมตัวกันในจุดนี้เพื่อร่วมกิจกรรมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ ซึ่งสำนักนายกเทศมนตรีริโอ เด จาเนโร คาดการณ์ว่า จะมีผู้มาร่วมงานเทศกาลแห่งความสุขที่นี่ประมาณ 2,500,000 คน
อ่านข่าว :
"ในหลวง" พระราชทานพรในโอกาสปีใหม่ 2568