ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ฟื้นคดี "เสื้อแดง 99 ศพ" หมากบนกระดาน-กู้ฐานเสียงคืนเพื่อไทย

การเมือง
6 ม.ค. 68
16:15
4,355
Logo Thai PBS
ฟื้นคดี "เสื้อแดง 99 ศพ" หมากบนกระดาน-กู้ฐานเสียงคืนเพื่อไทย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

หลัง "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี "แพทองธาร ชินวัตร" นำญาติผู้เสียชีวิตของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ "เสื้อแดง" จำนวน 68 คน จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ปี 2553 ทั้งที่ ได้มีการไต่สวนในชั้นศาล และได้ข้อยุติไปแล้วในช่วงปี 2557 เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค.2567

ไม่เพียงสร้างความประหลาดใจให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงเท่านั้น แต่ยังทำให้อดีตผู้ร่วมชุมนุมและแกนนำคนเสื้อแดงยังตั้งกลุ่มวิพากษณ์ถึงการกระทำดังกล่าวว่า เป็นการกระทำที่หวังผลทางการเมือง โดยเฉพาะการเรียกคะแนนเสียงและความนิยมให้กลับคืนมา

แม้ณัฐวุฒิ ในฐานะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลว่ากระบวนการยุติธรรมสำหรับคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมจะสิ้นสุดลงแล้วก็จริง แต่มีผู้ตกเป็นเหยื่อเพียง 31 คน เท่านั้นที่ศาลชี้ว่า เสียชีวิตจากอาวุธของเจ้าหน้าที่จำนวน 17 คน ส่วนอีก 14 คน ศาลระบุว่าไม่สามารถชี้ชัดว่าเสียชีวิตจากบุคคลกลุ่มใดหรือใครกระทำ ดังนั้น จึงเหลืออีก 68 คนที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม

ส่วน ธงชัย พรเศรษฐ์ รองนายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ระบุว่า ผู้เสียชีวิต 68 คนมีการทำสำนวนคดี แต่ไม่ปรากฎว่า มีคำสั่งฟ้องจากศาลใด ๆ ส่วนการเยียวยาได้รับแล้วตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อน แต่คนเสื้อแดงต้องการให้คดีมีความคืบหน้าให้มากกว่านี้  และในฐานะทนายความคดีคนเสื้อแดง จึงอยากออกมาทวงความยุติธรรม และยืนยันว่า การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และอย่าจับมาโยงกัน

ถึงการกระทำและคำพูดของ "ณัฐวุฒิ และ ธงชัย" จะระบุเช่นนั้น แต่การออกมาขยับโดยยื่นเรื่องขอให้ดีเอสไอตรวจสอบและรื้อคดีในรัฐบาลเพื่อไทย ไม่เพียงทำให้เกิดคำถามว่า มีนัยทางการเมืองแอบแฝงอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้หรือไม่

เสื้อแดง "หมากบนกระดาน" ของเพื่อไทย

จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน วิเคราะห์ว่า ต้นสายปลายเหตุของการออกมายื่นดังกล่าว เกิดจากการที่พรรคเพื่อไทย "ผิดสัญญา" ต่อมวลชนเสื้อแดง ในประเด็น การแก้ไขกฎหมายให้ญาติผู้เสียชีวิต สามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านการชี้มูลของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายใน 100 วัน

"แรก ๆ ก็ยื่นแก้ไขกฎหมายให้ แต่อยู่ ๆ ก็ไปถอนร่างฯ เสียอย่างนั้น … คาดว่ามาจากการร่วมรัฐบาลข้ามขั้วแน่นอน … และ ณัฐวุฒิ ก็ไม่ได้อยากเสียมวลชนเสื้อแดงไป จึงมาดำเนินการให้ในฐานะประชาชน โดยลืมไปว่า ขาอีกข้างนั้นเป็นที่ปรึกษานายกฯ … เป็นการไม่ทำตามสัญญา แต่ทำตามคำเรียกร้องของเสื้อแดง"

จตุพร บอกว่า ประชาชนเป็นได้เพียงแค่ "หมากบนกระดาน" ที่พรรคเพื่อไทยและแกนนำใช้เป็น "เครื่องมือทางการเมือง" เท่านั้น เพราะหากพิจารณาตามตรงแล้ว พรรคเพื่อไทยมีทั้งอำนาจและคนของตนเอง หลังจากได้เป็นรัฐบาล จะไล่เช็คบิลหรือเอาคืนทบต้นทบดอกให้คนเสื้อแดงอย่างไรก็ได้

กรณีนี้ คาดเดาว่า อาจจะมีปัญหาบางอย่างที่ไม่ลงตัวกับพรรคร่วม เลยใช้ไม้ตายนี้เพื่อสร้างข้อต่อรอง

"สงครามสีเสื้อหมดไปตั้งแต่รัฐบาลข้ามขั้วเกิดขึ้น มวลชนโดนหลอกกันถ้วนหน้า เป็นได้เพียงเบี้ย ที่เขาจะใช้งานอย่างไรก็ได้ มีประโยชน์ก็เข้าหา หากหมดประโยชน์ก็ใช้แล้วทิ้งไม่แยแส … ครั้งนี้ที่ใช้งานเสื้อแดง คงเป็นความไม่ลงรอยบางอย่างในพรรคร่วม ซึ่งผมก็ไม่ทราบรายละเอียด แต่ต้องมีอะไรบางอย่างแน่ ๆ"

วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เตือนคนเสื้อแดงว่า ควรจะตาสว่างได้แล้ว เห็นๆ กันอยู่ว่า พรรคเพื่อไทยผิดสัญญาสารพัด การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ มีแต่เพียงประชาชนกันเองเท่านั้นที่รักในการเรียกร้องสิทธิ และประชาธิปไตย

ให้ ป.ป.ช. ไต่สวนเรื่องก็จบเหมือนเดิม แนวทางวินิจฉัยก็เห็น ๆ กันอยู่ … ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เสื้อแดง แต่อยู่ที่พรรคเพื่อไทยไม่ผลักดันเต็มที่ แก้กฎหมายคือจบ แต่ไม่เกิดขึ้น … และตั้งแต่ทักษิณ ชินวัตร กลับมา อะไร ๆ ก็เหมือนจะเปลี่ยนไปมาก

"กู้คะแนนเสียง" เสื้อแดง คืนสู่เพื่อไทย

ทางด้าน วัชระ เพชรทอง บอกว่า การออกมาเรียกร้องความยุติธรรมของ ณัฐวุฒิ อดีตแกนนำคนเสื้อแดง และที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นการกระทำที่มีนัยทาง การเมืองอย่างเห็นได้ชัด แต่ทำตามคำสั่งของใคร ไม่ขอพูดถึง ส่วนจุดประสงค์ที่พอจะอนุมานได้ คือ ทำไปเพื่อ "กอบกู้คะแนนนิยมคนเสื้อแดง" ที่หายไปจากการจัดตั้งรัฐบาล "ผสมข้ามขั้ว" ให้กลับมาอีกครั้ง

"ณัฐวุฒิ ต้องการคะแนนเสียงจากคนเสื้อแดงในภาคอีสานและภาคเหนืออย่างชัดเจน โดยเฉพาะในการเลือกตั้งอบจ.ทั่วประเทศ ที่จะกำลังจะมาถึงนี้ เพราะถือว่าเสียคะแนนไปมากพอสมควรจากการร่วมรัฐบาลกับพรรคข้ามขั้ว … ส่วนจะหวังผลในการเลือกตั้งใหญ่หรือไม่ ตรงนี้ อยู่ที่ว่า คนเสื้อแดงจะคล้อยตามเขามากน้อยขนาดไหน ในการเมืองที่ถูกทรยศเช่นนี้"

อดีต สส.ปชป. บอกว่า อย่างไรก็ตาม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจับตาการเคลื่อน ไหวของ พ.ต.ต. ยุทธนา อธิบดีดีเอสไอ ให้ดี ๆ เนื่องจากได้รับความช่วยเหลือจาก พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่มีความใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทย

"ผมเชื่อว่า อธิบดีดีเอสไอ ไม่มีทางที่จะเอนเอียง เพราะมีอุทาหรณ์จากการใช้อำนาจในทางมิชอบของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ในคดีนี้มาแล้ว ที่ต้องการเอาผิด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ให้ได้ แต่ศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุก อดีตอธิบดีดีเอสไอว่า ใช้อำนาจรังแกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ปัจจุบันก็ยังติดคุกอยู่บทเรียนนี้ เชื่อได้ว่า พ.ต.ต. ยุทธนา ไม่มีทางกล้าทำอะไรเสี่ยง ๆ แน่นอน"

วัชระ กล่าวว่า ส่วนประเด็นความขุ่นเคืองของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคร่วมรัฐบาลที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการที่คนของพรรคเพื่อไทยต้องการรื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมา ในฐานะอดีต สส. ของพรรค ขอสงวนท่าที ไม่อยากให้กระทบกับหลาย ๆ ฝ่าย แต่ก็แสดงความมั่นใจว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นพี่น้องเสื้อแดงเอง ที่จะเลือกไว้ใจหรือจะหมดความเชื่อมั่นต่ออดีตแกนนำผู้นี้

"ในนามพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อได้เลยว่า อธิบดีดีเอสไอ เห็นบทเรียนมาแล้ว ไม่มีความน่ากังวลแต่อย่างใด … ณัฐวุฒิ ทำตามสคริปต์ที่วางไว้ ทั้งนั้น เสื้อแดงจะถูกจูงจมูก หรือจะตาสว่าง อยู่ที่เลือกเอง … การออกมาเรียกร้องความยุติธรรม เป็นสิทธิของญาติพี่น้องผู้สูญเสีย ตรงนี้ ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้" วัชระ ตั้งข้อสังเกตทิ้งท้าย

ขณะที่จตุพร ทิ้งท้ายว่า สำหรับพรรคเพื่อไทย ที่อยากได้คะแนนเสียงของพี่น้องเสื้อแดงในการเลือกตั้งครั้งหน้า หรือการเลือกตั้ง อบจ.ในเดือน ก.พ. หรือไม่ก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุด อยู่ที่ว่า เมื่อพูดอะไรไปแล้ว ทำตามที่พูดได้หรือไม่ รัฐบาลข้ามขั้วลักษณะนี้ มวลชนทั้งหลาย ไม่มีทางเลยที่จะอยากออกมาชุมนุม และสนับสนุนพรรคอีกต่อไป

อ่านข่าว

"ทักษิณ" ปราศรัย 29 ม.ค.แจก 1 หมื่นผู้สูงอายุ ไม่มีปัจจัยปรับ ครม.

จับกระแสการเมือง : วันที่ 3 ม.ค.2568 “อนุทิน” ปลอบ ปชน.พื้นฐานดี อย่ากังวล “นายกฯ” อู้ฟู่รวย 1.38 หมื่นล้าน

นิด้าโพล เผย ประชาชน 50.61% ชี้การเมืองวุ่นวายเหมือนเดิม “แพทองธาร”อยู่ยาว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง