ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

โหมกระแส “ปรับครม.” หวังส้มหล่น-รอคิว

การเมือง
7 ม.ค. 68
16:13
328
Logo Thai PBS
โหมกระแส “ปรับครม.” หวังส้มหล่น-รอคิว
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ปลุกกระแสตั้งแต่ต้นปี 2568 เรื่องปรับคณะรัฐมนตรี ขยายไฟความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล จนมีข่าว นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ จะถูกปรับออกจากครม. เนื่องจากมีแนวทางจะล้างบางทุนผูกขาดพลังงาน ทั้งน้ำมัน แก๊ส และไฟฟ้า ซึ่งเดิมมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับพรรคและ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลก่อนหน้า

สัญญาณยิ่งเข้มข้นมากขึ้น เมื่อจับทางจากคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ช่วงหลังๆ พูดถึงเรื่องพลังงานบ่อยขึ้น โดยเฉพาะราคาไฟฟ้าต่อหน่วย น่าจะอยู่ที่ 3 บาทกลางๆ เต็มที่ 3.70 บาท ต่ำกว่าที่กระทรวงพลังงาน โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ ตรึงราคาคิดค่าไฟฟ้าจากผู้ใช้กลุ่มเปราะบางที่หน่วยละ 3.99 บาท

เมื่อไปผูกโยงกับคะแนนนิยมจากผลโพลของนิด้าโพล ที่ทำประจำเป็นรายไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 3/67 และต่อเนื่อง 4/67 ทั้งนายพีระพันธุ์ และคะแนนนิยมของพรรคอยู่ในลำดับที่ 4 นับตั้งแต่หลังเลือกตั้งเป็นต้นมา

หลังสุดครั้งที่ 4/67 ทั้งคนทั้งพรรคทะลุ 10 % สะท้อนนัยสำคัญทางการเมือง เพราะนายพีระพันธุ์ถือเป็นดีเอ็นเอทางการเมืองของ “ลุงตู่” อดีตผู้นำรัฐบาลในขั้วอนุรักษ์นิยม และสามารถเก็บเกี่ยวผลงานจากเรื่องราคาไฟฟ้าและน้ำมัน เป็นที่ปรากฏชัดในกลุ่มคอการเมือง

และมาได้คะแนนใส่กระเป๋าเพิ่มอีก ในการนั่งหัวโต๊ะประชุม กพช. (คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ) แทนนายกรัฐมนตรี และสั่งให้ชะลอรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม 3,668 เมกะวัตต์ ที่ฝ่ายค้านตั้งเป็นกระทู้ถามนายกฯ เมื่อกลางเดือนธันวาคม หวั่นจะเป็นภาระให้ผู้ใช้ไฟฟ้าในราคาที่สูงขึ้น ด้วยเหตุผลเพื่อขอตรวจสอบความถูกต้อง เป็นของขวัญวันคริสมาสต์ส่งท้ายปี

ยังไม่นับรวมร่างกฎหมายกำกับการประกอบกิจการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง ที่นายพีระพันธ์บอกว่ากำลังตรวจแก้ไขต้นร่างกฎหมายนี้ จะมีข้อกำหนดไม่ให้ปรับราคาน้ำมันขึ้นลงแบบรายวันตามใจผู้ประกอบการอีก

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องล้างบางกลุ่มทุนผูกขาดเรื่องไฟฟ้า ด้านหนึ่งแม้จะอ้างว่านายกฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เห็นด้วย แต่เจ้าตัวยังระมัดระวัง แบบเลี่ยงๆ ไม่ชัดเจน เห็นได้ชัดจากการตอบกระทู้สดในที่ประชุม สว.เมื่อ 6 ม.ค.2568 เรื่องการสนับสนุนตลาดพลังงานสะอาดผ่านโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ที่ถูก สว.ตั้งคำถามว่า เอื้อให้กับกลุ่มทุน นายพีระพันธุ์ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่า มีการผูกขาดพลังงาน เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่ง และการแก้ไขต้องมีขั้นตอน ไม่สามารถแก้ได้ในทันทีทันใด

ก่อนหน้านี้ ในวันอวยพรปีใหม่ให้ประชาชน นายพีระพันธุ์ยังพูดถึงแนวทางและการให้ความสำคัญกับการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยเหตุผลเพื่อช่วยให้ประชาชนลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าลงได้ ไม่ได้มุ่งไปที่แก้ไข หรือยกเลิกสัญญาที่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุน

นายพีระพันธ์ ที่เก๋าเกมการเมืองมานาน ยังปฏิเสธเรื่องมีปัญหาการทำงานร่วมกันในรัฐบาล ฉะนั้น ใครจะปั้นข่าวขัดแย้งอย่างไร ตนไม่สนใจ และไม่กลัวเกมเสี้ยมให้ผิดใจกัน

แต่กระนั้น ยังมีความพยายามกระพือข่าว นายพีระพันธุ์จะถูกปรับออกจากครม. โดยอ้าง “นายใหญ่” กระทั่งนายทักษิณ และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ แกนนำในรัฐบาล ต้องออกโรงปฏิเสธเรื่องดังกล่าว

และอ้างอิงในเชิงหลักการว่า อำนาจการปรับคณะรัฐมนตรี อยู่ที่นายกฯ น.ส.แพทองธร และตามสูตรเช่นเคย คือโยนเรื่องไปที่สื่อ และอ้างกูรูทางการเมือง ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลและนายทักษิณ โหมกระพือและจุดพลุให้เป็นเรื่องใหญ่ ทั้งที่ไม่มีข้อมูลเพียงพอ

สำหรับเรื่องปรับ ครม. ความจริงมีฝ่ายการเมืองจำนวนหนึ่ง ที่มุ่งหวังอยากให้มีการปรับเปลี่ยนครม. เพราะเท่ากับมีระดับแกนนำหรือผู้นำกลุ่มการเมือง ที่อยู่ในข่ายจะได้ลุ้นตำแหน่งรัฐมนตรีเช่นกัน

หรืออย่างน้อยที่สุด ก็หวังจะโยนหินถามทาง เพื่อดูท่าทีและปฏิกิริยาจากผู้มีอำนาจในพรรคและรัฐบาล เพราะการจุดพลุปรับ ครม.ไม่ใช่จะทำได้ทันทีทันใด ต้องใช้เวลาเช่นกัน

ซึ่งสอดคล้องกับปฏิทินทางการเมือง ที่ฝ่ายค้านจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ช่วงเดือนมี.ค.2568 ซึ่งปกติ เมื่อเสร็จศึกการอภิปรายทั่วไปแล้ว มักจะมีการปรับ ครม.ตามมา ทั้งกับรัฐมนตรีที่ตกเป็นเป้าถูกซักฟอก แล้วไม่สามารถชี้แจงตอบข้อสงสัยหรือตอบได้แบบค้างคาใจผู้คน จะถือเป็นจุดอ่อนของรัฐบาลที่ต้องปรับแก้ ยังไม่นับกลุ่มรัฐมนตรีโลกลืม และเก้าอี้รัฐมนตรีส่วนหนึ่ง ที่จะเป็น “เก้าอี้ดนตรี” ได้เวลาต้องผลัดเปลี่ยนให้คนอื่นไปนั่งบ้าง

ประกอบกับหลังการอภิปรายเดือนมีนาคม หรือปลายเดือนเมษายน รัฐบาล น.ส.แพทองธาร จะครบเวลาบริหารงาน 6-7 เดือน ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่รัฐบาลตั้งแต่สมัยพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทย มักจะมีการปรับเปลี่ยน ครม.มาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ถึงพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย

จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะมีความคิดเนี้ออกมาจากวงในรัฐบาลเอง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆ คงจะขยับน้อยเพื่อลดแรงกระเพื่อมในพรรค แต่สิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้ คืออาจมีการเจรจาต่อรองแลกเปลี่ยนกระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงที่พรรคเพื่อไทยจ้องตาเป็นมัน และอยากจะได้ หนึ่งในนั้นคือกระทรวงพลังงาน

การออกโรงเปิดประเด็นและจุดกระแสปรับ ครม.จึงเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี แต่ความจริงหวังผลเร็วสุด ในเป็นช่วงหลังศึกซักฟอกรัฐบาล

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : พบผู้ป่วย "ไข้หวัดนก" เสียชีวิตคนแรกในสหรัฐฯ - ไทยเฝ้าระวังเข้ม

รพ.ช้างกระบี่ เปิดสาเหตุ "ช้างตกใจ" ทำร้ายนักท่องเที่ยวสเปนเสียชีวิต

จ่อเรียกปรับ "รถหรู" ซิ่งบนเขาใหญ่ ทำช้างป่าตกใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง