วันนี้ (14ม.ค.2568) น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้เชิญบริษัท OPPO และ Realme ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ หลังมีการติดตั้งแอปพลิ เคชันสินเชื่อที่สร้างความเสียหายให้กับผู้บริโภคจำนวนมาก เข้ามาชี้แจง รวม ถึงจะมีการเชิญบริษัทอื่น ๆ เข้ามาพูดคุยด้วย เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน ไม่ให้เกิดกรณีเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากทั้ง 2 บริษัทไม่มีการถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันออกจากระบบ จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป น.ส.จิราพร กล่าวว่า กล่าวว่า ขณะนี้ได้เปิดให้ผู้เสียหายร้องเรียนเพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งทางบริษัทตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์ต้องมีการชี้แจงที่มาที่ไป ที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภค หากส่วนใดที่กระทบต่อผู้บริโภค ก็ต้องมีมาตรการหลายอย่างที่ต้องดำเนินการ
สำหรับข้อมูลที่ประชาชนที่หลุด ไปประเทศจีน จะดำเนินการในส่วนนี้อย่างไร น.ส.จิราพร กล่าวว่า ประเด็นนี้ต้องคุยกันหลายหน่วยงาน ซึ่งมีทั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในส่วนของ สคบ.จะรับข้อมูลจากผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายก่อน ซึ่งอาจจะต้องมีการขอความร่วมมือไปยังต่างประเทศด้วย
น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ส่วนจะมีมาตรการประกาศระงับขายโทรศัพท์ทั้ง 2 ยี่ห้อไว้ก่อนหรือไม่ น.ส.จิราพร ระบุว่า ต้องรอข้อเท็จจริงก่อน เพราะขณะนี้ทางกระทรวงดีอี ได้เชิญบริษัทที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงด้วยเช่นเดียวกัน
จะดำเนินการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพราะค่อนข้างกระทบกับผู้บริโภคจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นประเด็นที่ค่อนข้างกังวล
ส่วนทั้ง 2 บริษัทจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนที่ผู้บริโภคได้รับความเสียหายหรือไม่ น.ส.จิราพร ระบุว่า ต้องยึดตามข้อเท็จจริง โดยจะต้องนำข้อมูลจาก กสทช.ที่มีการเรียกคุยกันวานนี้ (13 ม.ค.) บูรณาการร่วมกันกับรายหน่วยงานด้วย
แอปพลิเคชัน Fineasy ระงับใช้แล้ว
ขณะที่ OPPO ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ขออภัยอย่างยิ่งต่อความไม่สบายใจที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้งานบางแอปพลิเคชันในช่วงที่ผ่านมา เราให้ความร่วมมือและทำงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ดำเนินการทันที ดังนี้
- ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค.นี้ โทรศัพท์ใหม่ที่ยังไม่ได้แก้ไขปัญหาการติดตั้งแอป Fineasy ล่วงหน้าจะไม่ถูกจำหน่ายอีกต่อไป
- ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.นี้ ผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนจะได้รับการอัปเดต OTA (Over-the-Air) ซึ่งเป็นเวอร์ชันระบบใหม่ที่ไม่มีการติดตั้งแอปฯ Fineasy อีกต่อไป
- ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค.นี้จะหยุดการติดตั้งแอปฯ ล่วงหน้าของแอปฯ สินเชื่อของบุคคลที่สามทั้งหมดในอุปกรณ์ของ OPPO
ทั้งนี้ OPPO มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมเพื่อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และยินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลและคุ้มครองผู้บริโภค เราขอขอบคุณความไว้วางใจและการสนับสนุนจากผู้ใช้งานทุกท่านเป็นอย่างดีเสมอมา
ทรูมันนี่ แจงปมถูกพาดพิงแอปทางการเงิน
ขณะที่บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด และบริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ชี้แจงกรณีข่าวผู้ผลิตและจัดจำหน่ายมือถือมีการติดตั้งแอปพลิเคชันทางการเงิน และพาดพิงถึงทรูมันนี่ และบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ผู้ให้บริการทรูมันนี่ ดังนี้
- แอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ เป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการทางการเงินอย่างถูกกฎหมาย
- บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัดและบริษัทในเครือทั้งหมด รวมถึงบริษัท ทรูมันนี่ จำกัด มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง โดยบริษัท ทรูมันนี่ ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กกทรอนิกส์ จากธนาคารแห่งประเทศไทย และบริษัท แอสเซนต์ นาโน จำกัด ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อดิจิทัลจากธนาคารแห่งประเทศไทย
- บริษัทไม่มีนโยบายหรือการร่วมมือกับผู้ผลิตมือถือแบรนด์ใดๆ ทำการติดตั้งแอปพลิเคชันทรูมันนี่ ตั้งแต่ผลิตลิตที่โรงงาน รวมทั้งไม่มีการติดตั้ง Pre-Install แอปพลิเคชันทรูมันนี่ ในมือถือที่จำหน่ายที่ร้านหรือตัวแทนจำหน่ายใดๆ ทั้งสิ้น
- หากผู้ใช้งานประสงค์จะใช้งานแอปพลิเคชันทรูมันนี่ ต้องทําการดาวน์โหลดแอปฯ ด้วยตนเองผ่าน Apple Store หรือ Play Store และเป็นผู้ให้ความยินยอมเองตลอดกระบวนการสมัครและใช้บริการ
นอกจากนี้ ยังยืนยันให้ความสำคัญในการปกป้องข้อมูลลส่วนบุคคลแลและความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ใช้งานในระดับสูงสุด ภายใต้พ.ร.บ.พคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคคลอย่างเคร่งครัด และมีการขออนุญาตเพื่อเก็บ รวบรวม และเข้าถึงข้อมูลใด ๆ ของผู้ใช้ก่อนทุกครั้ง และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดทุกประการ
โดยยืนยันว่าบริษัทในเครือทั้งหมดให้ความสำคัญในการปกป้องความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ใช้งานสูงสุด ทั้งนี้ที่ผ่านมาทรูมันนี่ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ 3X Protection ตรวจ-จับ-หยุด มาใช้เพื่อสร้างความรัดกุมในการเข้าใช้บัญชีด้วยการยืนยันตัวตนหลายชั้น และหยุดธุรกรรมแปลกปลอม พร้อมป้องกันการดูดเงิน โดยปิดกั้นการเข้าถึงบัญชีทรูมันนี่ หากอุปกรณ์ของผู้ใช้มีการเปิดการตั้งค่าหรือติดตั้งแอปที่ไม่ปลอดภัย