การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร ที่จะมีขึ้นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ แม้จะมีผู้สมัครมากถึง 4 คน แต่ขณะนี้ลงพื้นที่หาเสียงหลักๆอยู่เพียง 2 คน คือ พันตำรวจเอกกฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ อดีตนายกอบจ.คนเก่า และนายกฤษฏ์ เพ็ญสุภา ซึ่งว่าไปแล้วทั้ง 2 คน ถือเป็นเครือญาติเดียวกัน รู้จักกันเป็นอย่างดี
สำหรับพันตำรวจเอกกฤษฎา ก่อนหน้านี้นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีหลายสมัยเคยให้การสนับสนุนจนชนะเลือกตั้งนายกอบจ.มาได้ แต่หลังเกิดศึกภายใน จึงแยกย้าย ทำให้ศึกครั้งนี้พันตำรวจเอกกฤษฎา หันไปรวมกับกลุ่ม ผู้บริหาร และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร กว่าร้อยละ 60 ลงชิงเก้าอี้เป็นครั้งที่ 2
พันตำรวจเอกกฤษฎา บอกว่า ครั้งนี้เน้นนโยบายพัฒนาแหล่งน้ำทางด้านการเกษตรในพื้นที่กว่า 4 แสนไร่ของจังหวัดพิจิตร ให้สามารถทำนาได้ปีละ 2 ครั้ง รวมถึงการพัฒนาด้านการศึกษาและคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น
ด้านนายกฤษฎ์ ที่มีนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ สนับสนุน โดยใช้ฐานเสียงเก่าของนายประดิษฐ์ ที่เคยมีในสมัยเลือกตั้ง สส. และฐานเสียงจาก อดีตสมาชิกสภาจังหวัด ที่ย้ายมาอยู่ร่วมค่ายกับนายประดิษฐ์ มากกว่าครึ่งหนึ่ง นายกฤษฎ์ บอกว่าๆได้ชูนโยบายล่าสุด 5 ข้อหลักเช่นมอบเงินตำบลละ 1 ล้านผ่านประชาคมความต้องการของชาวบ้าน, ขุดลอกแหล่งน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วม และดึงเม็ดเงินด้านเศรษฐกิจและกีฬา พร้อมเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยว
การเลือกตั้งอบจ.พิจิตรครั้งนี้มีผู้สมัคร 4 คน ประกอบด้วยพันตำรวจเอกกฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ เบอร์ 1, นายกฤษฏ์ เพ็ญสุภา เบอร์ 2, นายประชา โพธิ์ศรี เบอร์ 3 และนายสุขเสริม ไพบูลย์ศิริ เบอร์ 4 แต่น่าจะเป็นการแข่งระหว่าง 2 คน คือ เบอร์ 1 และเบอร์ 2
สำหรับพันตำรวจเอกกฤษฎา ลาออกจากตำรวจมาประกอบธุรกิจส่วนตัว เป็นลูกชายนายวิรัตน์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตกำนันตำบลหัวดง และประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดพิจิตร ซึ่งนายวิรัตน์เป็นลูกชาย นายย่งคุน แซ่เล้า หรือ นายวิศาล ภัทรประสิทธิ์ พ่อของนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต ส.ส.พิจิตร และรัฐมนตรีหลายสมัย เจ้าของตลาดไทย และกิจการโรงแรม อสังหาริมทรัพย์หลากหลาย เพิ่งลงเลือกตั้งครั้งแรกในสนามการเมืองท้องถิ่น ตำแหน่งนายก อบจ.พิจิตร ปี 2563
ส่วนนายกฤษฎ์ เพ็ญสุภา ทายาท รุ่นที่ 3 ของตระกูล “เพ็ญสุภา” ผู้บริหารตลาด “สี่มุมเมือง” หลานชายแท้ๆ ของนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ นักธุรกิจคนรุ่นใหม่ ผู้บริหารตลาดสี่มุมเมือง ถูกวางตัวเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ นายประดิษฐ์ ซึ่งมีความคุ้นเคยกับพรรคภูมิใจไทย จึงส่งตัวไปรู้จักและเรียนรู้งาน ด้วยการเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก่อนจะสมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร