วันนี้ (22 ม.ค.2568) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ประกาศว่ารัฐบาลแคนาดาพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ หากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา โดยรัฐบาลจะมุ่งเน้นปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศ พร้อมทั้งระบุว่าความเจริญรุ่งเรืองของอเมริกาที่ทรัมป์สัญญาเอาไว้ ต้องอาศัยทรัพยากรของแคนาดา
ความเคลื่อนไหวนี้ มีขึ้นหลังจากทรัมป์ระบุกับผู้สื่อข่าวระหว่างลงนามคำสั่งในวันทำงานวันแรก ว่า กำลังคิดจะเก็บภาษีร้อยละ 25 สำหรับการนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ในวันที่ 1 ก.พ. เนื่องจาก 2 ประเทศนี้ไม่ยอมจัดการปัญหาผู้อพยพและยาเสพติดที่ไหลทะลักเข้ามาในสหรัฐฯ
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ในวันที่ 2 ของการทำงาน ทรัมป์ใช้โอกาสระหว่างเปิดการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ประกาศขู่เก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรป โดยทรัมป์ ระบุว่า สหภาพยุโรปและประเทศอื่น ๆ ยังคงมีการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังหารือเกี่ยวกับการเก็บภาษีนำเข้าจากจีนร้อยละ 10 เนื่องจากจีนยังคงปล่อยให้มีการส่งออกเฟนทานิลเข้ามายังสหรัฐฯ ผ่านทางเม็กซิโกและแคนาดา โดยมาตรการดังกล่าวอาจเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.พ.นี้เช่นกัน
ล่าสุดจีนออกมาเคลื่อนไหว โดยเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า ไม่มีใครเป็นผู้ชนะในสงครามการค้าหรือสงครามภาษี และย้ำถึงจุดยืนของจีนในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อตอบโต้คำขู่ของทรัมป์ด้วย
อ่านข่าว
เปิดสาเหตุ "โดนัลด์ ทรัมป์" ขวางได้สัญชาติโดยการเกิดในสหรัฐฯ
อินโดฯ เผชิญปัญหาล่าเหรียญ Jagat กระทบปชช.-พื้นที่สาธารณะเสียหาย