วันนี้ (24 ม.ค.2568) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ถือเป็นวาระสำคัญของชาติ ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม สุขภาพของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ
โดยรัฐบาลได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันขึ้น แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับชาติ ภาค และจังหวัด จึงได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ บูรณาการและประสานการปฏิบัติร่วมกับจังหวัด ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ให้ครอบคลุมในทุกมิติและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในพื้นที่เมือง พื้นที่เกษตร และพื้นที่ป่า โดยเฉพาะพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ บูรณาการร่วมกันของเหล่าทัพ
- กองทัพบก โดย กองทัพภาคที่ 3 เป็นหน่วยรับผิดชอบจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันภาค3ส่วนหน้า เฝ้าระวัง ติดตามจุดความร้อนอย่างต่อเนื่อง ประเมินสถานการณ์ไฟป่า และระงับเหตุไฟไหม้
- กองทัพอากาศ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้เตรียมอากาศยาน กำลังพลและยุทโธปกรณ์ รวมถึงมีแผนจัดการฝึกบินควบคุมไฟป่าร่วมกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมการสนับสนุนการแก้ปัญหาสถานการณ์ไฟป่า
- กองทัพเรือ ได้เตรียมความพร้อมของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 7 แห่ง ทั้งในกรุงเทพมหานคร และภูมิภาค เพื่อเตรียมการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาเมื่อได้รับการร้องขอ
นอกจากนี้ ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนโดยประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านกลไกความร่วมมือทุกระดับ ระดับอาเซียน ระดับคณะกรรมการชายแดนภายใต้ อาทิ GBC, HLC, TBC, RBC และระดับจังหวัดชายแดนคู่ขนาน
ทั้งนี้กองบัญชาการกองทัพไทยโดยกรมกิจการชายแดนทหาร ได้ร่วมกับ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนงานตามผลการประชุม "แนวทางการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันข้ามแดน" มีการดำเนินการที่สำคัญ อาทิ การฝึกอบรมการดับไฟป่าให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ฝ่ายลาวเมื่อเดือน ส.ค.2567 ที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการอบรมเจ้าหน้าที่ของฝ่ายกัมพูชา ณ ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการดับไฟป่าภาคกลาง จ.กาญจนบุรี
รวมถึงการจัดตั้งห้องปฏิบัติการติดตามสถานการณ์ไฟป่าให้ประเทศเพื่อนบ้าน (กรมกิจการชายแดนทหาร ร่วมกับ กรมควบคุมมลพิษ) โดยดำเนินการแล้ว จำนวน 3 แห่ง ที่จ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมา, เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว และเมืองไชยะบุรี แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว) และมีแผนจัดตั้งเพิ่มอีก 4 แห่ง ภายในปี 2568 (ที่แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว, จ.เชียงตุง เมียนมา, จ.เกาะกง และ จ.อุดรมีชัย กัมพูชา) ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดปัญหาหมอกควันข้ามแดนที่เกิดจากประเทศเพื่อนบ้านได้ในระยะยาว
กระทรวงกลาโหม ยังเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ของกองทัพ อาทิ รถดับเพลิง เครื่องสูบน้ำ อากาศยาน อากาศยานไร้คนขับและอุปกรณ์ดับไฟป่า เน้นย้ำสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนโดยรอบพื้นที่ ได้รับทราบถึงแนวทางแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5
ทั้งนี้จากนโยบายของรัฐบาลเพิ่มเติม ได้มอบให้กระทรวงกลาโหม บูรณาการร่วมกับศุลกากรในการตรวจการลักลอบนำเข้าพืชที่ผ่านการเผาตามแนวชายแดน โดยกระทรวงกลาโหมพร้อมในการสนับสนุนมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลในการแก้ไขและลดปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานอย่างเต็มศักยภาพ
อ่านข่าวอื่น :
ป่วยฝุ่นพิษ 3 สัปดาห์ 144,000 คน เตือน 5 จว.จมฝุ่น 4 วันติด
หนีฝุ่น PM2.5 ศธ.สั่งยกเลิกงาน 103 ปี ยุวกาชาดไทย ที่สนามศุภฯ