ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เจาะ 10 ธุรกิจน่าจับตาปี 2568 “มูเตลู-ท่องเที่ยว” ดาวรุ่งพุ่งแรง

เศรษฐกิจ
28 ม.ค. 68
17:45
348
Logo Thai PBS
เจาะ 10 ธุรกิจน่าจับตาปี 2568 “มูเตลู-ท่องเที่ยว” ดาวรุ่งพุ่งแรง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมพัฒน์ฯเปิด 10 ธุรกิจน่าจับตาปี68 “มูเตลู”มาแรงต่อเนื่อง 5 ปี เหตุคนยังต้องการที่พึ่งทางจิตใจ ท่องเที่ยว-ไลฟ์สไตล์-ครอบครัว- Health & Wellness-สัตว์เลี้ยง โตต่อเนื่อง

วันนี้ (28 ม.ค.2568) นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ท่วมกลางภาวะเศรษฐกิจในระเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที หลายธุรกิจยังล้มลุกคลุกคลาน บางธุรกิจถึงกลับเลิกกิจการเพราะสายป่านไปไม่ไหว หรือส่วนหนึ่งจับกลุ่มเป้าหมายไม่ตรงจุด ทำให้การทำธุรกิจเป็นไปด้วยความลำบาก

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

กรมฯ ได้วิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตพร้อมเปิดโผ 10 ธุรกิจที่มาแรงโดดเด่นข้ามปี และคาดว่าจะทำผลกำไรต่อเนื่อง เพื่อให้นักธุรกิจชาวไทยและต่างชาติใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน นำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์เต็มประสิทธิภาพ กำหนดทิศทาง และเลือกประเภทธุรกิจที่จะลงทุนได้ตรงตามความต้องการ

โดยประเมินข้อมูลธุรกิจจากหลายภาคส่วน ทั้งสถิติข้อมูลภายในของกรมฯ ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่สถิติจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ มูลค่าทุนจดทะเบียน แนวโน้มการเติบโต ผลประกอบการของธุรกิจ (รายได้ และ ผลกำไร) ร่วมกับข้อมูลปัจจัยทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจต่าง ๆ เทรนด์การประกอบธุรกิจ ได้แก่ แนวโน้ม กระแสความนิยม พฤติกรรมของธุรกิจ นโยบายรัฐบาล และดัชนีทางเศรษฐกิจ เป็นต้น

จากผลการวิเคราะห์ สามารถแบ่งกลุ่มธุรกิจที่น่าจับตามองและน่าสนใจในปี 2568 ออกเป็น 3 กลุ่ม ในธุรกิจ 10 ประเภทธุรกิจ กลุ่มที่ 1 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ ซึ่งเกี่ยวกับรูปแบบพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์ การสร้างความสุขทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ปัจจุบันโลกต้องเผชิญสภาวะแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ รวมถึง ความเครียดต่างๆ ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประเภทธุรกิจในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ ประกอบด้วย

ธุรกิจการท่องเที่ยวและกิจกรรมในครอบครัว ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและที่พัก ธุรกิจร้านอาหาร/ผับบาร์ ธุรกิจการแสดงโชว์และความบันเทิง รวมทั้ง ธุรกิจกิจกรรมสำหรับครอบครัว เช่น สวนสัตว์ สถานที่พักผ่อนตามธรรมชาติ โดยปี 2567 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 6,667 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 458 ราย (ปี 2566 จัดตั้งใหม่ 6,209 ราย) หรือเพิ่มขึ้น 7.38% มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ 16,253.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 2,269.54 ล้านบาท (ปี 2566 ทุนจัดตั้ง 13,983.62 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 16.23% ถือว่าเป็นการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19

ทั้งนี้ รายได้รวมของธุรกิจในปี 2566 มีมูลค่าสูงถึง 753,308.31 ล้านบาท โดยปี 2568 รัฐบาลยังคงเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรม Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025 และกิจกรรมสนับสนุนและสร้างความนิยมใน Soft Power ของประเทศไทย ส่งผลให้ธุรกิจฯ มีโอกาสเติบโตและทำผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจ Health & Wellness เช่น ธุรกิจโรงพยาบาล/โรงพยาบาลเฉพาะทาง ธุรกิจทันตกรรม ธุรกิจกายภาพบำบัด และธุรกิจการดูแลสุขภาพอื่นๆ โดยปี 2566 ธุรกิจ health & wellness มีรายได้รวม 357,988.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 5,464.77 ล้านบาท (ปี 2565 รายได้รวม 352,523.51 ล้านบาท)

โดยธุรกิจนี้ได้รับการส่งเสริมจากนโยบายผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Medical Hub เช่น การเพิ่มศักยภาพด้านอุตสาหกรรมทางการแพทย์ การชักชวนหรือให้สิทธิชาวต่างชาติเข้ามารักษาในประเทศไทย รวมทั้ง การผสมผสานเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยลงไป สอดคล้องกับ

ข้อมูลของ Krungthai COMPASS ที่แสดงว่าปี 2566 นักท่องเที่ยวกลุ่ม Medical & Wellness มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงสุดที่ 99,770 บาทต่อคน เพิ่มขึ้นเกือบหนึ่งเท่าตัวในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งโลกเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและผู้คนเริ่มหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทำให้ความต้องการในธุรกิจนี้เพิ่มสูงมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยปี 2567 มีจำนวนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่จำนวน 912 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 5,212.27 ล้านบาท

ธุรกิจสัตว์เลี้ยง เช่น ธุรกิจดูแลสัตว์เลี้ยง ผลิต/จำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง และธุรกิจรักษาสัตว์เลี้ยง โดยปี 2567 มีจำนวนธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จำนวน 206 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 400.12 ล้านบาท และรายได้รวมปี 2566 มีมูลค่า 76,066.28 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,310.31 ล้านบาท

ปัจจุบันมีความนิยมในการเลี้ยงสัตว์ที่หลากหลาย และหลายคนเลี้ยงสัตว์แทนลูก เปรียบเสมือนเป็นคนในครอบครัว จึงพร้อมที่จะใช้จ่ายให้กับสัตว์เลี้ยง ทั้งอาหาร ของเล่น และการดูแลสุขภาพ ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตตามความต้องการของตลาดและเทรนด์ของการเลี้ยงสัตว์

ส่วนธุรกิจสายมูฯ (มูเตลู) นับว่าเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เห็นได้จากยังคงมีการจดทะเบียนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2567 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 38 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 5 ราย และเพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 14 ราย (จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ปี 2566 จำนวน 33 ราย และ ปี 2565 จำนวน 24 ราย) มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 27.72 ล้านบาท

ธุรกิจนี้ยังคงได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ท่ามกลางความต้องการที่พึงทางด้านจิตใจ รวมทั้งผู้ประกอบธุรกิจที่ประยุกต์ใช้ความเชื่อ ความศรัทธา ให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนทั่วไปได้อย่างลงตัว สินค้าหลายอย่างถูกปรับเปลี่ยนให้เข้าถึงได้ง่าย สอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

เช่น Wallpaper สายมูบนโทรศัพท์มือถือ เครื่องประดับหรือเครื่องรางที่ง่ายต่อการพกพา อีกทั้ง ภาครัฐยังคงส่งเสริมให้เป็น Soft power ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มีความเชื่อและความศรัทธาให้พร้อมใช้จ่ายเพื่อความสบายใจและเป็นการเสริมดวงชะตาให้ดียิ่งขึ้น

ขณะที่ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ เช่น ธุรกิจผลิตภาพยนต์และรายการโทรทัศน์ ธุรกิจตัดต่อภาพและเสียง ธุรกิจกราฟฟิกแอนิเมชันและเทคนิคพิเศษ และธุรกิจสอนการแสดง โดยปี 2567 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 293 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 18 ราย และเพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 37 ราย (จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ปี 2566 จำนวน 275 ราย ปี 2565 จำนวน 256 ราย) มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 719.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 346.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 92.86% (ปี 2566 มูลค่าทุนจดทะเบียน 373 ล้านบาท) โดยธุรกิจนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการส่งเสริมตลาด การพัฒนา การจับคู่ธุรกิจ และนำเสนอกับผู้ซื้อลิขสิทธิ์ทั่วโลก ทำให้ธุรกิจนี้กลับมาเติบโตได้อย่างชัดเจน

ธุรกิจปรับปรุงและตกแต่งอาคาร เช่น ธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายใน ธุรกิจซ่อมแซมอาคาร โดยปัจจุบันผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะปรับปรุงที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น แทนการซื้ออสังหาริมทรัพย์ใหม่ เนื่องจากทำเลที่ตั้งที่อยู่อาศัยเดิมอยู่ในทำเลที่ดี และสอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิต รวมถึง การปรับปรุงอาคารต่างๆ เพื่อประกอบธุรกิจได้อย่างหลากหลาย เช่น ที่พัก ร้านอาหาร และคาเฟ่ ส่งผลให้ธุรกิจปรับปรุงและตกแต่งอาคาร ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น

อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวถึงกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกลุ่มที่เป็นเทรนด์ธุรกิจของโลกที่ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ก้าวข้ามขีดจำกัดและสามารถตอบสนองต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์และการดำเนินธุรกิจ ซึ่งในกลุ่มนี้ มี 2ธุรกิจที่น่าจับตา คือ

ธุรกิจ Data Center และ Software เช่น ธุรกิจจัดทำซอฟต์แวร์สำเร็จรูป ธุรกิจบริการ Data Center ธุรกิจจัดทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โปรแกรมเว็บเพจ เป็นต้น โดยธุรกิจนี้ มีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยปี 2566 ธุรกิจ Data Center และ Software มีรายได้รวมอยู่ที่ 110,500.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 5 ปีก่อน จำนวน 50,960.03 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 85.59% (ปี 2562 มีรายได้รวมอยู่ที่ 59,540.13 ล้านบาท)

โดยธุรกิจดังกล่าวมีแนวโน้มเติบโตตามความต้องการของตลาด การเติบโตของโลกยุคดิจิทัล และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในอุตสาหกรรม การผลิต การบริการ รวมทั้งการใช้ในชีวิตประจำวัน ล้วนมีส่วนส่งเสริมธุรกิจนี้ยังคงเติบโตและเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง

และธุรกิจ e-Commerce เช่น ธุรกิจขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต ธุรกิจคลังสินค้าและการจัดเก็บสินค้า ธุรกิจตลาดกลางในการซื้อขายสินค้าหรือบริการ โดยวิธีสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ธุรกิจ e-Commerce มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งผู้ประกอบการมีการปรับเปลี่ยนช่องทางการตลาดเข้าสู่ช่องทางการจำหน่ายทั้ง Offline และ Online ควบคู่กัน

ขณะที่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการธุรกิจซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์เฉพาะด้านในการบริหารจัดการเรื่องต่างๆ ในการประกอบธุรกิจ การให้คำปรึกษา การจัดหาบุคลากรหรือผู้เชี่ยวชาญทำหน้าที่ช่วยเหลือธุรกิจให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ตรงเป้าหมาย

โดยธุรกิจที่มีความโดดเด่น คือ ธุรกิจการบริหารจัดการธุรกิจ เช่น ธุรกิจสำนักงานบัญชี ธุรกิจสำนักงานกฎหมาย ธุรกิจการจ้างงานบุคคลภายนอก (outsource) โดยธุรกิจการบริการจัดการธุรกิจ ถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการประกอบธุรกิจยุคปัจจุบัน ทั้งการจ้างทำบัญชี ที่ปรึกษากฎหมาย หรือการจ้างงานบุคคลภายนอก แทนการจ้างพนักงานประจำ ด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือต่างๆ ที่เข้ามาช่วยประยุกต์ใช้ให้ผู้ประกอบธุรกิจดำเนินธุรกิจได้ง่ายขึ้น

และธุรกิจที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ธุรกิจการวิจัยและพัฒนาเชิงทดลอง ธุรกิจการให้บริการเกี่ยวกับสิทธิพิเศษอื่น ๆ เช่น คาร์บอนเครดิต โดยในปัจจุบันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมกำลังส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของทุกคน ธุรกิจที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม เป็นทางรอดของธุรกิจในยุคปัจจุบันที่เข้ามาช่วยลดต้นทุน เพิ่มโอกาสให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ และทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค
ทั้งนี้ปี 2568 การประกอบธุรกิจของภาคธุรกิจจะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น

เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยต้องพิจารณารวมกับปัจจัยอื่นๆ และภูมิรัฐศาสตร์ต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจประเทศต่างๆ หรือปัจจัยเกื้อหนุนของเศรษฐกิจประเทศ เชื่อว่าการทำธุรกิจของคนไทยจะกลับมาขยายตัวดีขึ้น

อ่านข่าว:

 “ทรัมป์ 2.0” ดันราคาทองคำ แตะระดับ All-Time High

“อินเดีย”กลับมาทวงตลาดคืน ส่งออกข้าวไทยปี68 หืดขึ้นคอ

"ไทย" รับมือสงครามการค้าโลกเดือด “ทรัมป์” กลับมาเอาคืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง