ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ทรัมป์" หนุน "America First" ระงับช่วยต่างชาติ กระทบมนุษยธรรม

ต่างประเทศ
29 ม.ค. 68
12:55
211
Logo Thai PBS
"ทรัมป์" หนุน "America First" ระงับช่วยต่างชาติ กระทบมนุษยธรรม
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

หนึ่งในคำสั่งที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามบังคับใช้เมื่อสัปดาห์ก่อนและสร้างความกังวลใจไปทั่วโลก คือ การสั่งระงับโครงการช่วยเหลือต่างชาติเป็นการชั่วคราว

สหรัฐฯ ถือเป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของโลก ในแต่ละปีรัฐบาลอเมริกันอัดฉีดเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สนับสนุนโครงการช่วยเหลือทั่วโลกในหลายมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม มนุษยธรรม ไปจนถึงการทหาร แต่คำสั่งของผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ กำลังทำให้ความช่วยเหลือเหล่านี้หยุดชะงัก

ไม่เพียงเสียงแสดงความกังวลใจจากภาคประชาสังคม แต่โฆษกองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้ทรัมป์ พิจารณายกเว้นมาตรการระงับความช่วยเหลือบางโครงการ เพื่อเปิดทางให้คงความสามารถในการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการพัฒนาที่จำเป็นไปยังชุมชนเปราะบางทั่วโลก โดยระบุว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาขึ้นอยู่กับความช่วยเหลือเหล่านี้

เสียงเรียกร้องนี้ดังขึ้นนับตั้งแต่ทรัมป์ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารในวันแรกที่นั่งเก้าอี้ผู้นำ โดยสั่งระงับการจัดส่งความช่วยเหลือให้กับประเทศต่าง ๆ นาน 90 วัน เพื่อพิจารณาว่าความช่วยเหลือเหล่านั้นสอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลชุดใหม่หรือไม่ นโยบายนั้นคือ America First หรืออเมริกาต้องมาก่อน

ข้อมูลจากเว็บไซต์ของทางการสหรัฐฯ ชี้ว่าในปีงบประมาณ 2566 รัฐบาลมีข้อตกลงสนับสนุนกว่า 15,000 โครงการใน 204 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 68,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่า 2 ล้านล้านบาท

ประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือมากที่สุด คือ ยูเครน ทิ้งห่างอิสราเอลหลายเท่าตัว ตามมาด้วยจอร์แดนและอียิปต์ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ นับตั้งแต่ลงนามข้อตกลงสันติภาพกับอิสราเอลเมื่อปี 2522 โดยจะเห็นได้ว่า 4 ประเทศที่ได้รับการสนับสนุนมากที่สุด คือ ประเทศที่อยู่ในพื้นที่ขัดแย้ง หรืออยู่ในจุดยุทธศาสตร์โลกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นยูเครน หรือตะวันออกกลาง

ขณะที่อาเซียน ได้รับการสนับสนุนเกือบทุกประเทศ ยกเว้นบรูไน โดยฟิลิปปินส์ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในหลายโครงการรวมแล้วทะลุ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สอดคล้องกับการยกระดับความร่วมมือของสองประเทศ เพื่อรับมือกับจีนตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ในเมียนมา เป็นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมหลายโครงการ ส่วนไทยได้รับความช่วยเหลือรวม 105 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การอัดฉีดความช่วยเหลือผ่านโครงการต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ในหลายประเทศ รวมทั้งการสนับสนุนเงินทุนให้กับโครงการของประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลอเมริกันในทุกยุคทุกสมัย ซึ่งความช่วยเหลือเหล่านี้มักจะถูกใช้เป็นแต้มต่อรองของสหรัฐฯ ในการเจรจาบนเวทีโลก และช่วยขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ เข้าไปในประเทศต่าง ๆ ด้วย

ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ในต่างประเทศครอบคลุมหลายด้าน โดยก้อนที่ใหญ่ที่สุด คือ ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ คิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของความช่วยเหลือทั้งหมดของปีงบประมาณ 2566 ตามมาด้วยความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การสนับสนุนสันติภาพและความมั่นคง ไปจนถึงเรื่องสุขภาพ ซึ่ง 4 ก้อนนี้เป็นก้อนที่ใหญ่ที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน การศึกษาและสิ่งแวดล้อม หากดูนโยบายของทรัมป์แล้ว ความช่วยเหลืออย่างด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ น่าจะเป็นกลุ่มที่ต้องถูกตัดออกไปเป็นอันดับแรก ๆ เพราะสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีสและองค์การอนามัยโลก

อย่างไรก็ตาม หากความช่วยเหลือนั้นเป็นประโยชน์กับสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ 2.0 ก็เก็บโครงการดังกล่าวไว้ แต่หากไม่ใช่ก็ตัดออก โดยมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศป้ายแดง ส่งเอกสารเวียนแจ้งเป็นการภายในเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ว่า จะระงับโครงการช่วยเหลือทั้งหมด เพื่อพิจารณาว่าโครงการนั้น ๆ ไม่ซ้ำซ้อน มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามนโยบายของทรัมป์ โดยจะให้เวลา 85 วัน ซึ่งน้อยกว่ากรอบเวลาของทรัมป์ 5 วัน

แต่มีข้อยกเว้น คือ ความช่วยเหลือทางการทหารที่มอบให้กับอิสราเอลและอียิปต์ จะไม่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งระงับความช่วยเหลือฉบับนี้ รวมไปถึงโครงการช่วยเหลือด้านอาหารฉุกเฉินในพื้นที่วิกฤตทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นซูดาน หรือซีเรีย

นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่ง มองว่า การระงับความช่วยเหลือต่างชาติของรัฐบาลทรัมป์กำลังบั่นทอนความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ หรือไม่ เพราะความช่วยเหลือบางอย่าง แม้จะไม่ได้ให้ความสำคัญกับอเมริกามาเป็นอันดับแรก แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เสริมภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ บนเวทีโลก

อ่านข่าว : สหรัฐฯตัดงบฯช่วยเหลือ 7 รพ.พื้นที่พักพิงฯ ชายแดนไทย-เมียนมา ปิดตัว 

ศาลขวาง "ทรัมป์" ปมสั่งระงับงบฯ สภาคองเกรส เลื่อนมีผล 3 ก.พ.นี้ 

ทรัมป์เล็ง "เก็บกวาด" กาซา ส่ง 1.5 ล้านผู้ลี้ภัยอาศัยอียิปต์-จอร์แดน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง