วันนี้ (30 ม.ค.2568) เว็บไซต์ “ฮั่วเซ่งเฮง” วิเคราะห์ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวลง หลังการประชุมเฟด เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 4.25% – 4.50% ตามคาด ซึ่งเฟดไม่รีบร้อนในการเปลี่ยนแปลงแนวทางนโยบายการเงินที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ประธานเฟดเผยไม่ได้ติดต่อกับปธน.ทรัมป์นับตั้งแต่ที่ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในทันที ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 4.3 ตัน
โดยตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามสหรัฐฯ จะเปิดเผยจีดีพี ไตรมาส 4 ประมาณการครั้งที่ 1 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายเดือนธ.ค. นอกจากนี้ติดตามการแถลงของธนาคารกลางยุโรป
ทั้งนี้ “ฮั่วเซ่งเฮง” วิเคราะห์ราคาทองคาดอาจฟื้นตัวขึ้น แต่มีกรอบจำกัด ทั้งนี้ยังคงให้ระวังแรงเทขาย หากราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น แต่ยังไม่สามารถผ่านบริเวณแนวต้าน 2,772-2,775 ดอลลาร์ขึ้นไปได้
สำหรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ม.ค.2568 มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 4.25-4.50% เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงหลังการประชุมว่า เฟดต้องติดตามเงินเฟ้อว่าลดลง หรือสัญญาณอ่อนแอในตลาดแรงงาน ก่อนที่จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย
ประธานเฟดแถลงว่ายังต้องรอดูผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าจะเป็นระยะเวลานานแค่ไหนและกระทบต่อประเทศใด รวมทั้งไม่ได้มีการติดต่อกับโดนัลด์ ทรัมป์ แม้ก่อนหน้านี้จะเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยทันที
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้มุมมองของตลาดคาดเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2568 0.50% หรือ 2 ครั้ง ในเดือนมิถุนายนและเดือนธันวาคม สอดคล้องกับคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเฟด เฟดคาดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% เช่นเดียวกัน
แนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้นคาดเคลื่อนไหว Sideways หลังจากเฟดยังเป็นห่วงเงินเฟ้อและอาจชะลอการลดดอกเบี้ย ซึ่งราคาทองคำปรับลงแรงในวันจันทร์จากข่าว DeepSeek บริษัท Start up ของจีนเปิดตัว AI ที่มีต้นทุนต่ำและใช้ชิปราคาต่ำ เทียบกับการพัฒนา AI ของสหรัฐ
หลังจากสัปดาห์ที่แล้วราคาทอง Spot ปรับตัวขึ้นทดสอบใกล้ All-time high ที่ 2,785 ดอลลาร์ เกิดรูปแบบ Double Top
แนวโน้มราคาทองคำในระยะยาวคาดว่าจะเป็นขาขึ้น เนื่องจากมองว่าทองคำยังได้รับความสนใจในสินทรัพย์ปลอดภัยที่ป้องกันความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจจากนโยบายทรัมป์ 2.0 และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะสถานการณ์ตะวันออกกลางคาดยังมีแนวโน้มตึงเครียดอยู่
การลงทุนทองแท่งในระยะสั้น แนะนำขายทำกำไรเมื่อราคาทองขึ้นไปที่ 2,770 ดอลลาร์ ระยะยาวแนะนำถือต่อไปได้ (Let Profit Run) และทยอยสะสมที่ราคาทอง Spot 2,700-2,735 ดอลลาร์ สำหรับการลงทุนใน Gold Futures แนะนำซื้อที่ 44,250 บาท จุดขายตัดขาดทุน 44,130 บาท Gold Online Futures แนะนำซื้อที่ 2,760 ดอลลาร์ จุดขายตัดขาดทุน 2,750 ดอลลาร์
ขณะที่ราคาทองคำในประเทศ เปิดตลาดเช้านี้ไม่เปลี่ยนแปลงและปรับขึ้น 100 บาท (ครั้งที่3 บวก 50บาท) ส่งผลให้ราคาทองคำแข่งรับซื้อ ที่บาทละ 44,100 ขายออกบาทละ 44,200 และทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 43,312.12 ขายออกบาทละ 44,700 โดยราคาทอง Gold spot อยู่ที่ 2,772 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินบาท 33.70 ต่อดอลลาร์สหรัฐ
อ่านข่าว:
“ทรัมป์ 2.0” ดันราคาทองคำ แตะระดับ All-Time High
ราคา “ทองคำ” บวก 100 บาท ตลาดแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
"ไทย" รับมือสงครามการค้าโลกเดือด “ทรัมป์” กลับมาเอาคืน