ปฏิเสธไม่ได้ว่า การล่อลวง“ซิง ซิง” หรือ หวังซิง และหวัง เจ๋อ ฉี ดาราและนายแบบชาวจีน ขบวนการค้ามนุษย์เมืองชเวโกกโก ฝั่งเมียนมา ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องท่องเที่ยวของไทยไม่น้อย หลังเกิดเหตุนอกจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีน กลุ่มเป้าหมายหลักของไทยจะลดลงแล้ว ยังกระทบต่อความเชื่อมั่นในมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆด้วย
แม้ปัจจุบัน ไทยยังคงมีมาตรการฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลับมาก็ตาม พร้อมแสวงหากลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ๆทดแทนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ลดลง ทั้ง กลุ่มตะวันออกกลาง รัสเซีย อินเดีย มาเลเซีย ที่มีกำลังซื้อสูง โดยเน้นที่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ( สนค.) วิเคราะห์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาอย่างยาวนานและมีบทบาทสำคัญในการสร้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อมในหลากหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ร้านอาหาร และบริการด้านคมนาคมขนส่ง
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ( สนค.)
การจะส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ไทยยังคงมีปัจจัยท้าท้ายหลายด้าน ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศต้นทางของนักท่องเที่ยว การระบาดของโรคติดต่อ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ความปลอดภัยและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานในประเทศจุดหมายปลายทาง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยว
สนค.ชี้เทรน์เที่ยว“Short haul”มาแรง
สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย และรายได้ด้านการท่องเที่ยว ปี 2567ข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ในปี 2567 นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย มีจำนวนรวม 35.54 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.27 เมื่อเทียบกับปี 2566 และสร้างรายได้ 1.67 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 34 เมื่อเทียบกับปี 2566
โดยกลุ่มนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 6,733,162 คน มาเลเซีย 4,952,078 คน อินเดีย 2,129,149 คน เกาหลีใต้ 1,868,945 คน และรัสเซีย 1,745,327 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้
สะท้อนถึงการฟื้นตัวที่ชัดเจนของภาคการท่องเที่ยวไทย ซึ่งคาดว่าได้รับอานิสงส์จากหลายปัจจัย ทั้ง อุปสงค์การท่องเที่ยวระหว่างประเทศสูงขึ้น มาตรการยกเว้นวีซ่า การยกเว้นบัตร ตม.6 สำหรับด่านชายแดนทางบก การเพิ่มเที่ยวบินและการขยายเส้นทางการบินมาไทย
ผอ.สนค.กล่าวอีกว่า น่าสังเกตว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนใหญ่ในปี 2567 เป็นกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในปี 2567 จะคิดเป็นเพียงสัดส่วนร้อยละ 60.45 ของปี 2562 (ช่วงก่อนเกิดโควิด-19) แต่คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
3 ตัวแปร ฉุด-ดัน ท่องเที่ยวไทย
จากการจัดทำสถิติท่องเที่ยวของไทยซึ่งใช้ตามแนวทาง IRTS 2008 (International Recommendations for Tourism Statistics 2008) ของ UN Tourism แสดงว่า รายได้ด้านการท่องเที่ยวขึ้นอยู่กับ 3 ตัวแปรหลัก ได้แก่ จำนวนนักท่องเที่ยว/คน วันพักเฉลี่ย/วันและ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวัน/บาท
โดยเมื่อวิเคราะห์รายตัวแปร พบว่า ทุกตัวแปรมีผลต่อการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของรายได้ด้านการท่องเที่ยวทั้งสิ้น แต่การส่งเสริมให้แต่ละตัวแปรเติบโตก็มีความท้าทายที่แตกต่างกันไป โดยจำนวนนักท่องเที่ยวถือว่าเป็นตัวแปรขนาดใหญ่ที่สามารถติดตามผลได้ชัดเจน
หากนักท่องเที่ยวมีจำนวนมาก จะทำให้เกิดการใช้จ่ายที่หลากหลายและการขยายตัวของอุปสงค์ในระบบเศรษฐกิจ แต่หากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ผลกระทบในทางลบก็จะชัดเจนเช่นกัน
ขณะที่วันพักเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวที่มีระยะเวลาการพำนักที่นานขึ้น ก็มีแนวโน้มจะใช้จ่ายในกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งช่วยสร้างรายได้แก่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม การจะส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวมีวันพักเฉลี่ยที่นานขึ้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล และระยะเวลาที่สามารถท่องเที่ยวได้มีจำกัด พฤติกรรมการท่องเที่ยวสมัยใหม่ที่นิยมทริปสั้น ๆ และกำลังซื้อที่อาจลดลงหากเพิ่มจำนวนวันพัก
อีกปัจจัยสำคัญคือ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวัน (ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริป/วันพักเฉลี่ย)ที่เกิดจากการคำนวณค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวแต่ละคนครอบคลุมหมวดหมู่ต่าง ๆ อาทิ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายด้านความบันเทิง ค่ารักษาพยาบาล และค่าซื้อสินค้าและของที่ระลึก
ตัวแปรนี้ความสำคัญเพราะสะท้อนคุณภาพของนักท่องเที่ยวและความสามารถในการใช้จ่าย หากนักท่องเที่ยวใช้จ่ายต่อคนต่อวันสูง จะนำไปสู่การเพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวแม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะไม่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเป็นตัวแปรที่ควบคุมได้ยาก โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยนที่มีผลต่อกำลังซื้อ การแข่งขันด้านราคาของสินค้าและบริการซึ่งอาจทำให้นักท่องเที่ยวเลือกใช้จ่ายในราคาที่ถูกกว่า และพฤติกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ
เจาะตลาดใหม่นักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ
ผอ.สนค. กล่าวต่อว่า การเจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยปัจจุบันโครงสร้างนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในภูมิภาคอาเซียนและประเทศใกล้เคียง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายและวันพักเฉลี่ยไม่สูงนัก
ดังนั้นการเจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ๆ เพื่อโอกาสในการเพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวและกระตุ้นให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น เช่น กลุ่มที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคปัจจุบันและมีศักยภาพในการเติบโตสูง
นอกจากนี้ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวดังกล่าว เช่น สปา และการฟื้นฟูสุขภาพเฉพาะทาง มักมีมูลค่าสูงกว่าการท่องเที่ยวทั่วไป จึงมีแนวโน้มที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาในไทยได้มากขึ้น
ส่วนกลุ่มที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงกิจกรรม (Event Tourism) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่มีความสนใจเดียวกัน เช่น การแสดงดนตรี งานเทศกาล และการแข่งขันกีฬา โดยกิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความรื่นเริงและประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับนักท่องเที่ยว แต่ยังกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลต่อการกระจายรายได้และขยายการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับชุมชนอย่างมีนัยสำคัญ
ผอ. สนค. กล่าวอีกว่า ข้อมูลล่าสุดของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ระบุว่า มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศด้านการท่องเที่ยว(Tourism GDP) ในไตรมาส 3 ของปี 2567 มีมูลค่า 650,952 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 14.16 ของเศรษฐกิจประเทศ
ทั้งนี้ ความผันผวนของปัจจัยภายนอกและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวถือเป็นความท้าทายที่สำคัญ ดังนั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อส่งเสริมให้การท่องเที่ยวไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
จีนเมินข่าวดาราจีน ยอดนักท่องเที่ยวยังพุ่ง
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยสถิตินักท่องเที่ยวว่า สำหรับในช่วงเดือนม.ค.นี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น จากนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดหลักของตลาดระยะใกล้ (Short haul) โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.30 จากการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวของรัฐบาล และมาตรการด้านวีซ่า
และยังมีนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวในหลายตลาด เช่น ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร ส่งผลให้ภาพรวมในช่วงต้นเดือนม.ค.มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 813,594 คน เป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 116,228 คน
โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน รองลงมาเป็นมาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีน ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีน ยังคงเป็นตลาดหลักที่มีอัตราการเดินทางเข้าไทยอย่างต่อเนื่องตลอดปี
ตั้งแต่วันที่ 1-26 ม.ค. 2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนสะสมทั้งสิ้น 532,853 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.6 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2567 และครองแชมป์นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสูงสุด
และมีการเข้ามาของกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่มีคุณภาพและศักยภาพในการใช้จ่ายสูง เป็น กลุ่มครอบครัว คาราวานรถยนต์ Incentive, Gig Tripping, Fan Meets และ Gen Z และมีการเดินทางตลอดทั้งปี คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะการที่รัฐบาลเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่ตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีน การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาล ที่ช่วยเพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตร ตม.6 ในด่านทางบก รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น
ททท. ร่วมกับพันธมิตรดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ เชื่อมั่นว่า ตลาดจีนยังคงมีสัญญาณบวกและ มีโอกาสที่จะผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าไทยสูงสุดที่ 8 ล้านคน ในปี 2568
สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยวข้อมูล 28 ม.ค. 68 พบว ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 26 ม.ค. 68 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 3,020,511 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.30 สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 150,650 ล้านบาท
ทั้งนี้จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก คือ จีน จำนวน 532,853 คน, มาเลเซีย จำนวน 311,922 คน ,รัสเซีย จำนวน219,321 คน ,เกาหลีใต้ จำนวน 176,091 คน และอินเดีย จำนวน161,950 คน
คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยประมาณ 2.77-2.87 แสนคนในช่วงเทศกาลตรุษจีน ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยได้เดินทางเยือนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและยิ่งใหญ่ของจีนอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้กระทรวงท่องเที่ยวฯ จะพยายามดึงธุรกิจขนาดเล็กเข้าระบบ เพื่อหนุนให้รายได้จากการท่องเที่ยวภาพรวมทั้งในและต่างประเทศ ให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ 3.5 ล้านล้านบาท
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาความไม่เชื่อมั่นในตลาดจีน ที่เกิดขึ้นจากปัญหาดาราจีน และคนจีนที่หายตัวไปบริเวณชายแดนไทยเพราะจีนเป็นตลาดหลักของไทย และหามาตรการดึงดูดให้คนอินเดียเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่ม ด้านการส่งออกจะต้องมีการผลักดันการส่งออกสินค้าตัวใหม่ ๆ ที่ผลิตภายในอีอีซีให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออก
ไทยมี ประเพณีวัฒนธรรม ประเพณี และความหลากหลาย ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างอยากมาเยือนสักครั้ง แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข มาตรการดูแลความปลอดภัย เพื่อให้นักท่องเที่ยววางใจและใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์อย่างมีความสุข
อ่านข่าว:
ฝุ่นข้ามแดน"เผาพื้นที่เกษตร" รัฐฉาน สะเทือนการค้า-การลงทุน
"ไทย" รับมือสงครามการค้าโลกเดือด “ทรัมป์” กลับมาเอาคืน
“ทรัมป์” คืนบังลังก์ เขย่า “เทรดวอร์” สงครามการค้าสะเทือนทั่วโลก