ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

อย่าซีเรียส! สมศักดิ์ยันไม่บังคับ รพ. ใช้สมุนไพรแทนยาแผนปัจจุบัน

สังคม
29 เม.ย. 68
20:18
123
Logo Thai PBS
อย่าซีเรียส! สมศักดิ์ยันไม่บังคับ รพ. ใช้สมุนไพรแทนยาแผนปัจจุบัน
วงการสาธารณสุขร้อนระอุจากดรามานโยบายผลักดันยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบันของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สธ. หลังแพทย์ โซเชียล วิจารณ์หนักถึงการถอนยาแผนปัจจุบันบางรายการใน กระทบความปลอดภัยผู้ป่วย สธ.ยันเป็นเพียงทางเลือก ไม่บังคับ และไม่ลิดรอนสิทธิ์

วันนี้ (29 เม.ย.2568) วงการสาธารณสุขไทยร้อนระอุจากนโยบายผลักดันให้โรงพยาบาลใช้ยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบันบางรายการของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ภายใต้การนำของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นโยบายนี้จุดกระแสวิจารณ์ในหมู่บุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากมีการถอนยาแผนปัจจุบันบางตัว เช่น ยารักษาริดสีดวงทวาร (Proctosedyl) และยาแก้ไอ (M.tussis) ออก และใช้ยาสมุนไพร เช่น เพชรสังฆาต และยาน้ำแก้ไอมะขามป้อมแทน

บางโรงพยาบาลยังกำหนดเป้าหมายให้แพทย์จ่ายยาสมุนไพร เช่น ฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อให้ถึงยอดที่ตั้งไว้ สร้างความกังวลถึงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความรู้ของแพทย์แผนปัจจุบันเกี่ยวกับยาสมุนไพร

นายสมศักดิ์ออกมาแถลงที่หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม ก่อนการประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.นครพนม เพื่อคลายความกังวล โดยยืนยันว่าไม่มีนโยบายบังคับให้โรงพยาบาลถอนยาแผนปัจจุบันทั้งหมด และไม่มีการกำหนดตัวชี้วัด (KPI) เข้มงวดสำหรับการใช้ยาสมุนไพร การใช้สมุนไพรเป็นเพียงทางเลือกเพื่อส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและลดการใช้สารเคมีในยาแผนปัจจุบัน

พร้อมยกตัวอย่างว่ายาฟ้าทะลายโจรช่วยลดไข้และแก้ท้องผูกได้ดี และโรงพยาบาลสามารถเลือกใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่าย "อย่าซีเรียส" เพราะงบประมาณยาสมุนไพรเพียง 1,000 ล้านบาท เทียบกับงบยาทั้งระบบ 70,000 ล้านบาท

นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ชี้แจงเพิ่มว่า การใช้ยาสมุนไพรไม่ลิดรอนสิทธิ์ผู้ป่วย โดยยาแผนปัจจุบันที่ถอนออก เช่น M.tussis (ยาแก้ไอ) และ M. Carminative (ยาขับลม) เป็นยาที่โรงพยาบาลหารือแล้วว่าไม่ค่อยใช้งาน และยังมียาตัวอื่น เช่น Diclofenac gel สำหรับอาการปวด หรือ Lactulose สำหรับท้องผูกให้เลือก ยาสมุนไพร 5 รายการที่ใช้ทดแทนใน 5 กลุ่มโรค (ไอ, ท้องอืด, ปวดกล้ามเนื้อ, ท้องผูก, และริดสีดวงทวาร) เช่น ประสะมะแว้ง, มะขามแขก, และเพชรสังฆาต ได้รับการวิจัยว่ามีประสิทธิภาพ

นพ.สมฤกษ์ระบุว่า โรงพยาบาลทุกแห่งมีระบบข้อมูลที่ช่วยแพทย์จ่ายยาสมุนไพร โดยแสดงรายการยา ปริมาณ และสรรพคุณเมื่อวินิจฉัยโรค เพื่อลดปัญหาการขาดความรู้ เขายอมรับว่าการสื่อสารในบางโรงพยาบาลอาจไม่ชัดเจน และสัญญาจะปรับปรุง พร้อมจัดงบประเมินประสิทธิภาพยาสมุนไพรต่อไป

จุดเริ่มต้น นโยบายนี้มาจากไหน ?

นโยบายผลักดันยาสมุนไพรเริ่มชัดเจนตั้งแต่ต้นปี 2568 โดยมีเป้าหมายลดการนำเข้ายาแผนปัจจุบันที่มีมูลค่าสูงถึง 69,000 ล้านบาท/ปี ส่งเสริมการแพทย์แผนไทย และสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพร ในเดือน ก.พ.2568 นายสมศักดิ์ เป็นประธานประชุมเชิงปฏิบัติการที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ เปิดตัวนโยบายส่งเสริมยาสมุนไพรในระบบสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ด้วยงบรางวัล 60 ล้านบาทสำหรับโรงพยาบาลที่ใช้สมุนไพรมากขึ้น

ตั้งเป้ามูลค่ายาสมุนไพร 3,000 ล้านบาท ภายในปี 2569 จากเดิมที่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมแนะนำยาสมุนไพร 5 รายการที่ใช้แทนยาแผนปัจจุบันได้ เช่น ครีมไพลแทนยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ (Analgesic balm), ยาน้ำแก้ไอมะขามป้อมหรือประสะมะแว้งแทนยาแก้ไอ (M.tussis), และเพชรสังฆาตแทนยารักษาริดสีดวงทวาร (Daflon)

นอกจากนี้ ยังเผยแผนเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกสมุนไพรจาก 1,000,000 ไร่ เป็น 1,400,000 ไร่ เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกร 1,470 ล้านบาทภายในปี 2570

ต่อมา นายสมศักดิ์รายงานความคืบหน้าว่า ไตรมาสแรกของปี 2568 มีการเบิกจ่ายยาสมุนไพรในระบบ สปสช. 106 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.66 จากเป้าหมาย 1,000 ล้านบาท โดยเขตสุขภาพที่ 6 (ภาคตะวันออก) เบิกจ่ายสูงสุดที่ 9.34 ล้านบาท แต่ตัวเลขยังต่ำกว่าเป้า จึงเริ่มรับสมัครโรงพยาบาลเข้าร่วมโครงการรางวัล 60 ล้านบาท แบ่งเป็นระดับ A (200,000 บาท), B (100,000 บาท), และ C (50,000 บาท) ตามปริมาณการเบิกจ่าย เริ่มนับผลงานตั้งแต่ เม.ย. - มิ.ย.2568 และประกาศผลในเดือน ก.ค.2568

เม.ย.2568 นโยบายเริ่มส่งผลในโรงพยาบาลจริงจัง บางแห่งถอนยาแผนปัจจุบัน 5-6 รายการ เช่น Proctosedyl, M.tussis, และ Bisacodyl และใช้สมุนไพร เช่น เพชรสังฆาต, ประสะมะแว้ง, และมะขามแขกแทน บางโรงพยาบาลตั้งเป้าจ่ายยาสมุนไพร เช่น ฟ้าทะลายโจรในเคสโควิด-19 เพื่อให้ถึงยอดที่กำหนด กระตุ้นความกังวลในหมู่แพทย์เกี่ยวกับความรู้ที่จำกัดและประสิทธิภาพของยาสมุนไพร

อ่านข่าวอื่น :

บินอ้อมโลก! ปากีสถานปิดน่านฟ้า สั่งแบนสายการบินอินเดีย

ยึดหมูเถื่อน 5 ตัน กลางตลาดดังปทุมธานี รอส่งขายทั่วประเทศ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง