วันนี้ (2 ก.พ.2568) 08.00-08.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สื่อสารกับประชาชนในรูปแบบรายการโทรทัศน์ ชื่อว่า “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT HD2
นายกรัฐมนตรี ได้เล่าถึงวัตถุประสงค์ของการทำรายการนี้เพื่อทำให้เป็นรายการที่พิเศษสำหรับพี่น้องประชาชน เป็นการนั่งพูดคุย สัมภาษณ์ ถึงเบื้องหลังการทำงานของรัฐบาล และตนเอง รวมถึงอัปเดตนโยบายต่าง ๆ
เรื่องแรก 30 บาทรักษาทุกที่ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดของไทย ดีใจที่ประชาชนไม่ต้องต่อคิวรอนานจนกระทบการทำงานและรายได้, คิกออฟ ODOD หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน การศึกษาภาคฤดูร้อน สร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็กนักเรียน ได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ ทั้งเด็กเก่งมากและเด็กที่เรียนได้ระดับกลาง ๆ
โครงการบ้านเพื่อคนไทย ที่ได้รับผลตอบรับดีมาก ให้คนทำงานได้มีที่อยู่อาศัย และผ่อนชำระไหว ส่งผลให้รัฐบาลได้คนที่มีศักยภาพมากขึ้น แข็งแรงขึ้นทั้งกายและใจ ตอบโจทย์ปัจจัย 4, กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ 23 ม.ค. เพราะเรื่องนี้ทุกฝ่ายทางการเมืองเห็นด้วยตรงกัน สร้างความเท่าเทียม และกฎหมายที่ดูแลประชาชนทุกคน เป็นความภูมิใจของทุกคนหลังต่อสู้กันมานาน 20 ปี
การประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สวิส ตนเองรู้สึกว่าการมีตำแหน่งนายกรัฐมตรี สามารถดึงความสนใจของคนได้ เพราะตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ โดยมีรัฐมนตรีหลายคนร่วมประชุม และปีหน้าจะไปอีกแน่นอน เพื่อให้เห็นเทรนด์ของโลกว่าทำอะไรกันบ้าง เชื่อว่าเป็นการหาเงินเข้าประเทศได้มาก โดยประสบความสำเร็จในการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโร นอกจากนี้ ผู้ร่วมประชุมยังได้ชิมอาหารไทย ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี
การติดตามและแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยได้สั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ ใช้มาตรการลดฝุ่น เช่น เพิ่มมูลค่าใบอ้อย ลดการเผา, ให้ใช้รถไฟฟ้าฟรี 7 วัน เชื่อว่าช่วยให้ฝุ่นลดลงได้ ทั้งนี้ ยกระดับปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นเรื่องของอาเซียน โดยรัฐมนตรีต่างประเทศได้คุยกับทุกประเทศในอาเซียน รวมทั้งตนเองได้คุยกับผู้นำประเทศด้วย
แจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 3 ล้านคนที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ ยืนยันว่าเฟส 3 มาแน่ แต่รอคลังแถลงรายละเอียด, ครม.อนุมัติ พ.ร.ก.อาชญากรรมไซเบอร์ เห็นว่าเรื่องนี้รอออกเป็น พ.ร.บ.ไม่ได้ เพราะประชาชนบางคนเก็บเงินมาทั้งชีวิตถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินเหลือ 0 บาท ซึ่ง พ.ร.ก.นี้จะทำให้ธนาคารและค่ายมือถือร่วมรับผิดชอบกรณีนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงท้ายรายการในวันนี้ กับคำถามเมื่อถูกติแล้วรู้สึกอย่างไร ว่า ก็เสียใจแน่นอน เพราะมีหัวใจ แต่จมไม่ได้เพราะมีงานเยอะ ยกตัวอย่างหากประชาชนไม่พอใจการจัดการปัญหาใด ก็จะต้องทบทวนและเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมแก้ปัญหา แต่ประเด็นเสื้อผ้าหน้าผมที่ถูกบูลลี่ ก็ไม่ได้คิดอะไร ยืนยันว่าความภูมิใจคือประชาชนรู้สึกดีจากนโยบายต่าง ๆ เช่น ได้เงินหมื่นไปต่อยอดอาชีพ