นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ พร้อมว่าที่สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ สังกัดพรรคประชาชน ขึ้นขบวนรถแห่ไปรอบเมืองเชียงใหม่ และ เดินขอบคุณประชาชนในตลาดสดที่ลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัครของพรรคประชาชน แม้นายพันธุ์อาจจะพ่ายแพ้การเลือกตั้ง นายก อบจ.เชียงใหม่ แต่ก็ได้ ว่าที่ ส.อบจ. มาถึง 15 คน จากทั้งหมด 42 คน
นายพันธุ์อาจบอกว่าแม้จะไม่ได้รับเลือก เป็นนายกอบจ. แต่ก็ยินดีที่ผู้สมัคร สมาชิก อบจ. ผ่านการคัดเลือกถึง 15 คน เฉพาะในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ ส.อบจ.ของพรรคได้มาถึง 4 จาก 5 คน รวมทั้งได้ ส.อบจ.ในเขตอำเภอแม่ริม แม่แตง ดอยสะเก็ด สันทราย หางดง และ สารภี ซึ่งถือเป็นพื้นที่ไข่แดง รวมทั้งที่ อำเภอฮอดซึ่งเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของพรรคประชาชนที่ชนะเลือกตั้งในพื้นที่โซนใต้ของจังหวัด
วันนี้นอกจากจะขอบคุณประชาชนแล้ว ก็อยากจะย้ำเตือนว่า เราจะทำงานให้หนักขึ้น เริ่มทำงานตั้งแต่วันนี้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สจ.ที่สอบผ่าน ส่วน สจ.ในเขตที่ยังไม่ได้รับเลือก ก็จะทำงานในเชิงพื้นที่ต่อไป ยืนยันว่า พรรคประชาชนจะทำงานในระดับท้องถิ่นอย่างจริงจัง ลงไปถึงในระดับอำเภอ และ ระดับตำบล
นายพันธุ์อาจยังตั้งข้อสังเกตถึงผลคะแนน นายก อบจ.เชียงใหม่ ซึ่งห่างจากผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคเพื่อไทยเพียง 2 หมื่นคะแนน แต่มีบัตรเสียมากกว่า 4 หมื่นคะแนน และ บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 5.7 หมื่นคะแนน หรือ รวมแล้วเกือบ 1 แสนคะแนนซึ่งถือว่าสูงมาก เบื้องต้นจะหารือกับแกนนำพรรคประชาชน เพื่อสรุปแนวทางที่อาจมีการขอให้นับคะแนนใหม่ ก่อนจะเข้าหารือกับ กกต. เพื่อดำเนินการตามแนวทางของพรรคต่อไป
คงต้องดูว่า กกต.มองประเด็นนี้ยังไงบ้าง ซึ่งจริงๆแล้ว ผมคิดว่าประชาชนจำนวนมากก็คงมีข้อสงสัยในสิ่งเหล่านี้เช่นกัน ความเห็นในโซเชียลมีเดีย จะมีอยู่ 2 ประเด็น คือ คะแนนที่ห่างกันแค่ 2 หมื่นคะแนน และ บัตรเสียที่มากกว่า 4 หมื่นคะแนน ส่วนความผิดปกติในการเลือกตั้ง ก็มีการแจ้งเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งต้องพิจารณาไปตามข้อมูล
นายพันธุ์อาจยอมรับว่ารู้สึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสเข้าไปบริหาร อบจ.เชียงใหม่ แต่ยังสามารถทำงานในช่วง 4 ปีข้างหน้า ในบทบาทอื่นๆ ตามนโยบายของพรรคประชาชน ที่จะทำงานร่วมกับ สจ. และ สส.ในพื้นที่ จะนำนโยบายที่นำเสนอประชาชน เข้าไปทำงานในระดับอำเภอต่อไป
สำหรับผลการเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ของพรรคที่ยึดที่นั่ง ส อบจ.ในเขตเมืองเป็นส่วนใหญ่ แต่รอบนอกยังมีผู้สมัครได้รับเลือกไม่มากนัก ประเด็นนี้ นางสาวเพชรรัตน์ ใหม่ชมภู สส.เชียงใหม่ เขต 1 บอกว่าจะต้องมีการถอดบทเรียนว่าในเขตที่มี สส.แต่ไม่ได้ สจ.เลย มีสิ่งที่ผิดพลาดตรงไหน อย่างไร และ อาจจะต้องมีนโยบาย หรือ มีแนวทางที่อุดช่องโหว่ต่อไป ส่วนเขต สส. ที่ได้ สจ.ด้วย ก็ยังจะต้องทำงานหนักขึ้น ให้ สจ.ในเขตนั้นมีผลงาน และ จะขยายผลในการเลือกตั้ง อบจ.ในสมัยหน้าให้มี สจ.เพิ่ม แล้วชนะ เลือกตั้ง นายก อบจ.
ขณะที่นายพันธุ์อาจให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า หากเปรียบเทียบการเลือกตั้ง อบจ. ในปี 2563 ซึ่งคณะก้าวหน้าไม่ได้ส่งผู้สมัคร แต่เป็นการแข่งขันระหว่างกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม กับ พรรคเพื่อไทย ถ้าเปรียบเทียบคะแนนจากคราวที่แล้ว ต้องถือว่าพรรคประชาชนทำได้ดีมาก คะแนนในครั้งนี้ห่างกันเล็กน้อย และ ผู้ชนะก็ได้คะแนนไม่ถึง 4 แสน ซึ่งสะท้อนมิติที่สำคัญว่า ประชาชนชาวเชียงใหม่ต้องการความเปลี่ยนแปลง