กรณี น.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกบนแพลตฟอร์ม โดยชี้ว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เข้าข่ายจงใจกลั่นแกล้ง
วันนี้ (6 ก.พ.2568) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน กล่าวว่า ขณะนี้รับทราบเพียงข่าวประชาสัมพันธ์จากศาล ยังไม่ทราบรายละเอียดครบถ้วนและต้องรอฟังข้อมูลจาก น.ส.พิรงรอง ด้วย
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้กลไกตรวจสอบถ่วงดุลสั่นสะเทือน เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐในฐานะผู้กำกับดูแล ถูกฟ้องฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งสิ่งที่ควรพิจารณาคือเจตนาในการคุ้มครองผลประโยชน์ผู้บริโภค จึงอยากเรียกร้องให้มีการแก้กฎหมาย เพื่อสร้างกลไกคุ้มครองการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะหน่วยที่ทำหน้าที่กำกับดูแล ไม่เฉพาะ กสทช. แต่รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่กำกับดูแลไฟฟ้าและพลังงาน, สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ที่กำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าของประเทศ
อย่างไรก็ตาม กฎหมายที่จะช่วยคุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐในการปฏิบัติหน้าที่ ได้เข้าสู่สภาฯ ในชั้นกรรมาธิการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเป็นการต่อต้านการฟ้องปิดปากเช่นกรณีที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐถูกฟ้องร้องระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
อ่านข่าว : ด่วน! ศาลฯ สั่งจำคุก 2 ปี "พิรงรอง" ผิด ม.157 คดี True ID ฟ้อง
เมื่อถามว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับ น.ส.พิรงรอง มองว่าเป็นการฟ้องปิดปากหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เข้าข่ายกรณีการฟ้องปิดปาก เพราะมีหลายกลไกที่บริษัทเอกชนสามารถร้องเรียนในกรณีที่ได้รับการปฏิบัติไม่เป็นธรรมจากหน่วยงานที่กำกับดูแล แต่บริษัทเอกชนกลับใช้กลไกทางศาลอาญาคดีทุจริตฯ เป็นช่องทางลัดขั้นตอน ทำให้หลังจากนี้ น.ส.พิรงรอง จะไม่สามารถทำหน้าที่ใน กสทช.เข้าร่วมพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวกับบริษัทเอกชนแห่งนี้ได้
น.ส.ศิริกัญญา ยังกล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่ามีคนใน กสทช.ขอให้ น.ส.พิรงรอง ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแลกกับการถอนฟ้อง ว่า เท่าที่ได้ยินมายืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
ยิ่งกว่าคนใน เพราะทราบว่าเป็นคนในกระบวนการยุติธรรมที่ยื่นข้อเสนอนี้ เพื่อต่อรองให้ถอนฟ้องแลกกับการลาออกจาก กสทช. ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติ
ขณะนี้ทำได้เพียงตรวจสอบแบบคู่ขนาน โดยสิ่งที่ต้องเร่งทำคือกฎหมายต่อต้านการฟ้องปิดปาก เพื่อคุ้มครองผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงรื้อกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับกิจการ OTT เพื่อควบคุมกำกับดูแลสื่อตามโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
ส่วนเรื่องกระบวนการยุติธรรมต้องต่อสู้อีกหลายชั้นศาล ซึ่งส่วนตัวคิดว่า น.ส.พิรงรอง มีสิทธิต่อสู้คดีนี้จนถึงที่สุดและอยากให้กำลังใจ กสทช.ทุกคนให้ยืนหยัดทำหน้าที่บนหลักการที่ถูกต้อง
อ่านข่าว
เปิดฉบับเต็มคำพิพากษาจำคุก 2 ปี "พิรงรอง" กับคำว่า "จะล้มยักษ์"