ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ตร.คุมชายบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาททำแผนก่อนฝากขัง

อาชญากรรม
8 ก.พ. 68
12:20
24
Logo Thai PBS
 ตร.คุมชายบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาททำแผนก่อนฝากขัง
ตำรวจคุมตัวผู้ก่อเหตุชิงทอง 113 บาทมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ย่านปทุมธานี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพก่อนนำตัวขอศาลฝากขัง รับสารภาพนำเงินไปเล่นการพนันในประเทศเพื่อนบ้าน ทองบางส่วนส่งให้ภรรยาที่สงขลา

กรณีชายบุกเดียวชิงทองคำหนัก 113 บาทมูลค่ากว่า 5 ล้านบาทในห้างสรรรพสินค้าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา 

วันนี้ (8 ก.พ.2568) ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทองคำ หนัก 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในร้านขายทอง ของห้างสรรพสินค้า ย่านลำลูกกา และจุดทิ้งรถ ริมคลอง ถนนรังสิตนครนายก ย่านคลอง 6 จ.ปทุมธานี

หลังจากคุมตัวได้เมื่อวานที่ผ่านมา ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านบางแค พร้อมของกลางเป็นทองรูปพรรณ 58 บาท เงินสด 107,320 บาท ตั๋วรับจำนำ เสื้อผ้า และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ

พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับพล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และฝ่ายสืบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงผลจับกุม ผู้ต้องหา

อ่านข่าว ตร.แกะรอยวงจรปิดตามจับชายบุกเดี่ยวชิงทองหนัก 113 บาท

พล.ต.ท.สุรพล กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาใช้ยานพาหนะเดินทางมาทำงานในย่าน จ.ปทุมธานีเนื่องจากมีเพื่อนอยู่ในย่านที่เกิดเหตุ ก่อนจะลงมือได้มีการเดินทางมาสำรวจจุดที่ตั้งของร้านขายทอง จำนวนพนักงานรักษาความปลอดภัยและเส้นทางการหลบหนี

ตำรวจคุมตัวชายก่อเหตุชิงทองทำแผนประกอบคำสารภาพ ก่อนนำตัวขอศาลฝากขัง

ตำรวจคุมตัวชายก่อเหตุชิงทองทำแผนประกอบคำสารภาพ ก่อนนำตัวขอศาลฝากขัง

ตำรวจคุมตัวชายก่อเหตุชิงทองทำแผนประกอบคำสารภาพ ก่อนนำตัวขอศาลฝากขัง

รับสารภาพนำเงินเล่นการพนัน

โดยนำรถจักรยานยนต์ไปทิ้งลงคลองย่านธัญบุรี และแฝงตัวตามชุมชนต่าง ๆ ที่ไม่มีกล้องวงจรปิด และตัดผม เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตำรวจติดตามตัวซึ่งระหว่างหลบหนีได้มีการนำทองที่มีอยู่บางส่วนไปจำนำหลอมเป็นทองก้อน แบ่งให้เพื่อนอีก 2 คน และส่งผ่านพัสดุไปให้กับภรรยาที่อยู่ใน จ.สงขลา เพื่อไม่ให้มีของกลางติดตัวจำนวนมาก ซึ่งทางตัวผู้ต้องหาได้ติดต่อไปยังภรรยาขอเงิน 10,000 บาท เพื่อมาซื้ออุปกรณ์ในการหลอมทอง และเสื้อผ้าในการแปลงโฉม

ขณะเดียวกันผู้ต้องหายังให้การว่าตัวเองลงมือก่อเหตุ เนื่องจากต้องการใช้เงินเป็นจำนวนมาก และสาเหตุที่เดินทางมาก่อเหตุในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เพราะคิดว่าเกรงว่าหากก่อเหตุในพื้นที่จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านเกิดจะมีคนจดจำใบหน้า และตำรวจติดตามตัวได้ง่าย

นอกจากนี้ผู้ต้องหายังให้การว่าเคยเดินทางไปเล่นการพนันที่ฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา อีกทั้งยังระบุว่า หลังก่อเหตุจะเดินทางข้ามไปที่ประเทศเพื่อนบ้านอีกครั้ง จึงเชื่อได้ว่าอาจจะนำเงินที่ก่อเหตุมาได้ไปใช้สำหรับเล่นพนัน โดยหลังจากทำแผน ประกอบคำรับสารภาพแล้วเสร็จจะคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลธัญบุรีภายในวันนี้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง