BACK TO PLASTIC! "ทรัมป์" จ่อเลิกใช้หลอดกระดาษ

I will be signing an Executive Order next week
ending the ridiculous Biden push for Paper Straws,
which don't work. BACK TO PLASTIC!

ข้อความบน X ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่โพสต์ข้อความระบุว่า เตรียมยกเลิกการใช้หลอดกระดาษ และหันกลับมาใช้หลอดพลาสติกอีกครั้ง

โดยเขาระบุว่า ในสัปดาห์หน้า เตรียมจะลงนามยกเลิกคำสั่งการใช้หลอดกระดาษ ซึ่งเป็นนโยบายที่ได้รับการสนับสนุน ในสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ต้องการจะลดปริมาณพลาสติก โดยทรัมป์กล่าวว่า

สิ่งนี้ไม่เป็นผลและเตรียมจะที่นำพลาสติกกลับมาใช้

อ่านข่าว  สหรัฐฯ ยอมรับแค่ 2 เพศ "ทรัมป์" ยกเลิกใช้ "X" บนเอกสารราชการ

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

ในวันแรกหลังการเข้าทำงานที่ทำเนียบขาวหนึ่งในนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของทรัมป์คือการลงนามยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหาร 78 ฉบับที่เป็นการเพิกถอนคำสั่งหรือแผนริเริ่มต่าง ๆ ในยุคของประธานาธิบดี โจ ไบเดน 

คำสั่งดังกล่าว ยังรวมถึงการถอนตัวจากความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Paris Agreement) ที่มีเป้าหมายเพื่อความร่วมมือระดับโลกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

และประกาศเป็น “ สถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติ ” โดยเรียกร้องให้มีการขยายธุรกิจน้ำมันและก๊าซ และสั่งให้พระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์ใกล้สูญพันธุ์  ไม่สามารถเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพลังงานในสหรัฐฯอีกด้วย

อ่านข่าว เมื่อ "ทรัมป์" ถอนตัว "ข้อตกลงปารีส" โลกจะเดือดขึ้นหรือไม่

หลอดกระดาษ-เสรีนิยม-พลาสติกกลับมา

ขณะที่ Forbes ระบุว่า ทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะยุติสิ่งที่เขาเรียกว่า "เรื่องไร้สาระ" ของความพยายามในยุคของไบเดน ในการยุติการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในหน่วยงานของรัฐบาลกลางภายในปี 2578 ซึ่งเป็นความพยายามที่จะต่อสู้กับมลภาวะจากพลาสติก โดยอ้างว่าหลอดกระดาษ เป็นทางเลือกที่นิยมใช้นั้น "ไม่ได้ผล" ในโพสต์ ของทรัมป์ ยังระบุว่า จะกลับมาใช้พลาสติกอีกครั้ง!

เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมาอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อยุติการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทั้งหมดในบริการอาหาร บรรจุภัณฑ์ และกิจกรรมต่างๆ ของรัฐบาลกลางภายในปี 2570 และกำจัดผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทั้งหมดในหน่วยงานรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ภายในปี 2578

หลอดพลาสติกหลากหลายสีที่ส่วนใช้ในชีวิตประจำวัน

ยังไม่ชัดเจนว่าทรัมป์ วางแผนที่จะกำหนดเป้าหมายแผนริเริ่มใดบ้างภายใต้คำสั่งฝ่ายบริหารฉบับต่อไป แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาแสดงความไม่พอใจต่อทางเลือกกระดาษแทนหลอดพลาสติก

ในปี 2563 ทรัมป์เคยหาเสียง "พวกเขาต้องการห้ามใช้หลอดดูดจากกระดาษบ้างไหม มันไม่ค่อยได้ผลดีนัก เพราะมันจะสลายตัวเมื่อคุณดื่มมัน และถ้าคุณมีเน็คไทสวยๆ แบบนี้ คุณก็ไม่มีทางเลือกอื่น

นอกจากนี้หากย้อนกลับไปหลายปีก่อน ทรัมป์ขายหลอดพลาสติกที่มีตราสินค้าหลายพันชิ้นบนเว็บไซต์หาเสียงของเขา โดยเรียกหลอดพลาสติกเหล่านี้ว่าเป็นทางเลือกแทนหลอดกระดาษ "เสรีนิยม" หลอดพลาสติกขายในราคา 15 ดอลลาร์ต่อ 10 ชิ้น

หลอดพลาสติกดังกล่าวมีสีแดงสด และมีการแกะสลักคำว่า Trump ด้วยเลเซอร์ พร้อมกับข้อความที่ใช้หาเสียง "หลอดกระดาษเสรีนิยมใช้ไม่ได้ผล ยืนหยัดเคียงข้างประธานาธิบดีทรัมป์และซื้อหลอดพลาสติกรีไซเคิลของคุณวันนี้" 

หลอดกระดาษ

ความจริงของหลอดกระดาษกับสาร PFAS

ข้อมูลจาก สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา อ้างอิงข้อมูลของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม ค้นพบว่า หลอดกระดาษอาจมี “สารโพลีและเพอร์ฟลูออโรอัลคิล (PFAS)”  

นักวิจัยสุ่มตรวจหลอดดูดน้ำที่ทำจากวัสดุ เช่น หลอดกระดาษ หลอดไม้ไผ่ หลอดแก้ว หลอดสแตนเลส และหลอดพลาสติก 39 ตัวอย่าง เพื่อพิสูจน์หาสารเคมีปนเปื้อนจำพวก PFAS และพบว่าตัวอย่างที่ถูกตรวจสอบถึง 69% มีสารเคมีกลุ่มนี้ปะปนอยู่ โดยเฉพาะหลอดกระดาษ 90% หลอดไม้ไผ่ 80% หลอดพลาสติก 75% หลอดแก้ว 40% มีเพียงหลอดสแตนเลสตรวจไม่พบ PFAS

ทั้งนี้สารเคมีปนเปื้อนชนิดที่พบสูงสุด ได้แก่ กรดเปอร์ฟลูออโรออคตาโนอิค (perfluorooctanoic acid) ซึ่งถูกห้ามใช้งานในสหภาพยุโรปมาตั้งแต่ปี 2563 โดยคาดว่ามีการปนเปื้อนสารชนิดนี้มาจากวัสดุที่ใช้ในการผลิต

หน่วยงานด้านความปลอดภัยทางอาหารของออสเตรีย (AGES) ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของสารปนเปื้อนกลุ่ม PFAS โดยระบุว่าอาจส่งผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพ เช่น การลดอัตราการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อวัคซีน การทำให้ค่าคอเลสเตอรอลสูงขึ้น การเป็นพิษต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ การขัดขวางพัฒนาการของต่อมน้ำนม การทำให้น้ำหนักแรกเกิดลดลง และการก่อมะเร็งไตและมะเร็งอัณฑะในผู้ใหญ่

นอกจากนี้ สาร PFAS ยังเป็นสารเคมีที่ย่อยสลายได้ยาก และส่งผลให้หลอดดูดน้ำที่ทำจากวัสดุธรรมชาติไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามคำกล่าวอ้างอีกต่อไป สารเคมีกลุ่มนี้ยังสามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ สารเคลือบผ้า กระดาษรองอบอาหาร แว็กซ์เคลือบสกี น้ำยาดับเพลิง และเครื่องสำอาง เช่น ที่ปัดขนตา (มาสคาร่า) ครีมรองพื้น และลิปสติก เป็นต้น

ขณะที่ข้อมูลการใช้หลอดพลาสติก เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดขยะพลาสติกในมหาสมุทรและบริเวณชายฝั่งทั่วโลก และไม่สามารถกำจัดได้ โดยส่งผลให้สัตว์ในทะเลเสี่ยงต่อการกลืนกินเข้าไป

และเนื่องจากหลอดพลาสติกไม่สามารถย่อยสลายได้หมด หลอดพลาสติกจึงมีแนวโน้มที่จะแตกเป็นอนุภาคขนาดเล็กลงเรื่อยๆ จนปล่อยสารเคมีลงในดิน อากาศ และน้ำ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ พืช และสิ่งแวดล้อม

คาดว่านกทะเลมากถึง 70% และเต่า 30% เคยกินพลาสติกจากมหาสมุทรเข้าไปในช่วงชีวิตของพวกมัน

โดยมีการประเมินว่ามีหลอดพลาสติกราว 8.3 พันล้านหลอด ปนเปื้อนชายหาดทั่วโลกในปี 2567 สหภาพยุโรปได้ห้ามใช้หลอดพลาสติกในปี 2564 และเมืองต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา เช่น ซีแอตเทิล และไมอามีบีช ก็ทำเช่นเดียวกัน

ข้อมูล

:https://www.forbes.com/sites/maryroeloffs/2025/02/07/trump-promises-executive-order-against-paper-straws-back-to-plastic 

:วารสาร Food Additatives and Contaminants