เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2568 หนังสือพิมพ์ The Philippine Star สื่อท้องถิ่นฟิลิปปินส์ รายงานอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง ระบุว่า เครื่องบินที่มีรายงานว่า "โรดริโก ดูเตอร์เต" อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์โดยสารอยู่ ออกเดินทางมุ่งหน้าไปกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC)
ขณะที่ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ แถลงข่าวระบุว่า เครื่องบินที่ดูเตอร์เตโดยสารอยู่ ออกเดินทางเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยออกจากน่านฟ้าฟิลิปปินส์มุ่งหน้ากรุงเฮก ซึ่งจะเปิดทางให้อดีตผู้นำเผชิญกระบวนการยุติธรรมในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากเหตุนองเลือดที่เกิดจากการทำสงครามยาเสพติด
ผู้นำฟิลิปปินส์ เปิดเผยด้วยว่า ตำรวจสากลประสานขอความช่วยเหลือ ฟิลิปปินส์จึงตอบรับตามหน้าที่ หากไม่ทำตามจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจสากลในคดีอื่นๆ ในต่างประเทศที่มีชาวฟิลิปปินส์เข้าไปพัวพัน พร้อมระบุว่าฟิลิปปินส์ไม่ได้จับกุมอดีตผู้นำเพราะเป็นคำสั่งจาก ICC แต่ทำเพราะตำรวจสากลร้องขอและมีพันธะผูกพันที่ต้องปฏิบัติตาม

เครื่องบินที่มีรายงานว่าดูเตอร์เตโดยสารอยู่ ออกเดินทางจากสนามบินในกรุงมะนิลา มุ่งหน้ากรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2025
เครื่องบินที่มีรายงานว่าดูเตอร์เตโดยสารอยู่ ออกเดินทางจากสนามบินในกรุงมะนิลา มุ่งหน้ากรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2025
อ่านข่าว : คุมตัวแล้ว "ดูเตอร์เต" ICC ออกหมายจับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
ความเคลื่อนไหวนี้ เกิดขึ้นหลังอดีตผู้นำถูกจับกุมตัวขณะเดินทางกลับจากฮ่องกงถึงสนามบินในกรุงมะนิลา ในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากการทำสงครามยาเสพติดช่วงเป็นประธานาธิบดี ระหว่างปี 2016-2022
เอกสารหมายจับของ ICC ที่ส่งถึงทางการฟิลิปปินส์ระบุว่า การจับกุมตัวดููเตอร์เตมีความจำเป็น เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าเขาจะถูกนำตัวขึ้นศาล พร้อมทั้งชี้แจงด้วยว่าแม้ดูเตอร์เตจะไม่ได้เป็นประธานาธิบดีแล้ว แต่ยังมีอำนาจในประเทศและมีความเสี่ยงที่อาจจะเข้าไปแทรกแซงกระบวนการสอบสวน รวมทั้งกระทบต่อความปลอดภัยของพยานและเหยื่อ ดังนั้นจึงต้องออกหมายจับในครั้งนี้
"ดูเตอร์เต" ตั้งคำถามถูกจับกุมตัว
ลูกสาวของดูเตอร์เต บันทึกวิดีโอที่ฐานทัพอากาศ Villamor หลังจากดูเตอร์เตถูกคุมตัวอยู่ในช่วงแรกหลังลงจากเครื่องบิน แต่ไม่แน่ชัดว่าดูเตอร์เตพูดอยู่กับใคร โดยในคลิปมีเสียงดูเตอร์เตเรียกร้องหาคำตอบว่า ทำไมตนถึงถูกควบคุมตัว เขาทำผิดกฎหมายข้อใดหรือก่ออาชญากรรมอะไร แล้วอะไรคือหลักการทางกฎหมายที่ทำให้เขาต้องมาอยู่ตรงนี้และถูกลิดรอนเสรีภาพ
ก่อนหน้านี้ อดีตผู้นำฟิลิปปินส์เคยท้าทาย ICC หลายครั้ง พร้อมระบุว่า ตนเองพร้อมจะจบชีวิตในเรือนจำ หากนั่นจะทำให้ยาเสพติดหมดไปจากฟิลิปปินส์ได้

(แฟ้มภาพ) โรดริโก ดูเตอร์เต อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์
(แฟ้มภาพ) โรดริโก ดูเตอร์เต อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์
หลังจากเครื่องบินของดูเตอร์เตออกเดินทางไปยังกรุงเฮก กลุ่มผู้สนับสนุนเขาหลายร้อยคนรวมตัวกันด้านนอกฐานทัพ Villamor โดยผู้สนับสนุนหลายคนกล่าวยกย่องสิ่งที่ดูเตอร์เตทำให้แก่ประเทศชาติ
Hitler massacred three million Jews. Now there are three million drug addicts. I'd be happy to slaughter them.
นี่คือหนึ่งในวาทะที่ดูเตอร์เตกล่าวไว้เมื่อเดือน ก.ย.2016 ระบุว่า ฮิตเลอร์สังหารชาวยิว 3 ล้านคน เขาเองก็พร้อมสังหารผู้ติดยาเสพติดที่มีอยู่ในฟิลิปปินส์กว่า 3 ล้านคนเช่นกัน
อ่านข่าว : สะพัด ICC จ่อออกหมายจับ "ดูเตอร์เต"
การจับกุมอดีตผู้นำฟิลิปปินส์วัย 79 ปีคนนี้ จุดกระแสความแตกแยกในสังคมฟิลิปปินส์ขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากยังมีคนจำนวนมากที่ชื่นชอบดูเตอร์เตและนิยมในความเป็นผู้นำที่เด็ดขาด
การสำรวจโดย Social Weather Stations (SWS) ช่วงเดือน มิ.ย.2022 เดือนสุดท้ายที่ดูเตอร์เตดำรงตำแหน่ง พบว่า ประชาชนกว่าร้อยละ 88 ระบุว่ายังพอใจในผลงานของดูเตอร์เตและประชาชนพึงพอใจเขาทั้งกลุ่มคนเมืองและชนบท

ประชาชนจุดเทียนรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากสงครามยาเสพติด หลังอดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ถูกจับกุม เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2025
ประชาชนจุดเทียนรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากสงครามยาเสพติด หลังอดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ถูกจับกุม เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2025
แต่อีกด้าน คนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามยาเสพติด ทั้งคนที่มีญาติหรือคนใกล้ชิดเสียชีวิต ต่างยินดีที่อย่างน้อยความยุติธรรมใกล้จะเกิดขึ้น โดยนักเคลื่อนไหวนับร้อยคนรวมตัวกันในกรุงมะนิลา เพื่อจุดเทียนรำลึกถึงผู้เสียชีวิต ขณะที่ครอบครัวบางส่วนร่วมพิธีมิสซาหลังจากดูเตอร์เตถูกจับ
ข้อมูลทางการฟิลิปปินส์ ชี้ว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2016 จนถึงวันที่ 31 พ.ค.2022 หรือหนึ่งเดือนก่อนดูเตอร์เตจะหมดวาระ มีผู้เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ 6,252 คน แต่กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนและองค์การระหว่างประเทศจำนวนหนึ่ง ประเมินว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจริงอาจสูงกว่าตัวเลขของทางการอย่างน้อย 3 เท่า หรืออาจมีมากถึง 30,000 คน
ขณะที่รายงานขององค์การสหประชาชาติ เมื่อปี 2020 ระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 8,600 คน ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วยไม่ต่ำกว่า 73 คนและเด็กที่อายุน้อยที่สุดคือทารกวัยเพียง 5 เดือนเท่านั้น
อ่านข่าว
ซาอุฯ เป็นเจ้าภาพเจรจา สหรัฐ-ยูเครน หวังยุติสงครามรัสเซีย
เวียดนาม มังกรผงาด "วาระแห่งชาติ-พลังขับเคลื่อน" ยิ่งใหญ่ในใจ