วันนี้ (17 ก.พ.2568) นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมด้วยคณะ เดินทางมายัง อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า
น่าอับอายนะครับ !!
ยิ่งกว่าเป็นทางผ่านขบวนการคอลเซนเตอร์และค้ามนุษย์ ไทยยังเป็นทางผ่านการใช้อำนาจของจีนเหนือเมียนมา ทั้ง ๆ ที่ควรเป็นบทบาทไทย
ขอทำนายผลเรื่องจุดจบและทางออกของรัฐบาลชุดนี้ ที่กำลังดำเนินการต่อการเผชิญหน้ากับแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติคอลเซนเตอร์ ขบวนการนำพาและค้ามนุษย์ โดยดูจากสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาในช่วงหลายๆ อาทิตย์ที่ผ่านมานะครับว่า เละเทะ ปัดความรับผิดชอบ และแก้ปัญหาความมั่นคงแบบเงียบๆ
อ่านข่าว : "หลิว จงอี" ลุยแม่สอด เตรียมรับคนจีนจากเมียวดีกลับประเทศ
ตงิด ๆ ตั้งแต่ ผช.รมว.ความมั่นคงฯ จีนเดินทางมาไทย เพื่อผ่านไปดูสถานที่ที่เมียวดี เมื่อ 29 ม.ค.ที่ผ่านมาแล้วว่า มันยังไงๆ อยู่ รู้ครับว่าฝ่าดงกระสุนจากย่างกุ้งมาชายแดนไม่ได้ เลยต้องทำเป็นรักสามเส้าบินเข้าไทยแล้วข้ามชายแดนไปเมียวดี ไปคุยกับทหารพม่า BGF และ DKBA ที่นั่นด้วย
พี่ไทยนิ่งๆ ไม่พูดอะไร เพราะความมั่นคงแบบเงียบๆ (Quiet National Security) รับคนเข้ามาตามแนวชายแดน บอกว่า คนเหล่านี้หนีมาเอง แล้วมาถึงชายแดนได้ จึงให้ความช่วยเหลือ ผู้ใดเป็นคนชายแดนที่ทำงานด้านเมียนมาในพื้นที่ควบคุมโดย กกล.ต่าง ๆ คงจะคิดภาพออกว่ามันทำได้จริงหรือไม่
การส่งสัญญาณจากจเรตำรวจแห่งชาติ หลังจากที่มีการส่งตัว 260 คน ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการค้ามนุษย์ให้ทางการไทยจาก DKBA แล้วจเรตำรวจบอกว่า มีแค่ 1 คน จาก 260 คน ที่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ขอย้ำนะครับ 1 คน ข่าวลงไปหลายที่แล้วสับสนครับ
มันเป็นสัญญาณแปลกๆ ที่ทางตำรวจออกมา เหมือนชี้ให้เห็นอะไรบางอย่าง และถูกตอกย้ำโดยการกล่าวของผู้การตำรวจไซเบอร์ว่า จาก 260 คน นั้นมีคนเดียว และอ้างถึงว่า ผอ.ศูนย์สั่งการชายแดน จ.ตาก (ผู้ว่าฯ ตาก) เป็นคนพูด แต่สุดท้าย ท่านผู้ว่าฯ ตาก ก็ได้ยืนยันว่าท่านไม่เคยพูดคำนี้ ต้องรอกระบวนการคัดแยกเหยื่อเสร็จก่อน
ตำรวจนี่ทำอะไรรีบร้อนจนสังคมเห็นมาหลายทีแล้ว คราวนี้จึงเป็นตัวชี้วัดอีกอันหนึ่งที่ดีว่าทั้งจเรตำรวจและผู้การไซเบอร์ ผู้หลักผู้ใหญ่ของ สตช.มาชี้นำขนาดนี้ คงต้องเป็นสัญญาณใบไม้ไหวจากรัฐบาลบางอย่างแน่นอน
เมื่อวานนี้เอาอีก ผู้ช่วย รมว.ความมั่นคงฯ จีน หลิวจงอี้ มาไทยไปแม่สอดอีก ไปดูสถานที่นู่นนี่นั่นว่ารับคนมาแล้วจะไว้ที่ไหนกระบวนการอย่างไร ทั้ง ๆ ที่ฟังรักษาการ ผกก.สตม. แจ้งถึงกระบวนการว่าต้องผ่านอะไรบ้าง ไปอยู่ตรงไหน แต่อั๋วไม่สนใจบอกแต่ว่าจะส่งเครื่องบินมารับชาวจีนที่แม่สอดอย่างที่เคยทำมาแล้วในปี 2567
พูดเสร็จอี้ก็นั่งรถข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 เข้าเมียนมาไปพบ รมว.มท.ทหารพม่าทันที
แค่นี้ก็เห็นชัดครับ ไทยเป็นทางผ่านทั้งขบวนการนำพาเพื่อล่อและหลอกลวงคนไปเป็นสแกมเมอร์ในพม่า ทั้งเป็นทางผ่านของคนจีนที่เป็นเจ้าของและพวกขบวนการระดับหัวหน้า และมาเฟียที่ฝึกอาวุธเพื่อเป็นการ์ดนับพัน ๆ คน ของแก๊งคอลเซนเตอร์ ขบวนการนำพาและค้ามนุษย์ทั้งหมด
ไม่พอครับ ไทยยังเป็นประเทศทางผ่านให้รัฐบาลจีนเข้าไปดีลกับรัฐบาลทหารพม่าเพื่อทำการจัดส่งกลุ่มคนเหล่านี้ทั้งหัวหน้า นักลงทุน และมาเฟียต่าง ๆ เพื่อทำการส่งกลับจีนโดยไม่ต้องผ่านไทยถ้าทำได้
จีนจะทำทุกอย่างให้พม่าส่งคนจีนกลับไปจีนโดยตรงทันที นี่คือสิ่งที่จีนปรารถนาสูงสุด แต่คงยากสุด เพราะสนามบินฝั่งเมียนมาไม่มี จะลงพื้นที่ของกองพัน 275 ของทหารพม่ามันก็เล็กเกินสำหรับเครื่องบินลำเลียงแถมสุ่มเสี่ยงโดนสอยจากกองกำลังแถวนั้นอีก
หรือถ้าจะมีสนามบินที่เคยใช้ก็ต้องไปที่พะอันถ้าผมจำไม่ผิด ที่เคยถูกใช้เป็นสนามบินเก่าที่ไม่ได้ใช้มานานแล้วใกล้ๆ กับเทคนิคพะอัน แต่กว่าจะพาคนจีนฝ่าด่านทหาร KNU/KNLA เข้าไปยากมาก
ฉากทัศน์ถัดไป จีนดีลพม่าเสร็จปั๊บก็จะดีลกับไทยว่า ขอเอาเครื่องมาลงสนามบินแม่สอดเหมือนเคยมา แล้วเอาตัวกลับจีนเพื่อไปรับโทษทัณฑ์ที่บ้านเกิดเมืองนอน
ครับนโยบายความมั่นคงแห่งรัฐแบบเงียบๆ ก็จะเป็นว่า Low Profile นะแล้วผ่านไปเลยมันจะได้ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับไทย ทั้งเรื่อง พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง เพราะพวกนี้ระดับหัวกะทิรู้อยู่แล้วว่า ต้องหลบหนีออกจากไทยเข้าพม่า เพราะชายแดนอนุญาตให้แค่คนสองสัญชาติเท่านั้นในเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา
ต้องย้ำนะครับพวกนี้คือพวกค้ามนุษย์และกระทำผิดกฎหมายอาญาไทยโดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเข้าไปกระทำผิด และรู้ทั้ง ๆ รู้ว่าจะเข้าไปเป็นมาเฟียทำร้ายคน สั่งการให้ทำร้ายคน สั่งการให้หลอกลวงคน
จะไม่ถูกดำเนินคดีใด ๆ เลยหรืออย่างไร ?? ดินแดนไทยที่กลุ่มคนเหล่านี้ใช้ในการกระทำอาชญากรรมข้ามชาติจะไม่ถูกนำมาดำเนินคดีโดยกฎหมายไทยเลยใช่มั้ย
เงียบๆ ไปครับ ปิดๆ ไป เอาออกไปให้เร็วที่สุด พวกนี้ใช้ชื่อประเทศไทยหลอกคนหลายหมื่นคนไปขาย ใช้แผ่นดินไทยเพื่อการนำพาคนไปเป็นสแกมเมอร์ที่หลอกลวงคน ใช้เป็นช่องทางการนำอาวุธต่าง ๆ เข้าไปในคอลเซนเตอร์ต่าง ๆ
คงมีความคิดทั้งสองฝ่ายนะครับว่า รีบเอาออกไปเถอะจะไปดูแลทำไมให้อยู่ในไทยก็เปลืองภาษีคนไทยในคุกอีก ข้าวก็ไม่ต้องเลี้ยง แถมคุกเรายังแน่นอีก ให้กลับไปประเทศเค้าดูแลกันเองดีแล้ว
อีกความคิดนึง ก็มันทำผิดกฎหมายไทยโดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน มันจะปล่อยไปโดยไม่เคารพกฎหมายที่มีอยู่เลยเหรอ ต่อไปใครมาขอคนเค้ากลับไปไทยก็หันหลังแล้วบอกว่าเอาไปเลยครับคุกผมเต็ม ผมไม่มีเงินเลี้ยงข้าวในคุกด้วยครับ ทั้ง ๆ ที่ทำผิดกฎหมายไทยอย่างนี้
ขนาดลูกเรือประมงไทยไปทำผิดกฎหมาย พม่ายังต้องติดคุกให้เสร็จเสียก่อนแล้วถึงส่งกลับไทย !! นี่คนเป็นคนหลักพันใช้ไทยเพื่อหาเงินหลักแสนล้าน เราปล่อยง่ายๆ ไม่ได้ อธิปไตยไทยอยู่ไหนครับ
ลองดูนะครับว่าจะเป็นตามนี้หรือไม่ ปล่อยจีนเข้าๆ ออกๆ ไทยไปดีลพม่า เราไม่รู้อะไรเลย ถ้าเป็นจริงตามผมคาดการณ์นี้นะครับ มันจะเป็นการสมรู้ร่วมคิดระหว่างไทยกับแก๊งคอลเซนเตอร์ ขบวนการนำพาและค้ามนุษย์หรือไม่
ไว้ครั้งหน้าจะเล่าให้ฟังถึงฉากทัศน์ของกลุ่มที่ได้รับผลกระทบและเรียกร้องขอชีวิต แต่สุดท้ายไทยจะผลักเค้าเข้าไปจนมุมจนกระทั่งคนที่ตกหลุมพรางนี่จะกลายเป็นเหยื่อที่ไม่ได้รับการเหลียวแลใด ๆ
อ่านข่าว : ได้ข้อสรุป! เมียนมาเตรียมส่งเหยื่อค้ามนุษย์ให้ไทย 500 คน/วัน