วันนี้ (18 ก.พ.2568) ท่าข้ามที่ 13/1 บ้านท่าอาจ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ยังคงเปิดให้ขนส่งสินค้า ข้ามไปฝั่งประเทศเมียนมา ตามปกติ แม้ทางการไทยจะสั่งตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และ ห้ามส่งน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ท่าข้ามแห่งนี้ เน้นส่งสินค้าอุปโภคและบริโภค ของใช้ในชีวิตประจำวัน และวัสดุก่อสร้าง
ฝั่งตรงข้ามของท่าข้ามแห่งนี้ เคยเป็นบ่อนกาสิโน ชื่อแกรนด์เมียวดี แต่ไม่ได้ดำเนินการมา ตั้งแต่ปี 2562 ช่วงโควิดระบาด ปัจจุบันจึงถูกทิ้งร้าง นายสุรชัย วีระสมเกียรติ หรือที่คนในพื้นที่ อาจรู้จักกันในชื่อ "เฮียกวง" เจ้าของท่าข้ามที่ 9 และท่าข้าม 13/1 เปิดเผยว่า
ที่ผ่านมา เอกชนปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานรัฐ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เฮียกวง บอกว่า การลักลอบขนสิ่งของต้องห้าม และคนเข้าออกผิดกฎหมาย ผ่านช่องทางธรรมชาติ มีมาตลอด จนล่าสุด มีบ่อนพนัน สแกมเมอร์ และคอลเซนเตอร์ ในฝั่งเมียนมาจำนวนมาก แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการ จึงอยากให้ตรวจสอบท่าข้ามทั้ง 59 แห่ง
ที่ไหนผิด ดำเนินคดีเป็นแห่ง ๆ ไป ไม่ไช่เหมารวม
นายสุรชัย วีระสมเกียรติ หรือ เฮียกวง
นายสุรชัย วีระสมเกียรติ หรือ เฮียกวง
ด้านที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดตาก ระบุว่า เห็นด้วยกับจัดการดูแลท่าข้าม เพราะที่ผ่านมา การพูดคุยระหว่างภาครัฐและเอกชนในพื้นที่มีน้อยมาก จึงไม่มีการสะท้อนปัญหาของเอกชน ยืนยัน ชาวแม่สอดและเอกชนในพื้นที่ ไม่มีใครเห็นด้วยกับอาชญากรรมข้ามชาติ และพร้อมให้ความร่วมมือ
ท่าข้ามชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก มีทั้งหมด 59 แห่ง อยู่ในเขตอำเภอแม่สอด 42 แห่ง ท่าสองยาง 8 แห่ง แม่ระมาด 3 แห่ง พบพระ 4 แห่ง และอำเภออุ้มผาง 2 แห่ง ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก บางส่วนเป็นปศุสัตว์ ในจำนวนนี้ มี 3 แห่ง ที่ขออนุญาตส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปฝั่งเมียมมา แต่มีคำสั่งให้หยุด เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา
ส่วนประเด็น ใครมีอำนาจเปิด-ปิดท่าข้าม ถูกยกขึ้นมาหารือในที่ประชุม หลัง กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ลงพื้นที่อำเภอแม่สอด และหารือกับหน่วยงานความมั่นคง และฝ่ายปกครอง เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ซึ่งนายด่านศุลกากรแม่สอด อธิบายว่า ไม่มีอำนาจเปิด-ปิดท่าข้าม ดูแค่เรื่องการค้าเท่านั้น ขณะที่นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ชี้แจงว่า จังหวัดไม่สามารถอนุมัติปิดได้ เพราะยึดตามหนังสือของ สมช.ที่ต้องใช้ความเห็น 3 หน่วยงาน
ซึ่งนายรังสิมันต์ โรม ประธาน กมธ. ยืนยันไม่ได้เหมารวมว่าการดำเนินธุรกิจทุกท่าข้าม จะเอื้อต่อคอลเซนเตอร์ แต่ต้องทำงานเชิงรุก เพื่อตัดเนื้อร้าย ทำให้ท่าข้ามธรรมชาติมั่นคงปลอดภัย ไม่ลักลอบขนของผิดกฎหมาย
นายรังสิมันต์ โรม ประธาน กมธ.
นายรังสิมันต์ โรม ประธาน กมธ.
ขณะที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู พบหญิงชาวไทย 2 คน และหญิงชาวลาว 3 คน บริเวณชายแดน ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก ทั้งหมดให้การว่า สมัครใจข้ามไปทำงานในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษจีน "ไท่ชาง" ในร้านอาหารและร้านทำเล็บ แต่ตัดสินใจหนีข้ามกลับมาฝั่งไทย เพราะความเป็นอยู่ยากลำบาก หลังมาตรการตัดไฟฟ้า และอินเทอร์เน็ต เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งตำรวจ เพื่อสอบสวนดำเนินคดี
"แม่สอด" นทท.ซบเซา-ท่องเที่ยวลำบาก
ทางด้านสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.แม่สอด จ.ตาก ทีมข่าวไทยพีบีเอสพบชาย 2 คน หน้าตาคล้ายคนจีนและใช้ภาษาจีนพูดคุยกัน แต่เมื่อเข้าไปสอบถาม ทั้ง 2 คนบอกว่าเป็นชาวเมียนมา กำลังเดินทางไปกรุงเทพฯ เมื่อสอบถามถึงสถานการณ์ปราบปรามคอลเซนเตอร์ ในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ทั้ง 2 ปฏิเสธไม่พูดคุย พร้อมใช้แอปพลิเคชันแปลภาษาจากจีนเป็นไทย มาตอบผู้สื่อข่าวว่า "จะเดินทางไปกรุงเทพฯ"
ส่วนหญิงชาวยูกันดา บอกว่ามาเที่ยวที่แม่สอด 2 วันแล้ว แต่เมื่อถามถึงสถานที่ท่องเที่ยว กลับได้รับคำตอบว่าไม่ได้ออกไปไหน เพราะช่วงนี้เจ้าหน้าที่เข้มงวดจึงเดินทางยาก และเมื่อถามย้ำว่า เคยเดินทางไป จ.เมียวดี หรือไม่ เธอปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องขบวนการคอลเซนเตอร์ และบอกว่ากำลังจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ
แม้มีข้อมูลว่า คนจีนเดินทางมาอำเภอแม่สอดจำนวนมาก แต่คนขับรถรับจ้างบอกว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่พบ ส่วนใหญ่มาจากโซนยุโรป และยังบอกว่า ช่วง 2-3 เดือนก่อน เคยเจอคนจีนเข้ามาเดินตลาดอยู่บ้าง แต่หลังการเข้มงวด ปราบปรามขบวนการคอลเซนเตอร์ ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงขณะนี้ ไม่พบคนจีนอีก
สำหรับที่สนามบินแม่สอดวันนี้ มีเที่ยวบินเดินทางมาจากกรุงเทพฯ 2 เที่ยว มีเที่ยวบินหนึ่งถูกยกเลิกไป เนื่องจากเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีเหตุต้องซ่อมแซมเครื่องบิน
อ่านข่าวเพิ่ม :
"หลิว จงอี" ยื่น 4 ข้อปราบแก๊งคอลเซนเตอร์คุย "ภูมิธรรม" 19 ก.พ.