คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) จะเปิดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลที่สนใจเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นในตำแหน่งต่าง ๆ โดยอ้างอิงจากกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศ ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต. เกี่ยวกับการสอบแข่งขัน และมติที่ประชุม กสถ. เมื่อวันที่ 13 ก.พ.2568 ที่ผ่านมา
- เช็กปฏิทิน สอบ ก.พ. 2568 ขั้นตอนสอบภาค ก. รอบ Paper & Pencil
- "ทะเบียนบ้านกลาง" คืออะไร กับเรื่องที่ต้องรู้
ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรรจุแต่งตั้ง
คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) เปิดรับสมัครสอบแข่งขันโดยแบ่งเป็นกลุ่มภาค/เขต จำนวน 10 เขต (เพื่อประโยชน์ในการสมัครสอบแข่งขัน การขึ้นบัญชี และการบรรจุแต่งตั้ง) ตามตำแหน่งและอัตราที่ว่างของแต่ละกลุ่มภาค/เขต ดังนี้
1.กลุ่มภาคกลาง เขต 1 ประกอบด้วย ชัยนาท นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง โดยมีตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับ ดังนี้ ตำแหน่งประเภททั่วไป, ตำแหน่งประเภทวิชาการ, ตำแหน่งครูผู้ช่วย
2.กลุ่มภาคกลาง เขต 2 ประกอบด้วย จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง สมุทรปราการ สระแก้ว โดยมีตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับ ดังนี้ ตำแหน่งประเภททั่วไป, ตำแหน่งประเภทวิชาการ, ตำแหน่งครูผู้ช่วย
3.กลุ่มภาคกลาง เขต 3 ประกอบด้วย กาญจนบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี โดยมีตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับ ดังนี้ ตำแหน่งประเภททั่วไป, ตำแหน่งประเภทวิชาการ, ตำแหน่งครูผู้ช่วย
4.กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม โดยมีตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับ ดังนี้ ตำแหน่งประเภททั่วไป, ตำแหน่งประเภทวิชาการ, ตำแหน่งครูผู้ช่วย
5.กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 ประกอบด้วย มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี โดยมีตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับ ดังนี้ ตำแหน่งประเภททั่วไป, ตำแหน่งประเภทวิชาการ, ตำแหน่งครูผู้ช่วย
6.กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3 ประกอบด้วย นครพนม บึงกาฬ เลย สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี โดยมีตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับ ดังนี้ ตำแหน่งประเภททั่วไป, ตำแหน่งประเภทวิชาการ, ตำแหน่งครูผู้ช่วย
7.กลุ่มภาคเหนือ เขต 1 ประกอบด้วย เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน โดยมีตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับ ดังนี้ ตำแหน่งประเภททั่วไป, ตำแหน่งประเภทวิชาการ, ตำแหน่งครูผู้ช่วย
8.กลุ่มภาคเหนือ เขต 2 ประกอบด้วย กำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี โดยมีตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับ ดังนี้ ตำแหน่งประเภททั่วไป, ตำแหน่งประเภทวิชาการ, ตำแหน่งครูผู้ช่วย
9.กลุ่มภาคใต้ เขต 1 ประกอบด้วย กระบี่ ชุมพร นศรศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต ระนอง สุราษฎร์ธานี โดยมีตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับ ดังนี้ ตำแหน่งประเภททั่วไป, ตำแหน่งประเภทวิชาการ, ตำแหน่งครูผู้ช่วย
10.กลุ่มภาคใต้ เขต 2 ประกอบด้วย ตรัง นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล โดยมีตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับ ดังนี้ ตำแหน่งประเภททั่วไป, ตำแหน่งประเภทวิชาการ, ตำแหน่งครูผู้ช่วย
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ
คุณสมบัติทั่วไป และคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ของผู้มีสิทธิสมัครสอบ
- คุณสมบัติทั่วไป
ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องต้องห้ามเบื้องต้นตามประกาศคณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นสำหรับข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด ลงวันที่ 2 ก.ค.2564 ประกาศคณะกรรมการกลาง พนักงานเทศบาล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นสำหรับพนักงานเทศบาล ลงวันที่ 2 ก.ค.2564 และประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นสำหรับพนักงานส่วนตำบล ลงวันที่ 2ก.ค.2564 ดังต่อไปนี้
ก.คุณสมบัติทั่วไป
- มีสัญชาติไทย
- มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
- เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ข.ลักษณะต้องห้ามเบื้องต้น
- เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
- เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่คณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด คณะกรรมการ
กลางพนักงานเทศบาล และคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบลกำหนด - เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการหรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามมาตรฐานทั่วไป หรือหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด พนักงานเทศบาล และพนักงานส่วนตำบล ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบริหารงานบุคคล
ส่วนท้องถิ่นหรือตามกฎหมายอื่น - เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
- เป็นกรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
- เป็นบุคคลล้มละลาย
- เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพาพิษาถึงที่สุดให้ให้จำคุก เพราะกระทำความผิด
ทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ - เป็นผู้เคยถูกลงโพษให้ออก ปลตออก หรือไล่ออกจากรัฐสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
- เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก หรือปลดออก เพราะกระทำผิดวินัยตามมาตรฐานทั่วไป หรือหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด พนักงานเทศบาลและพนักงานส่วนตำบล ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นหรือตามกฎหมายอื่น
- เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก เพราะกระทำผิดวินัยตามมาตรฐานทั่วไป หรือหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด พนักงานเทศบาล และพนักงานส่วนตำบล ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นหรือตามกฎหมายอื่น
- เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ หรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
สำหรับพระภิกษุหรือสามเณร ทางราชการไม่รับสมัครสอบและไม่อาจให้เข้าสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น
- คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
- ผู้สมัครรอบต้องมีคุณวุฒิการศึกษาที่ ก.จ. ก.ท. ก.อบต. หรือ ก.พ. รับรองว่าตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่สมัครสอบก่อนหรือในวันปิดรับสมัครสอบ
- ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง
- ครูผู้ช่วย
- วิศวกรเครื่องกลปฏิบัติการ, วิศวกรไฟฟ้าปฏิบัติการ, วิศวกรโยธาปฏิบัติการ และวิศวกรสุขาภิบาลปฏิบัติการ
- สถาปนิกปฏิบัติการ
- พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ
- นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ
- นักฉุกเฉินการแพทย์ปฏิบัติการ
- นักกายภาพบำบัดปฏิบัติการ
- นักสาธารณสุข
นอกจากมีคุณสมบัติตามข้อ 1 แล้วต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
การรับสมัคร
รับสมัครสอบทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 7-28 มี.ค.2568 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ ที่เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ "สมัครสอบแข่งขัน อปท."
โดยผู้มีคุณสมบัติข้างต้นและประสงค์จะสมัครสอบแข่งขันตามเงื่อนไข หลักเกณฑ์ และวิธีการสอบที่กำหนดให้ดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้
- เข้าไปที่เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ "สมัครสอบแข่งขัน อปท."
- ให้ผู้สมัครกรอกข้อมูลการสมัครให้ถูกต้องและครบถ้วน ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด พร้อมอัปโหลด (upload) ไฟล์ ดังนี้
- รูปถ่ายสีหน้าตรง ไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นดา พื้นหลังหลังไม่มีลวดลาย ถ่ายไว้ไม่เกิน
6 เดือน ขนาด 1 นิ้ว โดยใช้รูปแบบไฟล์รูปภาพและขนาดตามที่ระบบกำหนด - สำเนาบัตรประชาชน (ที่ยังไม่หมดอายุ)
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาใบปริญญา/ประกาศนียบัตร และสำเนาระเบียนแสดงผลการศึกษา ที่แสดงว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตามประกาศรับสมัคร โดยต้องสำเร็จการศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติภายในวันที่ 28 มี.ค.2568 ที่เป็นฉบับภาษาไทยเท่านั้น
- สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่ยังไม่หมดอายุ
- เอกสารทางทหาร แบบ สด.8 หรือ แบบ สด.9 หรือ แบบ สด.43
- สำเนาหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบสำคัญการสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (กรณี ชื่อ-นามสกุล ในหลักฐานการสมัครไม่ตรงกัน)
โดยเอกสารทุกฉบับ (ยกเว้นรูปภาพ) ให้อัปโหลดเป็นประเภทไฟล์ PDF ขนาดไม่เกิน 1 เมกะไบต์ เขียนรับรอง "สำเนาถูกต้อง" ลงลายมือชื่อและลายมือชื่อตัวบรรจง วันที่ พร้อมเขียนชื่อตำแหน่งที่สมัครสอบกำกับไว้ทุกหน้า เมื่อยืนยันข้อความที่กรอกแล้ว ระบบจะออกใบตรวจสอบข้อมูลผู้สมัคร และ แบบฟอร์มการชำระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครโดยอัตโนมัติ
- รูปถ่ายสีหน้าตรง ไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นดา พื้นหลังหลังไม่มีลวดลาย ถ่ายไว้ไม่เกิน
- พิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงินลงในกระดาษขนาด A4 หรือจัดเก็บข้อมูลไว้ในรูปแบบไฟล์ ผู้สมัครสอบสามารถค้นหาข้อมูลการสมัครสอบและแบบฟอร์มการชำระเงิน ได้ที่เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ "ตรวจสถานะการสมัครสอบ" โดยกรอกเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
- ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ จำนวน 430 บาท ประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมสอบ จำนวน 400 บาท และ ค่าธรรมเนียมธนาคารรวมค่าบริการทางอินเทอร์เน็ต จำนวน 30 บาท
- นำแบบฟอร์มการชำระเงินตามข้อ 3 ไปชำระเงินค่าธรรมเนียมตั้งแต่วันที่ 7-29 มี.ค.2568 ได้ที่ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ได้ทางเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย, แอปพลิเคชัน (Krungthai NEXT หรือ เป๋าตัง) และ เครื่อง ATM
- ผู้สมัครที่ชำระค่าธรรมเนียมสอบแล้ว จะได้รับเลขประจำตัวสอบ สามารถเข้าไปพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ ซึ่งจะประกาศให้ทราบในวันประกาศรายชื่อผู้สมัคร วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ ที่เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ "พิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ" ผู้สมัครสอบต้องลงลายมือชื่อในบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบให้ครบถ้วน เพื่อนำไปแสดงตนหรือส่งมอบให้เจ้าหน้าที่คุมสอบในวันสอบ
- ผู้สมัครสอบที่มีความพิการทางการเห็น (ตาบอดทั้งสองข้าง) ให้ระบุในการกรอกข้อมูลการสมัครด้วย เพื่อจะจัดให้เข้าสอบที่ศูนย์สอบกรุงเทพมหานคร หรือ ในสถานที่ ที่คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) กำหนดเท่านั้น
เงื่อนไขการสมัคร
- ในการสมัครสอบครั้งนี้ ผู้สมัครสอบจะสมัครสอบผ่านทางอินเทอร์ ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อสมัครสอบแล้วจะไม่สามารถแก้ไขข้อความใด ๆ ได้อีก
- ผู้สมัครสอบเลือกสมัครสอบได้เพียง 1 ตำแหน่ง และเลือกกลุ่มภาค/เขต ที่สมัครสอบได้เพียง 1 กลุ่มภาค/เขต เมื่อสมัครแล้วจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้
- ผู้สมัครสอบจะต้องเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่สมัครสอบตามข้อ 2
- การสมัครสอบตามประกาศนี้ ถือว่าผู้สมัครเป็นผู้ลงลายมือชื่อ และรับรองความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าว หากผู้สมัครจงใจกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจมีความผิดทางอาญาฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137
- ผู้สมัครสอบต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่า เป็นผู้มีคุณสมบัติตามประกาศรับสมัครสอบ ในกรณีที่มีความผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัคร หรือหากภายหลังผู้สมัครรายใดมีคุณสมบัติไม่ถูกต้องครบถ้วนหรือตรวจพบว่าเอกสารและหรือหลักฐานคุณวุฒิ ซึ่งผู้สมัครสอบนำมายื่น ไม่ตรงหรือไม่เป็นไปตามประกาศรับสมัครสอบ ให้ถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบครั้งนี้มาตั้งแต่ต้นแลและไม่มีสิทธิ์ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง และจะไม่คืนค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ
- หากปรากฏหลักฐานว่า ผู้สมัครมีการสมยอมให้มีการเรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการช่วยเหลือ
ให้เป็นผู้สอบแข่งขันได้ หรือทุจริตการสอบแข่งขันต้องถูกปรับให้ตก และถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้สมัครสอบแข่งขันเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นไปตลอดชีวิต รวมทั้งต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา
การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ
คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) จะประกาศรายชื่อผู้มีมีสิทธิ์เข้าสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) และภาคความรู้ความสามารถเฉพาะสำหรับตำแหน่ง (ภาค ข) และ ประกาศ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ ทางเว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ "ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบภาค ก
ภาค ข และสถานที่สอบ"
ให้ผู้สมัครสอบพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ (ซึ่งมีรายละเอียดตำแหน่งที่สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ รูปถ่ายผู้สมัครสอบ เลขประจำตัวสอบ) ทางเว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ "พิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ" ซึ่งจะประกาศให้ทราบในภายหลัง
หลักสูตรวิธีการสอบ
หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน มี 3 ภาค รายละเอียดตามที่ได้กำหนดไว้ใน "หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน" ดังนี้
1.ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการสอบโดยข้อสอบปรนัย โดยคำนึงถึงถึงระดับความรู้ความสามารถที่ต้องการ ตามระดับตำแหน่ง ดังนี้
- วิชาความสามารถในการศึกษาวิเคราะห์และสรุปเหตุผล กำหนดคะแนนเต็ม 30 คะแนน
- วิชาความรู้พื้นฐานในการปฏิบัติราชการ กำหนดคะแนนเต็ม 30 คะแนน
- วิชาภาษาไทย กำหนดคะแนนเต็ม 20 คะแนน
- วิชาภาษาอังกฤษ กำหนดคะแนนเต็ม 20 คะแนน
2.ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะสำหรับตำแหน่ง (ภาค ข) (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการสอบโดยข้อสอบปรนัย โดยผู้สมัครสอบในตำแหน่งใดต้องสอบความรู้ความสามารถ ในทางที่จะใช้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่โดยเฉพาะสำหรับตำแหน่งนั้น
3.ภาคความรู้ความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค) (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการประเมินบุคคลเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ จากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงานและพฤติกรรม ที่ปรากฏทางอื่นของผู้เข้าสอบและจากการสัมภาษณ์ ทั้งนี้
อาจใช้วิธีการอื่นใดเพิ่มเติมอีกก็ได้ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ รายละเอียดตามที่ได้กำหนดไว้ใน "หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน"
ทั้งนี้ ผู้สมัครสอบทุกตำแหน่งต้องสอบภาคความรู้ความสามสามารถทั่วไป ภาค ก และ ภาค ข ก่อน แล้วจึงยื่นหลักฐานเข้าสอบ ภาค ค ต่อไป
โดยจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบภาค ค วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบวิธีการสอบในภายหลัง ทางเว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ "ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบภาค ค"
หลักฐานและเอกสารที่ต้องยื่นในวันสอบ
- วันสอบภาค ก และ ภาค ข
- บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวราชการ ซึ่งปรากฏรูปถ่าย ลายมือชื่อ และเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักที่ชัดเจน และยังไม่หมดอายุ หากไม่มีให้ใช้เอกสารรับรองรายการบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง (นายทะเบียนรับรอง)
- หลักฐานอื่น ๆ เช่น ไปสำคัญการสมรส ใบเปลื่ยนชื่อ-นามสกุล (ในกรณีชื่อ-นามสกุล ในหลักฐานการสมัครไม่ตรงกัน)
- วันสอบภาค ค
- บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต
- ใบสมัครสอบที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต ลงลายมือชื่อในใบสมัครให้เรียบร้อย จำนวน 1 ฉบับ
- บัตรประจำตัวประชาชน ตัวจริงและสำเนา ซึ่งปรากฏรูปถ่าย และเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักที่ชัดเจน และยังไม่หมดอายุ จำนวน 1 ฉบับ
- สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ฉบับ
- สำเนาใบปริญญาบัตร/ประกาศนียบัตร และสำเนาระเบียนแสดงผลการศึกษา ที่แสงว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามประกาศรับสมัคร โดยต้องสำเร็จการศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติภายในวันปิดรับสมัครคือวันที่ 28 มี.ค.2568 จำนวนอย่างละ 2 ฉบับ ทั้งนี้
- สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ต้องไม่หมตอายุ) จำนวน 2 ฉบับ
- ใบรับรองแพทย์ซึ่งออกให้ไม่เกิน 1 เดือน และแสดงว่าไม่เป็นโรคที่เป็นลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นสำหรับข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2566
- เอกสารทางทหารพร้อมสำเนาอย่างละ 2 ฉบับ
- สำเนาหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบสำคัญการสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ในกรณีชื่อ-นามสกุล
ในหลักฐานการสมัครไม่ตรงกัน) อย่างละ 1 ฉบับ
สำเนาหลักฐาน เอกสารทุกฉบับให้ผู้สมัคครเขียนคำรับรองว่า "สำเนาถูกต้อง" ลงลายมือชื่อและลายมือชื่อตัวบรรจง วันที่ พร้อมเขียนชื่อตำแหน่งที่สมัครสอบและเลขประจำตัวสอบกำกับไว้มุมบนด้านขวาของสำเนาเอกสารทุกหน้า
*** ผู้สมัครใดไม่ยื่นหลักฐานหรือเอกสารข้อใดข้อหนึ่ง ไม่มีสิทธิ์เข้าสอบ****
เกณฑ์การตัดสิน
ผู้สอบแข่งขันได้ ต้องเป็นผู้สอบผ่านภาค ก ได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 โดยมีเงื่อนไขว่า วิชาภาษาอังกฤษต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ด้วย สำหรับผู้สอบผ่านภาค ก สำนักงาน ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต. จะออกหนังสือรับรองผลภาค ก ซึ่งสามารถนำหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาค ก ไปใช้กับการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการของคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ได้ โดยสามารถใช้ได้ตลอดไป เว้นแต่ ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต.กำหนดเป็นอย่างอื่น
ผู้ที่ได้รับหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาค ก ในตำแหน่งที่บรรจุและแต่งตั้งในระดับปริญญาตรี ให้สามารถนำมาใช้สมัครสอบแข่งขันหรือบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งที่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีได้ โดยผู้สอบแข่งขันได้ ต้องเป็นผู้ตอบผ่านภาค ข และภาค ค แต่ละภาคได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ จะขึ้นบัญบัญชีเป็นกลุ่มภาค/เขต ตามที่ผู้สอบแข่งขันได้ ได้ยื่นสมัครสอบไว้ โดยในแต่ละกลุ่มภาค/เขต ให้นำคะแนนจากการสอบภาค ข และ ภาค ค มารวมกัน แล้วจัดลำดับที่จากผู้ได้คะแนนรวมสูงสุดลงมาตามลำดับ
กรณีที่มีผู้สอบได้คะมนมรวมเท่ากัน ให้ผู้สอบได้คะแนนภาค ค มากกว่าเป็นผู้อยู่ในลำดับที่สูงกว่า ถ้าได้คะแนนภาค ค เท่ากัน ให้ผู้สมัครที่ชำระเงินค่าธรรมเนียมการสมัครสอบก่อนเป็นผู้อยู่ในลำดับที่สูงกว่า โดยพิจารณาจากเอกสารและหลักฐานในการชำระเงินตามระบบ
การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ จะขึ้นบัญชีไว้เป็นเวลาไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันประกาศขึ้นบัญชี เว้นแต่กรณีที่มีการเรียกผู้สอบแข่งขันมารายงานตัวเพื่อบรรจุแต่งตั้งภายในอายุบัญชีแล้ว แต่อยู่ในระหว่างการขอความเห็นชอบการบรรจุแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้ ให้ขยายอายุบัญชีผู้สอบแข่งขันได้นั้นออกไปอีกไม่เกิน 30 วัน โดยถือเอาวันที่ไปรษณีย์ลงรับหรือการลงรับหนังสือตามระเบียบการนั้นหลักฐาน
การใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้เพื่อบรรจุและแต่งตั้ง
1.ผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งใดของบัญชีกลุ่มภาค/เขตใด จะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเรียงตามลำดับที่ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของกลุ่มภาค/เขต นั้น ในตำแหน่งที่สอบได้
2.การใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ โดยการรับรองบัญชีให้กระทำได้เฉพาะกรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีตำแหน่งที่ประสงค์ใช้การรับรองบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ เป็นตำแหน่งว่างภายหลังระยะเวลาที่ กสถ. ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันแล้ว และมีข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ตำแหน่งประเภททั่วไปในสังกัดเป็นผู้ได้รับการขึ้นบัญชี ผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งประเภทวิชาการ จึงจะสามารถขอหนังสือรับรองผู้สอบแข่งขันได้ผู้นั้น เพื่อไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สอบแข่งขันได้ โดยมิต้องเรียงลำดับที่ภายหลังจากได้มีการประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ครบ 1 ปี โดยจะได้รับการบรรจุแต่งตั้งในตำแหน่งที่สอบได้ในระดับและเงินเดือนตามที่ระบุไว้ในประกาศรับสมัครนี้ เท่านั้น
3.สำหรับผู้ที่สอบแข่งขันได้ ที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น หรือข้าราชการประเภทอื่น การใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ทุกกรณี จะรับโอนเฉพาะอายุราชการ โดยจะได้รับการบรรจุแต่งตั้งในตำแหน่งที่สอบได้ ในระดับและเงินเดือนตามคุณวุฒิการศึกษาที่ระบุไว้ในประกาศรับสมัครนี้ เท่านั้น
4.ผู้สอบแข่งขันได้ เมื่อได้รับการบรรจุแต่งตั้งแล้ว จะต้องดำรงตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่บรรจุแต่งตั้งอย่างน้อย 2 ปี จึงจะโอนไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นหรือหน่วยงานราชการอื่นได้
5.บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในกลุ่มภาค/เขตใด ให้ใช้เพื่อบรรจุแต่งตั้งได้เฉพาะกลุ่มภาค/เขตนั้น เว้นแต่กลุ่มภาค/เขตนั้น ไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ หรือบัญชีผู้สอบแข่งขันได้นั้นมีการเรียกใช้บัญชีครบทั้งบัญชีแล้ว ก็อาจใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งนั้น ของบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของกลุ่มภาค/เขตอื่นได้ตามที่ กสถ. กำหนด
6.การอนุญาตให้ใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งอื่นที่มีระดับสูงกว่ามาบรรจุแต่งตั้งในตำแหน่งที่มีระดับต่ำกว่า อยู่ภายใต้เงื่อนไขว่ากลุ่มภาค/เขตนั้น ต้องไม่มีบัญชีผู้สอบได้ในตำแหน่งที่จะบรรจุแต่งตั้ง และตำแหน่งที่ใช้จากบัญชีผู้ผู้สอบแข่งขันได้นั้น ต้องเป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้องเกื้อกูลกันกับตำแหน่งที่จะบรรจุแต่งตั้ง ตามที่ ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต. กำหนด และผู้นั้นมีคุณวุฒิการศึกษาที่ใช้ในการสมัครสอบแข่งขันที่เทียบได้ ไม่ต่ำกว่าคุณวุฒิการศึกษาตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งและเป็นสาชาชาวิชาหรือทางที่ตรงกันกับตำแหน่งที่จะบรรจุแต่งตั้ง โดยผู้นั้นต้องสมัครใจไปดำรงตำแหน่งที่มีระดับต่ำกว่าด้วย
การอนุญาตให้ใช้บัญชีตามวรรคหนึ่ง หากกลุ่มภาค/เขตใด ไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ในกรณีดังกล่าว อาจใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งนั้นของกลุ่มภาค/เขตอื่นได้ ตามข้อ 5
การยกเลิกการขึ้นบัญชีเฉพาะราย
ผู้ใดได้รับการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ถ้ามีกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ให้เป็นอันยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้นั้น ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ดังนี้
- ผู้นั้นได้ขอสละสิทธิ์รับการบรรจุและแต่งตั้ง เมื่อมีการเรียกรายงานตัวเพื่อบรรจุแต่งตั้ง
- ผู้นั้นไม่มารายงานตัวเพื่อรับการบรรจุเข้ารับราชการภายในเวลาที่กำหนด โดยมีหนังสือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนแจ้งให้ทราบกำหนดเวลาล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 10 วัน นับตั้งแต่วันที่ที่ทำการไปรษณีย์รับลงทะเบียน
- ผู้นั้นมีเหตุไม่อาจเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ตามกำหนดเวลาที่จะบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งที่สอบได้
- ผู้นั้นประสงค์จะรับการบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งที่สอบแข่งขันได้โดยการโอน และ กสถ. ได้ประกาศเป็นเงื่อนไขแล้วว่า จะรับโอนเฉพาะอายุราชการ โดยจะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งที่สอบได้ในระดับและเงินเดือนตามที่ระบุไว้ ในประกาศรับสมัครฉบับนี้ ผู้นั้นจึงไม่ประสงค์จะรับการบรรจุและแต่งตั้ง
- ผู้นั้นได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งที่สอบได้ไปแล้ว ให้ยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้นั้นไว้ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งอื่น
การยกเลิกการขึ้นบัญชีเฉพาะรายตามข้อ 3 เนื่องจากไปรับราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร เมื่อออกจากราชการทหารโดยไม่มีความเสียหายและประสงค์จะเข้ารับราชการในตำแหน่งที่สอบได้และบัญชีผู้สอบแข่งขันได้นั้นยังไม่หมดอายุหรือยังไม่ยกเลิก ให้ขึ้นบัญชีผู้นั้นไว้เป็นลำดับแรกที่จะบรรจุในครั้งต่อไป
การขอดูผลคะแนนสอบ
- เมื่อประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้แล้ว กสถ. จะได้มีประกาศให้ผู้สมัครสอบสามารถดูคะแนนสอบได้ทางเว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ "ดูผลคะแนนสอบ" โดยกรอกเลขประจำตัว 13 หลัก และเลขประจำตัวสอบ
- การประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของ กสถ. ให้ถือเป็นที่สุด ผู้สอบไม่มีสิทธิ์ขอให้ทบทวนแต่ประการใด
กสถ. ดำเนินการสอบแข่งขันด้วยความสุจริต และเที่ยงธรรม ดังนั้น หากมีบุคคลกลุ่มใดหรือผู้ใดแอบอ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้ผู้สมัครสอบให้สอบแข่งขันได้ หรือมีพฤติการณ์ในทำนองเดียวกันนี้ โปรดอย่าได้หลงเชื่อ และให้แจ้ง สำนักงาน ป.ป.ช., สำนักงาน ป.ป.ท., บก.ปปปป., กสถ. หรืออธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หรือ ท้องถิ่นจังหวัด
อนึ่ง ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการรับสมัครสอบแข่งขันในครั้งนี้ ได้ทางเว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หรือ http://www.dla.go.th
อ่านข่าว
เปิดปฏิทินจ่ายเงินเดือน ข้าราชการ เงินบำนาญ ทหารกองประจำการ ปี 2568
ไขข้อสงสัย "เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่" พบได้ในอวัยวะใดบ้าง ?
ประกันสังคมเพิ่มช่องทางจ่ายเงินสบทบ ม.39-ม.40 ผ่านแอปฯเป๋าตัง