เส้นทางแมว 9 ชีวิตของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จากที่เคยรุ่งโรจน์จนถึงขีดสุด จนถึงวันที่อับแสง หากมองให้เห็นเป็น “สัจธรรม” ก็เป็นเช่นนั้นเอง นับเป็น ”นายพล” คนแรกของกรมปทุมวัน ที่ถูกสอบสวนวินัย และในเวลาที่เหลืออีก 30 วัน ก็จะชัดเจนว่าผลลัพธ์จะออกมาในทิศทางใด แม้จะพอคาดการณ์ได้ว่า “ไม่เป็นคุณนัก”
หลังผลการพิจารณาถูกส่งไปให้กองวินัยตรวจสอบ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จะต้องตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองโทษ ซึ่งมีระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการร่วมกันพิจารณา เพื่อเสนอบทลงโทษ จากนั้นต้องส่งผลการพิจารณาให้ ผบ.ตร.ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ได้รับสำนวนการสอบสวน ซึ่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยัน ว่า การพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองโทษจะเสร็จสิ้นตามกรอบเวลา

สำหรับโทษทางวินัยที่จะเกิดขึ้นกับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. พอจะคาดการณ์ความเป็นไปได้ใน 3 แนวทาง
ทางหนักสุดคือ ผิดวินัยร้ายแรง โทษคือ ไล่ออกหรือปลดออก กรณีที่มีโทษไล่ออก จะไม่ได้รับสวัสดิการและสิทธิต่าง ๆ ตามระเบียบที่ข้าราชการพึงจะได้รับ แต่หากมีโทษปลดออก จะยังได้รับสวัสดิการและสิทธิตามระเบียบที่ข้าราชการพึงจะได้รับในบางส่วน

แนวทางที่ 2 ผิดวินัยร้ายแรง แต่ไม่อาจชี้โทษได้ว่าให้ไล่ออกหรือปลดออก แต่มีมลทินหรือมัวหมอง สามารถให้ออกจากราชการได้ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจฯ พ.ศ.2565 ม.138
ทางสุดท้าย “เบาสุด” แต่อาจจะเป็นไปได้น้อยที่สุด คือ ผิดวินัย แต่ไม่ร้ายแรง มีโทษภาคทัณฑ์ อาทิ กักยาม หรือตัดเงินเดือน
แต่ไม่ว่าผลจะออกมาในแนวทางใด ก็นับว่าเป็นโทษต่อ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ทั้งสิ้น แน่นอนว่า หาก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ไม่เห็นด้วยกับผลการสอบสวนวินัย ก็สามารถใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. และศาลปกครองสูงสุดได้ตามสิทธิ
สอบวินัย “บิ๊กโจ๊ก” สะท้อนปัญหา “บริหารบุคคล” องค์กรสีกากี
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร. ในฐานะ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ให้ความเห็นว่า กรณีของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กำลังสะท้อนว่า ถึงเวลาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรทำให้การปฏิรูปตำรวจเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ไม่เฉพาะแค่การปฏิรูปบริหารงานบุคคลและการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ แต่ต้องครอบคลุมไปถึงการปฏิรูปการสอบสวน การพัฒนาตำรวจในชั้นประทวนและพัฒนาการศึกษา เพื่อให้ตำรวจได้มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานมากขึ้น สร้างระบบที่มีคุณธรรมขึ้นในองค์กร
ผ่านมาเกือบ 20 ปีที่การปฏิรูปตำรวจไม่เห็นผล เพราะใช้การ ปฏิลูบ มากกว่า ปฏิรูป
“การปฏิรูปตำรวจ” ที่ควรจะเกิดขึ้นหรือดำเนินการอย่างจริงจัง แต่กลับไม่เป็นรูปเป็นร่าง ภายหลังที่เกิดการรัฐประหารขึ้น เรื่องนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอยู่เสมอ

พล.ต.อ.เอก ระบุว่า ตั้งแต่ยุครัฐบาลของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่ก่อการรัฐประหาร ในช่วงที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็พูดถึงการปฏิรูปตำรวจ ต่อมาในยุคของรัฐบาลรัฐประหาร โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังหยิบยกประเด็นการปฏิรูปตำรวจขึ้นมาอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็เป็นการปฏิรูปที่ไม่จริงใจ ทำไปเพียงผิวเผิน ลูบไล้ มองไม่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ทั้งที่รัฐบาลมีอำนาจหน้าที่เต็มในการบริหารพัฒนาองค์กรนี้
คาดหวังว่า นายกรัฐมนตรีจะผลักดันงานปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจัง ซึ่งขณะนี้ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจฯ พ.ศ.2565 ส่งถึงมือนายกรัฐมนตรีแล้ว ทราบว่าอยู่ระหว่างการพิจารณา
“สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กับผู้ที่ดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” พล.ต.อ.เอก กล่าวทิ้งท้าย
ในจำนวนข้าราชการตำรวจกว่า 200,000 นายทั่วประเทศ มีผู้ถูกกล่าวหาหรือกระทำผิดทั้งวินัยและอาญาอยู่ทุกปี และเราอาจจะเคยได้ยินประโยคคุ้นหูว่า

“มนุษย์มีทั้งดีและไม่ดี ตำรวจก็เช่นกัน” แต่ในความเป็นจริง ผู้ที่เป็นตำรวจไม่ควรเป็นคนไม่ดี เพราะโดยภาระหน้าที่คือ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
และแน่นอนว่า องค์กรมีส่วนสำคัญในผลิตตำรวจน้ำดีและจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากการปฏิรูปตำรวจถูกขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างจริงใจและจริงจังจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
รายงาน : กัญญารัตน์ เรือนใจ ผู้สื่อข่าวอาชญากรรม ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว
"บิ๊กโจ๊ก" ลุ้นผลสอบวินัย อยู่หรือไป "หายใจ" ติดขัด