วันนี้ (27ก.พ.2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ทางการไทยได้ส่งตัวชาวอุยกูร์ที่ถูกกักขังอยู่ในสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสวนพลู ตามที่เป็นกระแสข่าวจริง โดยส่งชาวอุยกูร์ทั้งหมด 40 คนให้ทางการจีนนำตัวขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานดอนเมือง กลับเขตปกครองพิเศษซินเจียงอุยกูร์ ประเทศจีน ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ส่วนอีก 8 คน เป็นชาวจีนที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ไม่ใช่ชาวอุยกูร์
การส่งตัวกลับในครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติในที่ประชุมให้สามารถส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปประเทศต้นทางได้ หลังสถานทูตจีนมีหนังสือถึงรัฐบาลไทย โดยมีเนื้อหาในหนังสือแสดงความจริงใจและมีเจตจำนงที่จะดูแลชาวอุยกูร์ทั้งหมดตามหลักมนุษยชน ทั้งด้านความปลอดภัย ได้รับการตรวจสุขภาพ จัดหาที่พักอาศัยและให้พบญาติเมื่อเดินทางไปถึง
อ่านข่าว : สถานทูตจีนยืนยัน "ชาวจีน 40 คน" ถูกส่งตัวจากไทยกลับซินเจียง
รัฐบาลจึงพิจารณาและมีมติร่วมกันในที่ประชุม สมช. ก่อนมีมติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งชาวอุยกูร์ทั้งหมดกลับประเทศ โดยมีตัวแทนจากรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เลขา สมช. และ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. ซึ่งเป็นตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปเฝ้าติดตามสถานการณ์อยู่ที่ซินเจียง เพื่อติดตามว่ารัฐบาลจีนได้ทำตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้หรือไม่ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่ทางการจีนทำหนังสือมาถึงรัฐบาลไทย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า ตามที่ปรากฏในกระแสข่าวเรื่องรถบรรทุกเข้าไปในพื้นที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสวนพลู และมีการปิดบังหน้าต่างของรถบรรทุกและนำออกจากสถานที่ เป็นไปตามหลักยุทธวิธีด้านความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สงบหรือความรุนแรง
นอกจากนี้การเลือกใช้เวลากลางคืน เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อการจราจรและสามารถควบคุมกำกับดูแลความปลอดภัยได้มีประสิทธิภาพมากกว่า ส่วนที่ต้องใช้รถเอกชนมาเพิ่มเพราะรถตำรวจไม่เพียงพอต่อความเหมาะสม เพื่อให้เป็นไปตามหลักมนุษยชน โดยแผนปฏิบัติทุกอย่างผ่านที่ประชุม สมช.เป็นผู้ลงมติ โดยใช้เวลาพิจารณามาระยะหนึ่งแล้ว
อ่านข่าว : "อุยกูร์" คือใคร ? รากเหง้าประวัติศาสตร์พันปีสู่ความขัดแย้งร่วมสมัย
ผบ.ตร.ให้ความเห็นว่า ชาวอุยกูร์ทั้ง 40 คนถูกกักขังอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี 2557 สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้การดูแลตามหลักมนุษยชนและความชอบธรรมมาโดยตลอดภายใต้กฎหมายและหลักสากลต่าง ๆ อย่างครบถ้วน จึงอยากให้เห็นใจตำรวจ เพราะหากกักตัวชาวอุยกูร์เอาไว้ต่อไปตำรวจจะถูกมองว่าทำตามหลักมนุษยชนอย่างถูกต้องหรือไม่ และเมื่อส่งกลับไปแล้วก็ถูกมองว่าไม่ได้ทำตามหลักมนุษยชน
การส่งตัวผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายกับประเทศ มองว่าเป็นเรื่องปกติ และมองว่าชาวอุยกูร์เหมือนชาวต่างชาติทั่วไปที่ต้องส่งกลับ เราไม่ควรจากตัวเขาไว้ต่อไปโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน ซึ่งอาจต้องใช้เวลามากกว่า 10 ปี
ทั้งนี้ หลังจากส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปประเทศจีนแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีมาตรการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในอดีต ทั้งเรื่องความมั่นคง การข่าวป้องกันการก่อความไม่สงบในพื้นที่สำคัญ
ส่วนสหรัฐฯ, องค์กรระหว่างประเทศ หรือหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชน จะลดอันดับด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยจากเหตุการณ์นี้หรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องประชุมหารือ รวมไปถึงชี้แจงข้อเท็จจริงว่าทำตามหลักสากลอย่างถูกต้องหรือไม่
อ่านข่าว
ยื่นคำร้องขอศาลไต่สวนฉุกเฉินปมส่ง 48 ชาวอุยกูร์กลับจีน
"กัณวีร์" จี้ "นายกฯ" ตอบคำถามปมส่ง 48 อุยกูร์กลับจีน
กสม.ส่งหนังสือด่วนถึงนายกฯ ชง 4 ข้อทบทวนส่งอุยกูร์กลับประเทศ