ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

แจ้งความ "เก๋งแดง" ชนแล้วโพสต์ ชาวเน็ตขุดคลิปเก่าอีกเพียบ

อาชญากรรม
3 มี.ค. 68
07:12
1,018
Logo Thai PBS
แจ้งความ "เก๋งแดง" ชนแล้วโพสต์ ชาวเน็ตขุดคลิปเก่าอีกเพียบ
อ่านให้ฟัง
06:22อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เกิดเหตุการณ์บน ถ.ราชพฤกษ์ เมื่อรถ Mazda สีแดงเฉี่ยวชนจักรยานยนต์จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์หนักในโลกออนไลน์ ล่าสุดผู้เสียหายเข้าแจ้งความ เอาผิดฐานพยายามฆ่า ชาวเน็ตขุดพบอีกหลายคลิป พฤติกรรมขับไล่จักรยานยนต์จากเลนขวา

วันนี้ (3 มี.ค.2568) ภาพเหตุการณ์รถเก๋ง Mazda สีแดงเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์สีเหลืองบน ถ.ราชพฤกษ์ จากกล้องหน้ารถของ Mazda จะเห็นว่ารถจักรยานยนต์อยู่ไกลออกไป ก่อนที่ Mazda จะเร่งเครื่องเข้าประชิดและชนจนเสียหลัก หลังจากเกิดเหตุ คนขับ Mazda ได้นำคลิปไปโพสต์ลงโซเชียล ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นอุบัติเหตุจากความประมาทหรือมีเจตนาโดยตรง กระทั่งเรื่องนี้ถูกส่งต่อไปยังเพจ สายไหมต้องรอด ที่ประกาศตามหาผู้เสียหาย ต่อมา นายจินตการ อายุ 49 ปี ผู้เสียหาย ได้เข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด พร้อมทีมทนายความ เพื่อเล่าเหตุการณ์

เช้าวันที่ 28 ก.พ.2568 เวลาประมาณ 08.00 น. ขณะที่เขากำลังขี่รถไปทางท่าอิฐ ปากเกร็ด บน ถ.ราชพฤกษ์ ขาออก เมื่อถึงใต้ทางต่างระดับ ได้ยินเสียงแตรดังจากด้านหลัง ก่อนที่ Mazda จะเฉี่ยวชนโดยไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ควบคุมรถไว้ได้ แม้จะเสียหลักเล็กน้อย หลังเกิดเหตุ ทั้ง 2 ฝ่ายจอดรถเพื่อพูดคุย Mazda มีรอยกระจกข้างซ้ายแตก ส่วนจักรยานยนต์มีรอยถลอกที่แฮนด์ด้านขวา

นายจินตการตำหนิคนขับ Mazda ว่าขับเร็วและอันตราย แต่คนขับกลับอ้างว่าเขาขับอยู่เลนขวาและบีบแตรเตือนแล้ว ทำไมจักรยานยนต์ไม่หลบ นายจินตการระบุว่า ช่วงเวลานั้นเขาหลบไม่ทัน เพราะแตรดังขึ้นกะทันหัน แม้จะรู้สึกไม่พอใจแต่เลือกไม่โต้เถียง เพราะต้องรีบไปทำงาน

ฝั่งคู่กรณีจึงถ่ายใบขับขี่และเรียกประกันให้จัดการ ต่างฝ่ายต่างแยกย้าย ตอนแรกตั้งใจให้เป็นเรื่องของประกัน แต่เมื่อเห็นคลิปหน้ารถ Mazda ก็รู้สึกตกใจ เพราะฝ่ายนั้นขับมาเร็วมาก ไม่มีการชะลอหรือหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ ทำให้เขาตั้งคำถามว่า คนขับ Mazda มีเจตนาหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ คือไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยบนท้องถนน

นายจินตการชี้แจงว่า เขาขับเลนขวาเพราะขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่และใช้ความเร็วสูง แต่ปกติขับด้วยความระมัดระวัง ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ และไม่ใช่คนที่ชอบมีเรื่องกับใคร อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้รุนแรงเกินไป และเขาตัดสินใจดำเนินคดีทางกฎหมาย หากฝ่ายคู่กรณีต้องการเจรจา ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย

จากนั้น นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด ได้นำผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สภ.บางศรีเมือง เพื่อให้ตำรวจสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายเอกภพระบุว่า จากการวิเคราะห์เหตุการณ์ คนขับ Mazda อาจมีเจตนาร้ายแรงถึงขั้นเอาชีวิตคู่กรณี จึงแจ้งความดำเนินคดีฐาน พยายามฆ่า ซึ่งเป็นคดีอาญาแผ่นดิน ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่างและไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีก

นอกจากนี้ ยังพบว่าคนขับ Mazda เคยโพสต์ภาพอาวุธปืนบนโซเชียลมีเดีย นายเอกภพจึงแจ้งตำรวจให้ตรวจสอบว่าเป็น ปืนจริงหรือปืนปลอม หากเป็นปืนจริง ต้องตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่ง ห้ามพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ หากพบว่าผู้ก่อเหตุพกพาปืนขณะขับขี่ อาจเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเพิ่มเติม

และก่อนเข้าแจ้งความ นายเอกภพได้นำผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุ และจำลองภาพเหตุการณ์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานมอบให้ตำรวจประกอบสำนวนคดี

หลังเกิดเรื่องนี้ขึ้น ปรากฎว่า ชาวเน็ตได้ไปค้นหาหลักฐานที่เจ้าของรถ Mazda สีแดงคันนี้ ได้โพสต์ไว้อีกหลายสิบคลิป ซึ่งเป็นคลิปที่มีพฤติกรรมรถของตัวเอง ขับบีบแตรไล่รถจักรยานยนต์ไม่ให้เข้ามาในเลนขวาสุดที่ใช้เลี้ยวขวา คลิปเหล่านี้ถูกรวบรวมโดย "เพจอีซ้อขยี้ข่าว อีซ้อ" หลังจากเจ้าของรถ Mazda โพสต์เหตุการณ์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ก่อนจะปิดบัญชีไปในภายหลัง

เรื่องนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง มีทั้งฝ่ายที่เข้าข้างรถ Mazda และฝ่ายที่เห็นใจผู้ขับขี่จักรยานยนต์ ฝ่ายที่เข้าข้าง Mazda มองว่า จักรยานยนต์ไม่ควรวิ่งเลนขวา โดยเฉพาะบน ถ.ราชพฤกษ์ ที่ใช้เร่งความเร็ว หากขับช้า อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ

ฝ่ายที่สนับสนุนจักรยานยนต์ ตรวจสอบข้อมูลและพบว่า จักรยานยนต์สามารถใช้เลนขวาได้บน ถ.ราชพฤกษ์ อีกทั้งจากคลิปพบว่า Mazda ขับมาเร็วเหมือนจงใจชน

ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ พฤติกรรมของคนขับ Mazda ที่อาจไม่ชอบจักรยานยนต์ เพราะมีการขุดพบว่าเจ้าตัวเคยโพสต์คลิปพุ่งชนจักรยานยนต์ขณะเลี้ยวขวา ไม่ต่ำกว่า 20 คลิป ในเฟซบุ๊กส่วนตัว

ขณะเดียวกัน ทีมทนายความ ระบุว่า สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ เพราะพฤติกรรมจากคลิปดังกล่าว อาจเข้าข่ายทั้งเจตนาและประมาท ซึ่งต้องให้ตำรวจพิจารณาดำเนินคดีต่อไป

อ่านข่าวอื่น :

รายงานครบ 2 ปี ทรู-ดีแทค พบราคาพุ่ง-คุณภาพดิ่ง กสทช.ไร้เยียวยา

"ลิซ่า" สร้างประวัติศาสตร์! โชว์สุดพิเศษบนเวทีออสการ์ ครั้งที่ 97

ข่าวที่เกี่ยวข้อง