แหกหักกลางทำเนียบขาว โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) สอนมวย โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ (Volodymyr Zelenskyy) ออกสื่อ แม้จะเชิญมาเป็นแขกเพื่อหารือสัมปทานสินแร่ และเสมือนเคลือบนัยแฝงทางการเมืองหวังยุติสงคราม รัสเซีย-ยูเครน
ในบทสนทนา เซเลนสกี้ ตัดพ้อความยากลำบากของสถานการณ์ยูเครนปัจจุบัน ที่เกือบเพลี้ยงพล้ำ และออกแนวขอร้องแกมบังคับต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกา จึงให้ ทรัมป์จึงออกอาการโกรธเกรี้ยว และหนึ่งในคณะได้สวนกลับว่า "ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย อย่ามาป่าวประกาศว่าเราต้องรู้สึกแบบใด เรากำลังแก้ไขปัญหานี้อยู่ อย่ามากล่าว อะไรเหมือนรู้ดีแบบนี้ … คุณไม่ได้อยู่ในจุดที่ชี้นิ้วสั่งว่าพวกเราต้องรู้สึกแบบใด เราจะรู้สึกดีและดียิ่งขึ้นไปอีก หากคุณไม่มาสะเออะอะไรทำนองนี้อีก"

อ่านข่าว: "ทรัมป์-เซเลนสกี" ปะทะคารมปมสงคราม ก่อนถูกเชิญออกทำเนียบขาว
หลังเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น สำนักข่าวต่างประเทศและไทย ต่างประโคมข่าวว่า ทรัมป์ ทำผิด "มารยาททางการทูต" ไม่ควรใช้คำพูดเสีย ๆ หาย ๆ ต่อคู่เจรจา "ออกสื่อ" ควรกล่าวประเด็นคร่าว ๆ ต่อสื่อมวลชน และเจรจากันในที่ลับมากกว่า ส่วน เจดี แวนซ์ (JD Vance) รองประธานาธิบดี มือขวาทรัมป์ นอกจากจะไม่ห้ามปราม ยังผสมโรง ตามน้ำทรัมป์เสียอีก
ขณะที่ เซเลนสกี้ ในฐานะ "ผู้ถูกกระทำ" ได้รับกำลังใจจากสื่ออย่างท่วมท้น แต่รัสเซีย ในฐานะคู่กรณีสงคราม และ สหรัฐฯ เองก็พร้อมจะตัดขาดความช่วยเหลือ และหันหน้าเข้าหา "วลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin)" อย่างเปิดเผย แถมยังชื่นชมผู้นำยูเครน ในฐานะผู้รักษา "อุดมการณ์" การเมืองแบบ "โลกสวย"เพื่อทำให้เกิดความสงบสุขและสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างถาวร
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาการเมืองโลก "ตามความเป็นจริง" จะพบว่า การกระทำของทรัมป์ เพื่อ "ปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติ" มากกว่าที่จะรักษาอุดม การณ์เพราะการเมืองโลก "โหดร้าย" และไม่เคยปราณีใคร "พลาด" หมายถึงจบเกม

ที่มา: WikiMedia
ที่มา: WikiMedia
"อุดมการณ์" กินไม่ได้ การเมืองโลก "โหดร้าย"
ฮานส์ มอร์เก็นธอ (Hans Morgenthau) นักรัฐศาสตร์ และการเมืองระหว่างประเทศ เสนอไว้ใน หนังสือ Scientific Man versus Power Politics ความว่า ความคิดในเชิงอุดมการณ์ "เสรีนิยม" นั้น "กินไม่ได้"
วิธีคิดทำนอง โลกต้องร่วมมือกัน สนับสนุนกัน ต่อต้านความรุนแรง คว่ำบาตร กีดกัน และประนาม "ความเกเร" ของรัฐใด ๆ ที่จ้องจะทำสงคราม รบราฆ่าฟัน เป็นการมองโลกที่ทำให้มนุษย์ "ดี" และ "มีเหตุผล" โดยกำเนิด และปัญหาที่ใหญ่มาก เพราะในนามของความร่วมมือ สามารถที่จะ "บีบบังคับ" ให้ประเทศที่ไม่รับหลักการนี้ กลับมามองโลกสวยเหมือน ๆ กันได้ หรือ หนักที่สุด คือ ทำสงคราม เพื่อบังคับให้เปลี่ยนวิธีคิด
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) อ้างหลักการนี้ ในการผนวกดินแดน ออสเตรีย เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมนี เพราะประชามติส่วนใหญ่ ต้องการเป็นส่วนหนึ่งกับนาซี จึงเข้าทำนอง ความร่วมมือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทั้งที่จริง ๆ เป็นเรื่องของการขยายอำนาจเท่านั้น
"หลักอุดมการณ์เสรีนิยม มีข้อจํากัด คือ มีความเป็นนามธรรม ความกว้าง และความสัมบูรณ์ในตนเอง … เพราะการเมืองระหว่างประเทศต้องเฉพาะเจาะจง จับต้องได้ และขึ้นอยู่กับเวลาและสถานที่"

ที่มา: University of Chicago
ที่มา: University of Chicago
ฮานส์ มอร์เก็นธอ เสนอเพิ่มเติมว่า การเมืองโลก "โหดร้ายเสมอ" จึงจำเป็นต้องตั้งต้นให้มนุษย์ "เลว" และ "เห็นแก่ตัว" ไว้ก่อน ซึ่งสัมพันธ์กับ การปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติ ที่ถึงแม้การกระทำบางอย่างของผู้นำจะทั้งเลวทั้งชั่ว แต่ว่า " ผลลัพธ์บั้นปลายสร้างความชอบธรรมให้การกระทำ (The end justified the mean)"
หมายถึง ตอนนี้ สิ่งที่ผู้นำอาจจะดูแย่ในสายตาชาวโลก แต่หากออกมาดีในท้ายที่สุด ผู้คนจะสรรเสริญในภายหลัง กล่าวคือ ไม่ว่าจะปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติ สุดท้ายผู้นำก็เป็น หนังหน้าไฟ ถูกด่า ถูกประนาม จากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอยู่ดี ดังนั้น เมื่อเลือกเส้นทางเดินได้แล้ว ยึดมั่น และปฏิบัติไปเลย เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
เพราะการเป็นผู้นำนั้น จะต้องใช้กระบวนการคิดและการตัดสินใจที่แตกต่างจากสามัญชนทั่วไป การเมืองโลกจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ผู้นำต้องรอบคอบ และมีสติปัญญาที่สูงส่งมาก ๆ ที่จะเลือกทางเดินของประเทศตนเองไม่ให้เสียหายและตกหลุมพราง ท้ายที่สุด ไม่ว่าผู้นำประเทศใด ๆ ก็เลือกที่จะปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติ ทั้งสิ้น

"หากเป็นผู้นำ และทราบว่าสิ่งที่ทํานั้นชั่วช้าอย่างมาก แต่ก็ยังปฏิบัติ สิ่งนี้คือความกล้าหาญทางศีลธรรม และหากเลือกทําต่อด้วยสิ่งที่เลวร้ายน้อยกว่า กําลังใช้การตัดสินใจเชิงศีลธรรมเช่นกัน"
สอดคล้องกับ อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เคยกล่าวว่า ทําไปก่อน หากผลออกมาดี ใครจะมาวิพากษ์อะไร ไม่เป็นผล หากออกมาแย่ นําทูตสวรรค์ 10 คนมาบอกว่าทำถูกต้อง เป็นไปไม่ได้
ตัวอย่าง คือ การประกาศสงครามกับฝรั่งเศส ของ "จอมพลแปลก พิบูลสงคราม" ในสมัยมหาสงครามเอเชียบูรพา ตอนประกาศ มีเสียงทัดทานอย่างมาก ไม่เห็นด้วยที่จะทำการใหญ่เกินสมรรถนะที่สยามมี ขนาดตัวจอมพลแปลกเองยังยอมรับว่า ทหารฝรั่งเศส "มันก็ชั้นครูเราทั้งนั้น"
รศ.ดร.พีระ เจริญวัฒนนุกูล อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอไว้ใน หนังสือ Ontological Security and Status-Seeking: Thailand’s Proactive Behaviours during the Second World War ตอนหนึ่งว่า ท้ายที่สุด ชัยชนะเหนือฝรั่งเศส นอกจากจะได้ดินแดนมาแล้ว สยามยังได้รับ "สถานภาพ" ในการเมืองโลก ในฐานะ "แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์" อย่างแท้จริง มีแต่ผู้อวยยศท่านจอมพลกระดูกเหล็กผู้นี้ทั้งนั้น ขนาดที่สร้าง "อนุสาวรีชัยสมรภูมิ" ให้เป็นอนุสรณ์ เลยทีเดียว

ที่มา: Routledge
ที่มา: Routledge
กลับมาที่ปมปะทะของ ทรัมป์ และ เซเลนสกี้ แม้ทรัมป์จะแสดงออกมาอย่างไม่เป็นมิตร และทำเสียมารยาทในหน้าสื่อ แต่สิ่งที่ทรัมป์กล่าวทั้งหมด ล้วนแล้วอยู่บนฐานของการมองโลกตามความเป็นจริง หรืออีกนัยหนึ่ง คือ ต้องการเบรกความโลกสวยของเซเลนสกี้
อีกทั้งการกล่าวหนักแน่นว่า "ผมไม่ได้เห็นพ้องกับปูติน อันที่จริงผมไม่ได้เห็นพ้องกับใคร ผมเห็นพ้องแค่กับสหรัฐอเมริกา" บอกว่าเซเลนกี้ไม่เข้าใจสหรัฐฯ หมายถึง ไม่เข้าใจผลประโยชน์ที่มหาอำนาจต้องปกป้อง และไม่เข้าใจการเมืองโลก

อ่านข่าว: "ปาฏิหาริย์นั้นมีจริง" ไทยรอดพ้น "ผู้แพ้" สงครามโลกครั้งที่ 2
"คุณก็เล่นเกมการเมืองอยู่ คุณกำลังเดิมพันกับผู้คนนับล้าน คุณกำลังเดิมพันกับสงครามโลกครั้งที่สาม" หรือ "คุณไม่ได้ชนะ สถานการณ์ของคุณมีโอกาสจะดีขึ้นได้มากก็เพราะเรา … หากคุณไม่มีอุปกรณ์ทางทหารของเรา สงครามครั้งนี้คงจบลงภายในสองสัปดาห์"
คำกล่าวเหล่านี้ บ่งชี้ได้ว่า สหรัฐฯ กำลังประกาศการตัดสินใจบนฐานของความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น ไม่ทำตัวเป็นพ่อพระ คอยให้การสนับสนุนแบบ "เสียเปรียบ" อีกต่อไป และต้องเป็นฝ่ายยูเครนที่ต้องเข้าหา เพื่อให้สหรัฐฯ เข้าช่วยเหลือผ่าน "การเจรจาทางการทูต" แทนที่จะยืดยื้อสงคราม
ผลประโยชน์ชาติ "เปลี่ยนแปลงได้" ผู้นำต้องรอบคอบ
ด้วยว่าผลประโยชน์แห่งชาติ สามารถ "เปลี่ยนแปลงได้ตลอด" เมื่อก่อน สหรัฐฯ ต้องปกป้องอีกอย่าง ปัจจุบันปกป้องอีกอย่าง เป็นเรื่องปกติ สังเกตจาก "สงครามลับ" ที่มีการเปิดเผยจาก New York Times ว่า แท้จริง ต้นเหตุของสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อปี 2022 แต่ "CIA" ได้ใช้ยูเครนเป็นฐานการเคลื่อนไหว "ล้มล้าง" การปกครองของปูติน มามากกว่า 10 ปี แล้ว
บทความ The Spy War: How the C.I.A. Secretly Helps Ukraine Fight Putin เขียนโดย Adam Entous และ Michael Schwirtz เสนอว่า CIA เข้าฝึกทหารยูเครนมาตั้งแต่ปี 2016 เรียกว่า "Unit 2245" โดยมีจุดประสงค์ เพื่อสอยโดรนติดอาวุธของรัสเซีย มาถอดประกอบ และสร้างเป็นยุทธภัณฑ์ไว้โต้ตอบ หรือกระทั่งฝึก "สายลับ" สัญชาติยูเครน เพื่อแฝงตัวเข้าไปล้วงความลับจากรัฐบาลปูตินเสียด้วยซ้ำ

"หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ เราก็หมดหนทางที่จะต่อต้าน หรือเอาชนะรัสเซีย" Ivan Bakanov หัวหน้าหน่วยข่าวกรองยูเครน กล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการทำลายหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์นี้ หมายความว่า จริง ๆ แล้ว สงครามนี้ ยูเครน (โดย สหรัฐฯ สนับสนุน) "เปิดมาก่อน" นานแล้ว ทำให้การประกาศสงคราม เร่ิมรุกรานของรัสเซีย เป็นเพียง "ยอดภูเขาน้ำแข็ง" เท่านั้น
ที่สำคัญ เมื่อเห็นว่ารัสเซียเอาจริง CIA ก็ถอยสุดซอย แต่ไม่อาจทัดทานสภาวะสงครามที่ยูเครนเลือก ทั้งยังต้องเป็นหนังหน้าไฟ คอยช่วยเหลือด้านอาวุธอีกด้วย ทั้งที่สหรัฐฯ อาจจะเข้าตาจน เมื่อเป็นศัตรูกับรัสเซีย ด้วยอีกประเทศ
แหล่งข่าวที่เคยเป็น CIA และทำงานนี้ เปรีบเทียบได้น่าสนใจว่า "ยูเครนต้องการปลา แต่ในทางนโยบาย เราไม่สามารถส่งปลาให้ถึงมือได้โดยตรง … เราจะรู้สึกดีกว่ามาก หากสอนให้เขาตกปลา หรือใช้วิธีเหวี่ยงเบ็ดที่ถูกต้องแทน"

อ่านข่าว: ประชาธิปไตย "กินได้" การเมืองต้อง "ปลูกฝัง" ตั้งแต่เด็ก
และยังสะท้อนให้เห็นว่า เซเลนสกี้ ไม่ได้ตระหนักถึงปัญหานี้ให้มากพอก่อนไปเจรจา เสมือนถูกรังแกจากเพื่อนบ้านมหาอำนาจ และต้องปกป้อง "คุณค่า" เสรีนิยมในการเมืองโลก อาจปฏิเสธได้ว่า เข้ารับตำแหน่งหลังจากดีลดังกล่าว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในฐานะผู้นำ สงครามที่ต้องหวังพึ่งกองกำลังจากพันธมิตร มีความเสี่ยงที่จะพ่ายแพ้ได้ง่ายดาย หากผลประโยชน์แห่งชาติของผู้ให้ความช่วยเหลือเปลี่ยนไป
"อุดมการณ์ VS ความเป็นจริง" ทางเลือกเซเลนสกี้-ทางรอดยูเครน
เมื่อการเมืองโลกสุดจะโหดร้าย ทุกสิ่งทุกอย่างอ้างอิงอยู่กับ "ผลประโยชน์แห่งชาติ" ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด วันนี้ให้ความช่วยเหลือ วันต่อมาอาจจะเปลี่ยนใจเป็นศัตรูย่อมได้
การตัดสินใจทางการเมือง เป็นเรื่อง "ขาว-ดำ" มีผิด มีถูก ซึ่ง ฮานส์ มอร์เก็นธอ ได้เสนอ "หลักประกัน" สำคัญของการเมืองโลก ในหนังสือ Politics among Nations คือ "อำนาจ (Power)" หากปราศจากสิ่งนี้ ผู้นำจะคิดทำการใดย่อมยากเสมอ บรรดาประเทศเล็ก ๆ หากต้องการอำนาจ จึงต้องเกิดการรวมกลุ่มกัน เพื่อทำให้มหาอำนาจหวาดวิตก

สัญญาณที่บ่งบอกถึงจุดนี้ คือ บรรดา "ประเทศยุโรป" ออกโรงสนับสนุนเซเลนสกี้ ตุรกี ถึงกับออกโรงเป็น "สื่อกลาง" เจรจากับสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะยุโรปเองก็ขาดอำนาจในการเมืองโลกไปมากพอสมควร และเล็งเห็นว่ารัสเซียเป็น "ภัยคุกคาม" มาช้านาน
บทความวิจัย Geopolitical EU? The EU's Wartime Assistance to Ukraine เขียนโดย Elisabeth Johansson-Nogués และ Francesca Leso เสนอว่า "ภูมิศาสตร์ (Geography)" เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไร รัสเซียก็ยังตั้งอยู่ข้าง ๆ ยุโรป ทำให้สามารถแผ่ขยายอำนาจเข้ามาในยุโรปตะวันตกได้เสมอ
ดังนั้น การสนับสนุนยูเครน เท่ากับ ป้องปรามรัสเซียไม่ให้เป็นภัยคุกคามที่รุนแรงในอนาคตได้ และเท่ากับ บรรดายุโรป คิดเรื่อง ผลประโยชน์แห่งชาติ มากกว่าจะมาโลกสวย ปกป้องคุ้มครองยูเครนด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม หรือเสรีนิยม ใด ๆ
ขนาดที่เซเลนสกี้เอง เมื่อมีแบ็คสนับสนุนมากพอก็พร้อมที่จะ "เจรจา" สัมปทานสินแร่กับสหรัฐฯ อีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ ทรัมป์ และแวนซ์ รุมสกรัมออกสื่อมาหมาด ๆ เป็นไปเพื่อการใด ? เป็นเรื่องที่ต้องหาคำตอบในอนาคต

อ่านข่าว: 3 ปีสงครามรัสเซีย-ยูเครน "ความหวัง-สันติภาพ" ดันเศรษฐกิจไทย
แหล่งอ้างอิง
- หนังสือ Scientific Man versus Power Politics
- หนังสือ Politics among Nations
- หนังสือ Ontological Security and Status-Seeking: Thailand’s Proactive Behaviours during the Second World War
- บทความวิจัย Geopolitical EU? The EU's Wartime Assistance to Ukraine
- https://www.nytimes.com/2024/02/25/world/europe/cia-ukraine-intelligence-russia-war.html
- https://www.theguardian.com/us-news/2025/feb/28/trump-zelenskyy-meeting-transcript