กรณีการเสียชีวิตของดาราดังระดับตำนานเจ้าของ 2 รางวัลออสการ์ Gene Hackman และ Betsy Arakawa ภรรยาที่พบเสียชีวิตในบ้านพักในรัฐนิวเม็กซิโก เมื่อเดือนก่อน แม้ว่าจะไม่ใช่เหตุฆาตกรรม
แต่ผลชันสูตร ล่าสุดกลับสร้างความตกใจไปทั่วโลก เหตุเพราะพบว่า Betsy Arakawa เสียชีวิตก่อน Hackman นานร่วมสัปดาห์จากโรคปอดจากการติดเชื้อ “ฮันตาไวรัส” (Hantavirus Pulmonary Syndrome หรือ (HPS) ส่วนแฮ็กแมน หัวใจวาย โดยที่เขาเป็นผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์
ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ฮันตาไวรัสคือกลุ่มไวรัสที่ทำให้เกิดอาการป่วยร้ายแรง บางครั้งอาจถึงขั้นเสียชีวิตในผู้คนทั่วโลก โดยไวรัสแพร่กระจาย โดยสัตว์ฟันแทะที่ติดเชื้อผ่านทางปัสสาวะ อุจจาระ และน้ำลาย
อ่านข่าว ปิดตำนาน Gene Hackman นักแสดงดัง 2 ผลงานออสการ์
ข้อมูลระบุอีกว่า ฮันตาไวรัส แพร่กระจายผ่านของเหลวในร่างกายและอุจจาระของสัตว์ฟันแทะ ผู้คนส่วนใหญ่ติดฮันตาไวรัสโดยการหายใจเอาไวรัสเข้าไป ส่วนใหญ่ที่พบในทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปกลาง และทวีปอเมริกาใต้ สามารถทำให้เกิดโรคปอดจากฮันตาไวรัส ส่วนในสหรัฐอเมริกา พบฮันตาไวรัสหลายชนิด ส่วนใหญ่จะทำให้เกิดโรคส่งผลต่อปอดเป็นหลัก
ฮันตาไวรัส ทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ในระยะแรก ซึ่งอาจลุกลามไปสู่อาการป่วยที่รุนแรงมากขึ้น โดยผู้ป่วยจะมีอาการหายใจลำบาก ผู้ป่วย HPS ควรเริ่มการรักษาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากโรคนี้อาจทำให้เสียชีวิตได้เกือบ 4 ใน 10 คนที่ติดเชื้อ
มันแพร่กระจายอย่างไร
ฮันตาไวรัส มีหนูเป็นตัวแพร่โรคนี้ ในสหรัฐอเมริกา พบได้บ่อยที่สุดโดยหนูป่า ผู้คนสามารถติดฮันตาไวรัสได้ หากสัมผัสกับปัสสาวะ อุจจาระ หรือน้ำลายของสัตว์ฟันแทะที่แพร่เชื้อไวรัส โดยอาจเกิดขึ้นได้เมื่อผู้คน
- สูดอากาศที่ปนเปื้อนฮันตาไวรัส ขณะทำความสะอาดในจุดที่สัตว์ฟันแทะสัมผัสวัตถุที่ปนเปื้อนแล้ว สัมผัสจมูกหรือปาก
- ถูกสัตว์ฟันแทะที่ติดเชื้อกัดหรือข่วน
- รับประทานอาหารที่ปนเปื้อนฮันตาไวรัส

Gene Hackman นักแสดงดังชื่อดังชาวอเมริกันวัย 95 ปี เสียชีวิตพร้อมภรรยา
Gene Hackman นักแสดงดังชื่อดังชาวอเมริกันวัย 95 ปี เสียชีวิตพร้อมภรรยา
อาการของโรคติดเชื้อไวรัสฮันตา
ขณที่เพจพบแพทย์ ของไทย ระบุว่า ผู้ที่ติดเชื้อ Hantavirus จะเริ่มแสดงอาการภายในเวลา 1–8 สัปดาห์หลังการได้รับเชื้อไวรัสจากปัสสาวะ อุจจาระหรือน้ำลายของสัตว์ฟันแทะ โดยอาการที่เกิดขึ้นแบ่งออกได้เป็น 2 ระยะ
อาการระยะเริ่มต้น อาการจะคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือโรคปอดอักเสบ ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย มีไข้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย ปวดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ อย่างต้นขา สะโพก หลังและไหล่ อาจมีอาการปวดหัว วิงเวียน หนาวสั่นร่วมด้วย
ส่วนอาการระยะหลัง จะแสดงประมาณวันที่ 4–10 นับจากวันแรกของระยะเริ่มต้น ผู้ป่วยจะมีอาการไอมีเสมหะ หายใจไม่อิ่ม มีน้ำคั่งในปอด ความดันโลหิตต่ำและประสิทธิภาพในการทำงานของหัวใจลดลง
ผู้ที่ติดเชื้อ Hantavirus อาจมีอาการแย่ลง และเสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว หากเกิดภาวะไตติดเชื้ออาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการ Hemorrhagic Fever With Renal Syndrome (HFRS) อย่างปัสสาวะผิดปกติร่วมกับเยื่อเมือกสีแดง
ในบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้เกิดเลือดออกที่ไต ไตวาย หรือเกิดอาการช็อก ดังนั้นผู้ที่ใกล้ชิดกับสัตว์ฟันแทะหรือสัมผัสอุจจาระของสัตว์ฟันแทะมีอาการหนาวสั่น มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ หรือหายใจลำบาก ควรพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด
แม้ว่าจากตัวอย่างของการระบาดในทวีปอเมริกาเหนือจะไม่พบว่า การติดเชื้อฮันตาไวรัส เป็นโรคติดต่อจากคนสู่คน แต่การระบาดของเชื้อไวรัสในทวีปอเมริกาใต้ ยังมีการแพร่กระจายในคนอยู่ และเชื้อ Hantavirus ที่แพร่กระจายในทวีปเอเชีย ก็ส่งผลต่อการทำงานของไตมากกว่า ส่งผลกระทบต่อปอด จึงทำให้เห็นว่าเชื้อไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงข้ามสายพันธุ์ในภูมิภาคที่แตกต่างกัน
จำแนกเชื้อยาก ยังไม่มียารักษา
การวินิจฉัยโรคฮันตาไวรัส ในระยะแรกอาจทำได้ยาก เนื่องจากอาการคล้ายกับโรคไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย แต่หากผู้ป่วยมีอาการดังกล่าว ร่วมกับมีอาการหายใจไม่อิ่ม มีประวัติอยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ฟันแทะ แพทย์จะตรวจเลือด เพื่อดูว่าร่างกายของผู้ป่วยมีการสร้างสารภูมิต้านทานต่อฮันตาไวรัสหรือไม่ และอาจตรวจด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติม เพื่อตรวจหาความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ Hantavirus และยืนยันผลการวินิจฉัย
ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาการติดเชื้อฮันตาไวรัสโดยตรง และยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสชนิดนี้ แพทย์จะรักษาผู้ที่ติดเชื้ออย่างใกล้ชิด ด้วยการนำของเหลวออกจากปอด และการทำออกซิเจนบำบัด ด้วยการใช้เครื่องช่วยหายใจหรือท่อช่วยหายใจ โดยแพทย์จะสอดท่อช่วยหายใจผ่านจมูกหรือปากลงไปยังหลอดลม เพื่อให้ทางเดินหายใจเปิดและสามารถแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนได้
ในบางคนที่มีอาการรุนแรง แพทย์อาจใช้เครื่องพยุงการทำงานของหัวใจและปอด (ECMO) เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเครื่องดังกล่าวจะสูบฉีดเลือด เพื่อกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และช่วยให้เลือดที่มีออกซิเจนกลับคืนเข้าสู่ร่างกาย