เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2568 โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ ขู่จะเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 200 กับสินค้าทั้งไวน์ คอนญัก และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่น ๆ จากยุโรป ถือเป็นการเปิดแนวรบใหม่ในสงครามการค้าโลกที่สร้างความปั่นป่วนให้ตลาดการเงินและเพิ่มความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยทรัมป์ ระบุว่า เราถูกเอาเปรียบมาหลายปีแล้ว และจะไม่ยอมให้ถูกเอาเปรียบอีกต่อไป
ท่าทีของทรัมป์ เป็นการตอบโต้แผนของสหภาพยุโรปที่จะเรียกเก็บภาษีวิสกี้อเมริกันและสินค้าอื่น ๆ ในเดือน เม.ย. ซึ่งก็เป็นการตอบโต้การที่ทรัมป์เรียกเก็บภาษี ร้อยละ25 กับการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (12 มี.ค.)

ข้อมูลสภาสุรากลั่นแห่งสหรัฐอเมริกา ชี้ว่า สหรัฐฯ ส่งออกสุราไปยังสหภาพยุโรปประมาณร้อยละ 40 ของทั้งหมดในปี 2566 เช่นเดียวกัน ยุโรปก็ส่งออกไวน์และสุรา มายังสหรัฐฯ ราวร้อยละ 31 ตามข้อมูลของยูโรสแตท
แต่การเสนอเก็บภาษีเหล้าเบอร์บอนสหรัฐฯ ร้อยละ 50 จะเป็นการสร้างความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมนี้ ซึ่งการส่งออกเติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่สหรัฐฯ ยกเลิกภาษีที่ทรัมป์เรียกเก็บในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรกระหว่างปี 2560-2564

มาตรการตอบโต้หลายอย่างที่สหภาพยุโรปเสนอ มีมูลค่ารวม 26,000 ล้านยูโร มีผลครอบคลุมสินค้าค่อนข้างกว้าง กระทั่งไหมขัดฟันและเสื้อคลุมอาบน้ำ
สัญญาณสงครามการค้าเวลานี้ สังเกตได้จากความเปลี่ยนแปลงตามซูเปอร์มาร์เก็ต ในกรุงโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก สินค้าที่ติดดาวสีดำหมายถึงสินค้าของบริษัทยุโรป เป็นการทำสัญลักษณ์ให้ผู้บริโภคได้รับรู้และเลือกซื้อ เลือกสนับสนุนถูก
ที่นี่เป็นร้านของบริษัทซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ที่สุดในเดนมาร์กด้วย และมีร้านสาขาหลายแห่ง รวมถึงเป็นเจ้าของห้างหลายห้าง ซึ่งการติดดาวได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า

อ่านข่าวอื่น :
ทรัมป์เก็บภาษีเหล็ก 25% ทั่วโลก ลุ้นรัสเซียรับข้อเสนอหยุดยิง 30 วัน
ราชกิจจาฯ ประกาศผลประโยชน์เงินบำเหน็จชราภาพ ผู้ประกันตน ม.33 ม.39 ม.40