วันนี้ (17 มี.ค.2568) รศ.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและฐานราก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า โดยทั่วไปการออกแบบฐานรากที่เป็นส่วนหลักในการรับน้ำหนักของโครงการขนาดใหญ่ จะมีวิศวกรเป็นผู้คำนวณ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพดินบริเวณนั้น ไม่ว่าพื้นที่ก่อสร้างจะเป็นดินแข็งหรือดินอ่อน ขึ้นอยู่กับการคำนวณที่ถูกต้อง
"กรณีบางพื้นที่หากนั่งร้านวางอยู่บนดิน หรือมีแผ่นเหล็ก หรือมีการเทคอนกรีตเพื่อปรับผิวหน้าดิน ถ้ามีฝนตกหรือมีปัจจัยที่ทำให้ดินนิ่มลง ก็อาจจะทรุดตัว หรือมันอาจจะรับน้ำหนักได้แต่ก็อาจจะทรุดตัว หรืออาจจะรับน้ำหนักไม่ได้ เพราะเวลาดินโดนน้ำจะนิ่มลง กรณีโครงสร้างรับน้ำหนักมหาศาล การทรุดนิดหน่อยก็อาจทำให้เสียสมดุลและล้มลงมาได้" รศ.สุทธิศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ ศ.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย อธิบายว่า การก่อสร้างโครงการนี้มีลักษณะซับซ้อน เพราะก่อสร้างคร่อมบนทางด่วนเฉลิมมหานคร หรือทางด่วนขั้นที่ 1 ทำให้ต้องสร้างเสาที่รับน้ำหนักจากโครงเหล็กถัก (Truss) และคานขวาง (Cross Beam) เบื้องต้นประเมินสาเหตุเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ตัวโครงสร้างที่อาจจะเป็นการใช้งานซ้ำ หรือเป็นที่ตัวบุคคล ซึ่งควรตรวจสอบวิศกร ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม หรือ ใบ กว. จากสภาวิศวกร
อ่านข่าว : นายกฯ ถกด่วน "พระราม 2 " คลังแก้ กม.เพิ่มโทษผู้รับเหมาแล้ว
นอกจากนี้ยังเสนอว่า การแบ่งสัญญาของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ทำให้มีช่องโหว่ โดยผู้รับสัมปทานไปว่าจ้างผู้รับเหมาเช่าช่วง หรือ ซับคอนแทรค ต่อกันเป็นทอดๆ ทำให้ไม่สามารถควบคุมมาตรฐานบริษัทซับคอนแทคได้ ดังนั้นควรมีการขึ้นทะเบียนไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็กหรือใหญ่ว่ามีมาตรฐานหรือไม่ และควรออกกฎหมายการก่อสร้างควบคุม สำหรับการก่อสร้างบางประเภทที่ซับซ้อน
อาจมีผู้รับเหมารายใหญ่ซึ่งเป็นผู้รับเหมาที่มีการขึ้นทะเบียนกับภาครัฐ เมื่อรับงานมา บางทีไม่ได้ทำเอง งานบางอย่างไปจ้างรายย่อย ทีนี้ผู้รับเหมาย่อยไม่ได้ขึ้นทะเบียน ก็เกิดการสูญเสียการควบคุม คุมได้ไม่สุดทาง
"คลัง" แนะ "คมนาคม" เอาผิดผู้รับเหมาได้ทันที
คำถามที่ตามมาคือ อุบัติเหตุซ้ำซากบนถนนพระราม 2 จะสามารถเอาผิดผู้รับเหมาได้หรือไม่ นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง ระบุว่า สามารถใช้กฎหมายจัดซื้อจัดจ้างที่มีอยู่เดิมได้เลย ไม่ต้องรอมาตรการสมุดพกมีผลบังคับใช้
อธิบดีกรมบัญชีกลาง ระบุอีกว่า กรมบัญชีกลางเสนอ รมว.คลัง ลงนามในร่างแก้ไขกฎหมาย รองรับมาตรการ "สมุดพกผู้รับเหมา" ตั้งแต่เดือน ก.พ. ซึ่งขณะนี้รอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. แต่ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยและกำกับดูแลผู้รับงานภาครัฐในอนาคต เนื่องจากการออกกฎหมายใหม่มีช่วงเวลาให้ผู้เกี่ยวข้องปรับตัว ก่อนบังคับใช้
เพราะฉะนั้น เหตุคานเหล็กทรุดตัวถนนพระราม 2 ล่าสุด กรมบัญชีกลางให้กระทรวงคมนาคมกลับไปตรวจสอบสัญญาและใช้กฎหมายที่มีอยู่ปัจจุบัน ซึ่งกำหนดบทลงโทษทั้งแพ่งและอาญา สามารถเอาผิดผู้รับเหมาได้โดยไม่ต้องรอกฎหมายใหม่ พร้อมถามกลับว่า ที่ผ่านมาได้ตรวจสอบผู้รับเหมาว่าปฏิบัติตามสัญญาอย่างถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ รวมทั้งการทำสัญญารับช่วงต่อหรือซับคอนแทรก เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่

อ่านข่าว : แนะสภาวิศกรตรวจ "ใบ กว." วิศวกรทุกคนปมพระราม 2 ถล่ม
ส่วนในวันที่ 18 มี.ค.นี้ นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะประชุมกับคณะทำงานและเชิญผู้เชี่ยวชาญมาเป็นที่ปรึกษาวิเคราะห์อุบัติเหตุ ไม่ใช่แค่ครั้งล่าสุด แต่จะตรวจสอบโครงการก่อสร้างถนนพระราม 2 ย้อนหลัง 3 ปี ก่อนทำรายงานวิเคราะห์ความเสี่ยงเสนอต่อรัฐบาล
สำหรับกฎหมายจัดซื้อจัดจ้าง มาตรา 109 หมวดการทิ้งงาน กำหนดลักษณะคู่สัญญาที่มีลักษณะทิ้งงาน เช่น กรณีคู่สัญญาของหน่วยงานรัฐ หรือผู้รับช่วงงานที่หน่วยงานรัฐอนุญาต ไม่ปฏิบัติตามสัญญา หรือผลการปฏิบัติตามสัญญาของที่ปรึกษา หรือผู้ให้บริการจ้างออกแบบบกพร่อง ผิดพลาด ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง สามารถตัดสิทธิห้ามผู้รับเหมา หรือที่ปรึกษา เข้าร่วมงานภาครัฐนานสูงสุด 2 ปี ไม่รวมค่าปรับ 10 เท่าของสัญญา หากพบว่าการรับช่วงต่อไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือไม่มีการติดตามตรวจสอบอย่างเหมาะสม
อ่านข่าว
เปิดไทม์ไลน์ คานเหล็กสะพานถนนพระราม 2 ถล่ม
ไม่ต้องกลัวถูกฟ้องกลับ! แพทองธาร สั่งเอาผิดอาญา-แพ่งผู้รับเหมา
ส.วิศวกรโครงสร้างฯ เสนอ 7 ข้อ แก้ต้นตอปัญหาโครงสร้างสาธารณะถล่ม