ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ตรวจสอบศูนย์เรียนรู้ฯภูเก็ต พบเด็กข้ามชาติกว่า 300 คน

ภูมิภาค
18 มี.ค. 68
06:57
304
Logo Thai PBS
ตรวจสอบศูนย์เรียนรู้ฯภูเก็ต พบเด็กข้ามชาติกว่า 300 คน
อ่านให้ฟัง
06:54อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
จากกรณีมีชุมชนแออัดของชาวเมียนมา ตั้งอยู่กลางเมืองภูเก็ต และมี รร.เฉพาะชาวเมียนมา ล่าสุด จ.ภูเก็ตเข้าไปตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กฯ ตั้งอยู่ในย่านชุมชนคนไทย แต่เด็กที่มาอยู่ในศูนย์ ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของแรงงานข้ามชาติ

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กคณะศรีชุมพาบาล ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต หรือ ซอยหัชนานิเวศน์ 2/9 อำเภอเมืองภูเก็ต รอบโดยรอบศูนย์ฯ เป็นชุมชนคนไทย มีทั้งหมู่บ้านจัดสรรและหอพัก

ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กคณะศรีชุมพาบาล

ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กคณะศรีชุมพาบาล

ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กคณะศรีชุมพาบาล

ลักษณะของศูนย์ฯ เป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นสำนักงานและลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 และชั้น 3 เป็นห้องเรียน รวม 12 ห้อง มีเด็กที่ดูแล 395 คน อายุระหว่าง 5-17 ปี เป็นเด็กจากแรงงานข้ามชาติที่เกิดในไทย และบางส่วนอพยพตามผู้ปกครองเข้ามา เด็กเหล่านี้มาจากครอบครัวแรงงานข้ามชาติ ที่อาศัยในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต ประมาณ 20 ชุมชน เช่น ชุมชนองค์การสะพานปลา , ชุมชนสะพานร่วม , และชุมชนท่าเรือใหม่

เด็กที่ศูนย์ฯดูแล 395 คน อายุระหว่าง 5-17 ปี  เด็กเหล่านี้มาจากครอบครัวแรงงานข้ามชาติ ที่อาศัยในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต ประมาณ 20 ชุมชน

เด็กที่ศูนย์ฯดูแล 395 คน อายุระหว่าง 5-17 ปี เด็กเหล่านี้มาจากครอบครัวแรงงานข้ามชาติ ที่อาศัยในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต ประมาณ 20 ชุมชน

เด็กที่ศูนย์ฯดูแล 395 คน อายุระหว่าง 5-17 ปี เด็กเหล่านี้มาจากครอบครัวแรงงานข้ามชาติ ที่อาศัยในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต ประมาณ 20 ชุมชน

ซิสเตอร์ ลักขณา สุขสุจิตร ผู้อำนวยการศูนย์คณะภคินีศรีชุมพาบาล และประธานมูลนิธิบ้านศรีชุมพาบาล ชี้แจงว่า เดิมศูนย์ฯ ตั้งอยู่ที่ชุมชนปลากะตะแต่พื้นที่คับแคบ ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ จึงย้ายมาตั้งที่นี่เป็นระยะเวลากว่า 11 ปี แล้ว โดยรับการสนับสนุนองค์กรการกุศลต่างประเทศ

ซิสเตอร์ ลักขณา สุขสุจิตร ผู้อำนวยการศูนย์คณะภคินีศรีชุมพาบาล และประธานมูลนิธิบ้านศรีชุมพาบาล

ซิสเตอร์ ลักขณา สุขสุจิตร ผู้อำนวยการศูนย์คณะภคินีศรีชุมพาบาล และประธานมูลนิธิบ้านศรีชุมพาบาล

ซิสเตอร์ ลักขณา สุขสุจิตร ผู้อำนวยการศูนย์คณะภคินีศรีชุมพาบาล และประธานมูลนิธิบ้านศรีชุมพาบาล

ระยะหลังงบประมาณไม่เพียงพอเพราะเด็กเพิ่มขึ้นจึงกำหนดค่าใช้จ่ายจากผู้ปกครอง เริ่มจาก 500 บาท และเพิ่มเป็น 1,000 บาท ซึ่งครอบครัวที่ไม่พร้อม สามารถยกเว้นได้ ส่วนกรณีที่เป็นข่าวเนื่องจากผู้ที่มาถ่ายทำเข้าไปดูที่อยู่ของเด็ก ซึ่งเป็นชุมชนในเขตเมือง เช่น ย่านองค์การสะพานปลา ซึ่งมีคนอาศัยหนาแน่น 

ขณะที่แม่ค้าที่ขายของอยู่ด้านหน้าศูนย์ฯ และอาศัยอยู่ในชุมชน ให้ข้อมูลว่า ไม่ได้ผลกระทบอะไร เพราะศูนย์ฯ ทำตามคำร้องขอ เช่น เมื่อจัดกิจกรรมที่ใช้เสียงดัง ศูนย์ฯ แก้ไขด้วยติดกระจก เพื่อลดปัญหาเสียงรบกวนหรือมีกิจกรรม เช่น วันคริสต์มาส จะเชิญชวนผ่านกลุ่มไลน์ ให้เด็กและคนในชุมชนเข้าร่วมเสมอ 

ด้านนายอดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต สั่งหยุดการเรียนการสอน แต่ยังทำกิจกรรมได้ หลังการตรวจสอบ พบศูนย์ฯ ไม่ได้ขออนุญาตเปิดการเรียนการสอน ทางจังหวัดจึงให้ยุติไปก่อน จนกว่าจะขออนุญาตให้ถูกต้อง แต่ระหว่างนี้เด็กและเยาวชน สามารถเข้ามาทำกิจกรรมได้

การตรวจสอบ ยังพบมีอาสาสมัครต่างชาติ 3 คน ไม่รับค่าจ้าง และมีชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตทำงาน 10 คน เบื้องต้นตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้ขอเอกสารผู้ปกครองเด็ก เพื่อตรวจสอบสถานะและสิทธิการทำงาน ปัจจุบันมีแรงงานข้ามชาติขออนุญาตทำงานใน จ.ภูเก็ต อย่างถูกต้อง ประมาณ 100,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างในสถานประกอบการ

กมธ.ความมั่นคงฯ เรียกร้อง ศธ.จัดระบบศูนย์เรียนรู้เด็กข้ามชาติ

นายมานพ คีรีภูวดล รองประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ระบุว่า ประเด็นการศึกษาของเด็กข้ามชาติ ประเทศไทยลงนามเรื่องสิทธิเด็ก ในข้อตกลงสิทธิเด็กของสหประชาชาติ ลูกแรงงานข้ามชาติที่อยู่ในไทย จะต้องเข้าถึงระบบการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่รัฐต้องดำเนินการ

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมี พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ปี 2542 ม.12 ที่ระบุว่า เอกชน ท้องถิ่น บุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน สถาบันศาสนา มีสิทธิจัดการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการต้องรีบดำเนินการ ให้ศูนย์เหล่านี้เข้ามาอยู่ในระบบ เพื่อควบคุม และดูแลมาตรฐานตามหลักสูตร

ในมุมของ รองประธานกรรมาธิการฯ เชื่อว่า ตามหลักกฎหมายนี้ และกฎหมายการตั้งมูลนิธิฯ ของมหาดไทย ศูนย์ฯ ที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทยแล้ว สามารถจัดการเรียนการสอนได้ ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตกับหน่วยงานอื่นอีก

"ยูนิเซฟ" เผยแนวโน้มเด็กข้ามชาติอพยพเพิ่มขึ้น

ผลการศึกษาของ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ร่วมกับภาคีเครือข่าย เกี่ยวกับการคุ้มครองเด็กอพยพโยกย้ายถิ่นฐาน ปี 2567 พบข้อมูลเกี่ยวกับเด็กที่อพยพจากเมียนมา โดยเดินทางมาเพียงลำพัง และแยกจากผู้ปกครองมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

ผลสำรวจพบเด็กกลุ่มนี้ อยู่ในสถานรองรับใน จ.ตาก, จ.เชียงใหม่, และ จ.เชียงราย ตั้งแต่ปี 2563 จากเดิมที่มีเด็กกลุ่มนี้ จำนวน 1,421 คน ปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2,600 คน จนเพิ่มมาเป็นกว่า 3, คนในปี 2566 และเพิ่มขึ้นเป็น 3,963 คนในปี 2567 ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย จะนำไปแก้ไขปัญหาและการคุ้มครองเด็กกลุ่มนี้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจัยที่เด็กกลุ่มนี้เดินทางเข้ามาเพียงลำพัง ส่วนใหญ่เพื่อโอกาสทางการศึกษา รองลงมา เพราะความยากจน และเพื่อความปลอดภัย จากสถานการณ์ในประเทศ

อ่านข่าว : รถบัสโดยสารตกไหล่เขา จ.ภูเก็ต นักท่องเที่ยวบาดเจ็บ 8 คน 

ศ.ปปท.ภูเก็ต แถลงผลกวาดล้างต่างชาติเข้าเมืองผิด กม.  

“ชาติพันธุ์-ไทยพลัดถิ่น” เกณฑ์ใหม่สมช.รับสัญชาติไทย 4.8 แสนคน  

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง