หลายฝ่ายกำลังจับตาความเคลื่อนไหวนโยบาย "ทรัมป์ 2.0" ที่จ่อขึ้นภาษี ในอีกหลายกลุ่มสินค้า ซึ่งคาดว่าจะประกาศได้เร็วสุด ในวันที่ 2 เม.ย.นี้ ซึ่งหากมีการบังคับใช้จะทำให้สงครามการค้าทวีความรุนแรงและอาจจะส่งผลกระทบมายังประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
- จับตา Voice of America กลางยุค "ทรัมป์" หั่นงบฯ - เลิกจ้าง พนง.
- จุดไฟสงครามการค้า! ไทม์ไลน์มาตรการขึ้นภาษี "ทรัมป์ 2.0"
มาตรการทางภาษีของนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ก่อนหน้านี้มีผลบังใช้กับการขนส่งสินค้าของ จีน เม็กซิโก และ แคนาดา เริ่มเห็นสัญญาณกระทบต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะสินค้าส่งออกบางชนิด อาทิ เหล็ก, ผลิตภัณฑ์เหล็ก, อะลูมิเนียม, รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
ปัจจัยดังกล่าวทำให้ไทยต้องเฝ้าระวัง การทะลักของสินค้าจีนที่จะเข้ามาตีตลาดสินค้าไทย เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากจีนจำเป็นต้องหาตลาดส่งออกใหม่ ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในเป้าหมายนี้
ทำให้นายยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ธนาคารไทยพาณิชย์ มองการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ จะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 2.4 และจะต้องติดตามสถานการณ์นโยบายการค้าโลก เพื่อรับมือความท้าทายทรัมป์ 2.0 โดยยอมรับว่า ไทยยังมีแผลเป็นทางเศรษฐกิจ ทั้งภาคธุรกิจ ตลาดแรงงาน ภาคครัวเรือนและภาคการคลัง ซึ่งหลังจากนี้ จะต้องสร้างความเข้มแข็งจากภายใน ทั้งในระยะสั้น และระยะยาวควบคู่กันไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้ทรัพยากรภาครัฐให้ตอบโจทย์การปรับตัวของประเทศ

ด้านธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินภาพรวมมาตรการภาษีของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ที่มีการขึ้นภาษีนำเข้ากับประเทศ จีน เม็กซิโก และ แคนาดา ซึ่งส่งผลกระทบกับไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทย จะลดลงประมาณ 56,000 ล้านบาท คิดเป็นผลต่อ GDP ที่อาจจะลดลงราวร้อยละ 0.3 แต่หากมีผลกระทบเพิ่มเติมมากกว่านี้ เศรษฐกิจไทยก็อาจจะย่อตัวได้มากกว่านี้เช่นกัน แต่การที่รัฐบาลมีการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ทำให้หอการค้าไทย คาดว่าภาพรวมปีนี้ GDP จะยังเติบโตที่ร้อยละ 3 ตามที่เคยประเมินไว้
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ยังย้ำข้อเสนอถึงรัฐบาล ให้จัดตั้งทีมพิเศษทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ-เอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลหากถูกมาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐ ภาครัฐต้องเตรียมข้อมูลเจรจาต่อรองกับสหรัฐ เพื่อลดการเกินดุลการค้า รัฐบาลต้องเตรียมมาตรการพยุงและกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ ควรใช้มาตรการทางการเงินเข้ามาช่วยเสริมมาตรการทางการคลัง รวมไปถึง ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ช่วยในเรื่องของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้เกิดการจ้างงาน
อ่านข่าว : หอการค้าไทยจี้รบ.ตั้งทีมพิเศษ รับมือทรัมป์2.0 หวั่นกระทบ ศก.ไทยทรุดรุนแรง
"ทรัมป์" ขู่คว่ำบาตรเพิ่มกดดัน "รัสเซีย" บรรลุสันติภาพ-หยุดยิงยูเครน
จุดไฟสงครามการค้า! ไทม์ไลน์มาตรการขึ้นภาษี "ทรัมป์ 2.0"