ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กมธ.มั่นคงฯ จี้ถามมาตรการเอาเงินคืนจากแก๊งคอลฯ ชี้อย่าคิดว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว

การเมือง
20 มี.ค. 68
12:04
139
Logo Thai PBS
กมธ.มั่นคงฯ จี้ถามมาตรการเอาเงินคืนจากแก๊งคอลฯ ชี้อย่าคิดว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว
อ่านให้ฟัง
04:46อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กมธ.มั่นคงฯ เชิญดีอีแจงคืบหน้า พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ทวงถามมาตรการเอาเงินคืนจากสกุลเงินดิจิทัล รัฐบาลบอกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกลวงน้อยลง เปรียบเหมือนเราปวดหัวน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราสบายดี

วันนี้ (20 มี.ค.2568) นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาเรื่องการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ บัญชีม้า ซิมม้า และการฟอกเงินผ่านคริปโตเคอร์เรนซี่ อันส่งผลกระทบกับความมั่นคงของประเทศ

นายรังสิมันต์กล่าวถึง การประชุมในวันนี้ ที่มีการเชิญ รมว.ดิจิทัลฯ มาสอบถามถึงการออก พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ว่า รัฐบาลได้ให้คำสัญญาว่า จะมีการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.ก.ซึ่งผ่านเวลามายาวนานแล้ว แต่สุดท้ายยังไม่เห็นการประกาศใช้ และเข้าใจว่ายังอยู่ในชั้นการพิจารณาของ ครม.หรือไม่

ส่วนในแง่ของมาตรการรายละเอียดจริง ๆ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าจะครอบคลุม เพียงพอที่จะรองรับปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ได้หรือไม่ เพราะแก๊งคอลเซนเตอร์ไม่ใช่ขบวนการเล็ก มีอาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ว่าจะอยู่ที่เมียวดี กัมพูชา นี่คือต้นน้ำ แต่ยังมีขั้นตอนถัดไปคือบัญชีม้า คริปโตเคอร์เรนซี่ ซิมม้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องแก้เหมือนกัน หากเราไม่แก้ แล้วจะไปหวังแค่ส่วนใดส่วนหนึ่ง ว่าแก้สำเร็จคงไม่ได้ วันนี้คงต้องพูดคุยกับหลายหน่วยงาน ว่าจะมีแนวทางความคืบหน้าอย่างไร อย่าง พ.ร.ก. เราก็ต้องการความชัดเจนว่าจะมีความพร้อมที่จะประกาศใช้ยังไง

ทั้งนี้อาจจะเห็นว่า ภาพรวมของแก๊งคอลเซนเตอร์ในเชิงปริมาณ การหลอกตามสายโทรศัพท์ อาจจะลดลง แต่วันนี้ก็ทราบข่าวว่า หลังจากที่มีการทลายที่เมียวดี ก็มีการย้ายไปอยู่ที่อื่นเช่นการย้ายลงทางใต้ของประเทศเมียนมา ซึ่งถ้าหากเราไม่มีมาตรการในการปราบ และเราก็ไม่มีความเข้มแข็งในด้านทางการเงิน การป้องกันไม่ให้พวกแก๊งคอลเซนเตอร์ ใช้บัญชีม้าหรือซิมม้าในการหลอกคน ก็จะเป็นปัญหาที่วนเวียนไม่จบ วันนี้จึงต้องพูดคุยถึงความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร

เวลาที่เขาหลอกเอาเงินของประชาชนไป ทันทีที่เขาสามารถโอนเงินเข้าไปอยู่ในระบบคริปโทเคอร์เรนซี พวกบิตคอยน์ อีเธอร์เรียม อะไรทั้งหลาย มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่หน่วยงานของรัฐ จะสามารถไปล้วงเอาเงินคืน ให้กับประชาชนผู้เสียหายต่อไป ซึ่งนี่จึงเป็นสิ่งที่เราต้องหาแนวทางกันต่อไป

ส่วนที่รัฐบาลมองว่า การแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประสบความสำเร็จ และเกิดการหลอกลวงน้อยลงนั้น นายรังสิมันต์กล่าวด้วยว่า การที่เราปวดหัวน้อยลง ไม่ได้หมายความว่า เราสบายดี คิดว่ายังมีความจำเป็นที่จะต้องจัดการพวกนี้อย่างถอนรากถอนโคน ไม่ควรคิดแค่ว่าจำนวนสายลดลงแล้ว เป็นเรื่องที่น่าพอใจแล้ว

จึงต้องคิดต่อไปว่า จะทำอย่างไรจึงจะมีมาตรการถาวร เพื่อปราบปรามพวกนี้ทางฝั่งกัมพูชา ตนยืนยันว่ายังมีอีกเยอะ และตนเป็นห่วงว่า ถ้ากระแสเริ่มเงียบ สุดท้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับมารุ่งเรือง เหมือนเดิมอีกหรือไม่ ซึ่งนี่เป็นความท้าทายที่รอเราอยู่ในตอนนี้

ทั้งนี้กรรมาธิการได้เชิญตัวแทน รมว.ดิจิทัลฯ -เลขาธิการ กสทช.-เลขาธิการ ป.ป.ง. -เลขาธิการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ-ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย-และผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เข้าให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการ

อ่านข่าว : "เท่าพิภพ" เผย ปลดล็อก "กม.เหล้า - เบียร์" ช่วยหนุนธุรกิจแอลกอฮอล์ - ท่องเที่ยวโต

ประธานสภาฯ ขอฝ่ายค้านซักฟอกตามกรอบข้อบังคับ ไม่หวั่นซักฟอกลากถึงตี 5

สภาฯ ผ่านร่าง กม.ควบคุมแอลกอฮอล์ ปลดล็อกโฆษณาเหล้า-เบียร์ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง