ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

คนไทยรู้หนังสือเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 98.83% ขยับขึ้นอันดับ 1 อาเซียน

สังคม
26 มี.ค. 68
17:36
1,006
Logo Thai PBS
คนไทยรู้หนังสือเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 98.83% ขยับขึ้นอันดับ 1 อาเซียน
สภาการศึกษา เปิดเผยผลสำรวจอัตราการรู้หนังสือของคนไทย ปี 2568 ที่เพิ่มขึ้น อยู่ที่ร้อยละ 98.83 จะส่งผลให้อันดับการรู้หนังสือของไทย ขยับขึ้นเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน อยู่ในอันดับที่ 37 โลก

วันนี้ (26 มี.ค.2568) รศ.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา เปิดเผยผลสำรวจการรู้หนังสือของคนไทย ปี 2568 โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 225,963 ครัวเรือน หรือกว่า 533,024 คน ครอบคลุม 7,429 ตำบลทั่วประเทศ พบว่า คนไทยอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป มีอัตราการรู้หนังสือเพิ่มขึ้น อยู่ที่ ร้อยละ 98.83 โดยเพิ่มมาจากปี 2561 เกือบร้อยละ 5 และเมื่อนำผลสำรวจนี้ มาจัดอันดับใหม่ ไทยจะขยับขึ้นเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน

ขณะเดียวกันผลการสำรวจใหม่ จะส่งผลให้การจัดอันดับการรู้หนังสือของคนไทยในระดับนานาชาติ หรือ IMD (International Institute for Management Development) ขยับขึ้นเช่นกัน จากเดิมอยู่ในอันดับที่ 59 อาจขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 37 ซึ่งสภาการศึกษาจะรีบส่งผลสำรวจใหม่ให้กับยูเนสโก เพื่อใช้พิจารณาในการจัดอันดับในครั้งต่อไป

สำหรับอัตราการไม่รู้หนังสือของประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป มีเพียงร้อยละ 1.17 และอายุ 7 ปีขึ้นไป มีเพียงร้อยละ 1.16 ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่หลุดออกจากระบบการศึกษา กลุ่มผู้สูงอายุที่มีภาวะการลืมหนังสือ และกลุ่มไม่มีงานทำ

ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา

ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา

ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา



หากแยกตามจังหวัด จะพบว่า มีอัตราการไม่รู้หนังสือน้อยกว่าร้อยละ 1 จำนวน 51 จังหวัด , อัตราไม่รู้หนังสือ ร้อยละ 1-5 มีจำนวน 25 จังหวัด และ จ.แม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดเดียวที่มีประชากรไม่รู้หนังสือสูงสุดถึงร้อยละ 10 เนื่องจากการเข้าถึงการศึกษามีความยากลำบาก และความเป็นชาติพันธุ์ จึงอาจทำให้มีปัญหาในการอ่านออก เขียนได้

"คนไทยอ่านได้ แต่เราต้องไปเพิ่มเรื่องคุณภาพการอ่าน เช่น การอ่านคิดวิเคราะห์ การอ่านเพื่อการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในวัยเรื่อง เพราะมีปัจจัยเห็นข้อความยาวไป ก็จะไม่อยากอ่าน"

กรมส่งเสริมการเรียนรู้ เตรียมร่วมกับท้องถิ่น ฟื้นคืนห้องสมุดประชาชนกลับมา เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการรู้หนังสือและการอ่านที่มากขึ้น และจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการรวมกลุ่มกันของชมรมผู้สูงอายุ มีการพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ

และหลังจากนี้ เลขาธิการสภาการศึกษา เปิดเผยว่า จะนำเสนอต่อกรรมการสภาการศึกษา ในวันที่ 5 เม.ย.นี้ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการต่อไป เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายทางการศึกษา

อ่านข่าว :

คปภ.ขอโซเชียลอย่าแชร์ข้อมูลผิด 10 คำถามคาใจ "Copayment"

มีผลแล้ว ราชกิจจาฯ ประกาศกฎหมายแก้ไขใหม่ "ทำโทษบุตร"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง