วันนี้ (26 มี.ค.2568) นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ประกาศแจ้งผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่อยากเปลี่ยนโรงพยาบาลประจำปี 2568 ให้รีบดำเนินการภายในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่สามารถเปลี่ยนได้ปีละครั้ง (1 ม.ค. - 31 มี.ค.) หรือกรณีย้ายที่อยู่-ที่ทำงาน เปลี่ยนได้ง่าย ๆ ผ่านระบบออนไลน์ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง โดยมี 4 ช่องทาง ดังนี้
1. ยื่นผ่านเว็บไซต์ www.sso.go.th
- เข้าสู่ระบบ/สมัครสมาชิก กด "เปลี่ยนสถานพยาบาล" เลือกเหตุผลการเปลี่ยนเลือกสถานพยาบาลใหม่ที่ต้องการ อ่านหลักเกณฑ์ กดยอมรับข้อตกลง พร้อมกดบันทึก (สิทธิเริ่มวันที่ 1 และ 16 ของเดือน)
2. ยื่นผ่าน Application SSO Plus
- ลงทะเบียนด้วยเลขประจำตัวประชาชน รอการยืนยันตัวตนผ่านระบบ OTP เลือกเมนู "เปลี่ยนสถานพยาบาล" เลือกสถานพยาบาลที่ต้องการ อ่านหลักเกณฑ์ กดยืนยันและรอตรวจสอบ 2-3 ทำการ (สิทธิเริ่มวันที่ 1 และ 16 ของเดือน)
3. ทำรายการผ่าน LINE OA สำนักงานประกันสังคม
- เพิ่มเพื่อน @ssothai (สำนักงานประกันสังคม) เลือก "ข้อมูลของผู้ประกันตน" เลือกเมนู "เปลี่ยนสถานพยาบาล" เลือกเหตุผลการเปลี่ยน เลือกสถานพยาบาลใหม่ที่ต้องการ อ่านหลักเกณฑ์ กดยอมรับข้อตกลง พร้อมกดยืนยัน (สิทธิเริ่มวันที่ 1 และ 16 ของเดือน)
4. ยื่นแบบด้วยตัวเอง
ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ จังหวัด และสาขาทุกแห่งทั่วประเทศ (หากผู้ประกันตนยื่นเรื่องเปลี่ยนสถานพยาบาลผ่านทางออนไลน์แล้ว ไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคมอีก)

ที่มา : สำนักงานประกันสังคม
ที่มา : สำนักงานประกันสังคม
ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาล ได้ที่ เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือ สายด่วน 1506
ในปี 2568 มีสถานพยาบาลให้บริการทางการแพทย์ จำนวน 271 แห่ง แยกเป็นสถานพยาบาลภาครัฐ จำนวน 174 แห่ง และสถานพยาบาลเอกชน จำนวน 97 แห่ง โดยการเปลี่ยนสถานพยาบาลในแต่ละครั้งนั้น
ขอแนะนำให้ผู้ประกันตนควรเลือกด้วยตนเอง และให้คำนึงถึงความสะดวก ความพึงพอใจ และประโยชน์ในการขอรับบริการทางการแพทย์ และสถานพยาบาลที่เลือก จะต้องเป็นสถานพยาบาลในจังหวัดที่ผู้ประกันตนทำงานอยู่ หรือพักอาศัย หรือเขตรอยต่อของจังหวัดดังกล่าว และมีจำนวนผู้ประกันตนเลือกใช้สิทธิไม่เกินจำนวนที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
นางมารศรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่ไม่ประสงค์เปลี่ยนสถานพยาบาล สามารถใช้สิทธิรับบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลตามสิทธิเดิมได้ และหากผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพจากความเป็นผู้ประกันตนแล้ว สามารถใช้สิทธิต่อได้อีก 6 เดือน นับแต่วันที่สิ้นสภาพ
สามารถตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาล ได้ที่ www.sso.go.th / Application SSO Plus / Line @ssothai / สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ จังหวัด และสาขาทุกแห่งทั่วประเทศ / สถานพยาบาล ในโครงการประกันสังคมทั่วประเทศ / เครื่อง Smart Kiosk ของกระทรวงมหาดไทย หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวอื่น :
เงินเยนอ่อน ต่างชาติเดินทางพุ่ง ญี่ปุ่นเจอวิกฤตนักท่องเที่ยวล้นเมือง