วันนี้ (29 มี.ค.2568) กว่า 29 ชั่วโมง ที่เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าพื้นที่ เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตและผู้เสียชีวิตที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคารย่านจตุจักร ซึ่งพังถล่มลงมาขณะก่อสร้าง หลังได้รับแรงสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหวเมียนมาเมื่อวานนี้ (28 มี.ค.)
เมื่อช่วงเวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ ระบุว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ตรวจพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน และอยู่ระหว่างนำออกจากจุดเกิดเหตุ ขณะนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 8 คน ส่วนผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 9 คน และมีผู้สูญหายอีก 46 คน โดยเจ้าหน้าที่นำรถแบคโฮเข้ามารื้อซากอาคารและทยอยตักเศษชิ้นส่วนปูนซีเมนต์ ซึ่งต้องทำด้วยความระมัดระวังและเริ่มในจุดที่ผ่านการตรวจหาสัญญาณชีพแล้ว เพื่อไม่ให้กระทบผู้ติดค้าง
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องพ่นไอน้ำ เป่าพ่นเข้าไปในบริเวณที่ตรวจพบสัญญาณชีพ เพิ่มความชื้นในอากาศ บรรเทาความร้อนให้กับผู้ติดค้างอย่างต่อเนื่อง จนกว่าการช่วยเหลือจะสำเร็จ
นายปิยะลักษณ์ ปิ่นแก้ว หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า การช่วยเหลือและค้นหาผู้รอดชีวิตจะยังดำเนินต่ออย่างต่อเนื่อง พร้อมยอมรับว่าอุปสรรคขณะนี้ คือ ปัญหาของโครงสร้างที่ถล่มลงมาทับถมกันเป็นชั้น ๆ ซึ่งมีน้ำหนักมาก จึงเป็นสาเหตุที่ปรับแผนใช้แบคโฮเข้าขุดตักเศษซากอาคาร เพื่อเปิดช่องให้ทีมค้นหาช่วยเหลือผู้ติดค้างให้ได้โดยเร็วที่สุด ขณะนี้ตรวจพบสัญญาณชีพของผู้ที่ติดค้างอยู่ในซากอาคารจำนวน 15 คน
ด้านนายธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร เปิดเผยว่า ยังไม่สามารถตรวจสอบสาเหตุโครงสร้างของอาคารที่ถล่มลงมาได้ แต่สิ่งที่น่ากังวลคือการรื้อถอนโครงสร้างเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตเป็นไปได้ยาก จึงต้องมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบแรงเคลื่อนตัวของโครงสร้าง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ปฏิบัติงาน และผู้ที่ติดค้างภายใน
การรื้อถอนขณะนี้ยังจำเป็นต้องใช้เครื่องจักรเบา หรือเครื่องจักรขนาดเล็กในการเข้าไปรื้อย้ายในจุดที่ยังพบสัญญาณชีพ ส่วนในเรื่องของเครื่องจักรหนักนั้นสามารถรื้อถอนในส่วนที่ไม่มีผลกระทบ
ส่วนสาเหตุของการถล่มของอาคาร สตง. แห่งใหม่ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายใน 7 วัน เพื่อดูว่าวิธีการก่อสร้างเป็นอย่างไร เพราะอะไรถึงเป็นอาคารแห่งเดียวที่เกิดถล่ม ซึ่งจำเป็นจะต้องสืบหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
อ่านข่าว : แผ่นดินไหวเมียนมา 7.4 สะเทือน กทม.-หลายจังหวัดทั่วประเทศ