ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ผู้นำฝ่ายค้าน" ฉะรัฐบาลรับมือทรัมป์ขึ้นภาษีล่าช้า แนะควรรู้อำนาจต่อรองของไทยก่อน

การเมือง
6 เม.ย. 68
19:41
113
Logo Thai PBS
"ผู้นำฝ่ายค้าน" ฉะรัฐบาลรับมือทรัมป์ขึ้นภาษีล่าช้า แนะควรรู้อำนาจต่อรองของไทยก่อน
ผู้นำฝ่ายค้านฯ ฉะรัฐบาลรับมือทรัมป์โขกภาษีช้า แนะทีมเจรจาต้องรู้ของในมือสร้างอำนาจต่อรองสหรัฐฯ ให้ไทยได้คุ้มเสีย เตือนประเด็นการจะส่ง “ทักษิณ” เป็นม้าเร็วไปเจรจาแทนนายกฯ จะยิ่งกระทบมากขึ้น

วันนี้ (6 เม.ย.2568) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี ถึงท่าทีของประเทศไทยกับนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ว่า เป็นการดำเนินการของรัฐบาลที่ล่าช้า เพราะเพิ่งจะมีการออกมาชี้แจงให้ชัดเจนมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ชัดเจนเพียงพอ หลังจากที่มีการประกาศมาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกา

ทั้งที่ก่อนหน้านี้นักวิชาการหลายคน ได้ออกมาคาดการณ์แล้วว่า ประเทศไทยเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงที่จะถูกมาตรการทางภาษี และเห็นการขยับท่าทีของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่แสดงบทบาทประธานอาเซียน 2568 เพื่อใช้กรอบการเจรจาในภูมิภาคอาเซียนในการเพิ่มอำนาจต่อรองให้กับกลุ่มอาเซียน แต่ไทยก็ยังไม่เห็นบทบาท ทั้งที่เป็นประเทศสำคัญในอาเซียน

ส่วนทีมเจรจาที่จะเป็นผู้เดินทางไปเจรจากับสหรัฐอเมริกา ทั้งที่ปรากฏชื่อ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง หรือรวมไปถึงกรณีที่ปรากฏชื่อ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่จะเป็นทีมไปเจรจากับสหรัฐอเมริกานั้น

ผู้นำฝ่ายค้านฯ มองว่า แม้ว่าตัวบุคคลที่จะไปเจรจาจะมีความสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือการสร้างอำนาจต่อรองให้ประเทศไทย ก่อนที่จะมีการเจรจา ควรจะต้องรู้ตัวเองก่อนว่า มีอำนาจต่อรองใดบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีอาจจะยังไม่ได้ออกมาชี้แจงความชัดเจนให้กับสังคมว่า ประเทศไทยมีอำนาจจต่อรองใดบ้าง หรือมีเพียงความเป็นมิตรภาพระหว่างไทย และสหรัฐฯ แต่ตนก็เห็นว่า สหรัฐฯ รับรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศมาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่ก็ยังเลือกดำเนินนโยบายนี้ ฉะนั้นก่อนที่จะมีการเจรจาจึงควรรู้อำนาจต่อรองของตนเองก่อน

ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีผู้เสนอให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นม้าเร็วในการเจรจากับสหรัฐอเมริกา โดยเห็นว่า ควรจะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือคณะทำงานที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีโดยตรง เพราะตนอยากให้มีนายกรัฐมนตรีตัวจริง ที่ทำหน้าที่ไปเจรจา และไม่อยากให้นายทักษิณ ซึ่งเป็นบิดาของนายกรัฐมนตรี ไปเจรจาแทน และหากนายทักษิณ เป็นม้าเร็วเจรจาเองจริง ก็จะยิ่งเกิดผลกระทบต่อนายกรัฐมนตรี ที่จะขาดความน่าเชื่อถือมากขึ้น

ส่วนตามแถลงการณ์ ที่มีการระบุแนวทางการเจรจา เพื่อขอผ่อนปรนอัตราภาษีจากสหรัฐอเมริกา ทั้งขอเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ และลดเงื่อนไขการนำเข้าต่าง ๆ จะกลายเป็นทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบเพิ่มมากหรือไม่นั้น

ผู้นำฝ่ายค้านฯ ระบุว่า ตามที่สหรัฐฯ ออกมาตรการออกมา เพื่อไม่ให้สหรัฐอเมริกาเสียเปรียบหากมองในมุมดุลการค้า และตนก็มองว่า มีความเป็นไปได้ในการไปเจรจาการค้า เพื่อให้เกิดดุลการค้า โดยที่ประเทศไทยไม่เสียประโยชน์

ดังนั้น ประเทศไทยจึงต้องมีของในมือ หรืออำนาจต่อรองที่สหรัฐอเมริกาอยากได้ และประเทศไทยจะได้ประโยชน์ที่คุ้มเสีย ซึ่งเชื่อว่าประชาชนและภาคเอกชนของไทยก็อยากได้ความชัดเจนจากรัฐบาลเช่นเดียวกันว่า ธุรกิจ หรืออุตสาหกรรมใด จะได้รับผลกระทบบ้าง

อ่านข่าว : เปิดผนึก 6 เหตุผลนักเศรษฐศาสตร์ชี้ กาสิโนไม่คุ้มค่า-เสี่ยงฟอกเงิน

“3 อยู่” เพื่อรับมือสงครามการค้า

ชาวอเมริกันลุกฮือ! ประท้วง "ทรัมป์-มัสก์" กำแพงภาษีระลอกใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง