ยังเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ กรณีคลิป "ทราย สก๊อต" หรือ สิรณัฐ สก๊อต เจ้าของฉายามนุษย์เงือก ตักเตือนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แสดงพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติบนเรือท่องเที่ยวบริเวณทะเลภาคใต้ จากนั้นเขาได้ตัดสินใจนำเรือกลับฝั่ง เพื่ออธิบายถึงความไม่เหมาะสมของพฤติกรรม นำมาสู่การประกาศลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

วันนี้ (21 เม.ย.2568) "ทราย สก๊อต" หรือสิรณัฐ สก๊อต เจ้าของฉายามนุษย์เงือก เปิดเผยในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ว่า ช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ ตนเองเคยเป็นอาสาสมัครช่วยงานอุทยานฯ ทั้งดำน้ำเก็บขยะที่อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี รวมทั้งช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวจมน้ำ
ต่อมาเป็นที่รู้จักการการว่ายน้ำข้ามเกาะ จากหาดอ่าวนาง ไปที่เกาะปอดะ จ.กระบี่ ซึ่งขณะนั้นนายอรรถพล เจริญชันษา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้ทำความรู้จักและทำงานด้วยกัน ซึ่งตนเองได้ถ่ายคลิปวิดีโอบอกเล่าเรื่องราวการทำหน้าที่ที่ยากลำบากของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ กระทั่งได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาอธิบดีฯ
การว่ายน้ำในทะเลเป็นเซฟโซน ได้เยียวยาจิตใจ เหมือนถูกโอบกอด แต่ไม่สบายใจที่เห็นคน ๆ อื่น ทำร้ายทะเล
นายทราย กล่าวว่า การทำงานในตำแหน่งดังกล่าวมีเอกสารระบุหน้าที่ชัดเจน และมีกลุ่มไลน์หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทางทะเล ส่วนกรณีข้อร้องเรียนต่าง ๆ นั้น ยืนยันว่าตนเองให้เกียรติคนทำงานทุกคน มองว่าการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติเป็นหน้าที่หลักของกรมอุทยานฯ แต่อาจไม่ได้ทำอย่างเพียงพอ จึงลงไปดูในส่วนนี้ โดยมีช่างภาพ 1 คน นักวิชาการ 1 คน และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ 3-4 คน เข้าไปถ่ายทำคลิปกระตุ้นการอนุรักษ์ความสวยงามของท้องทะเล

ส่วนประเด็นลาออกจากตำแหน่งนั้น อาจเพราะตนเองเห็นข้อมูลต่าง ๆ มากเกินไป และรู้สึกไม่อยากเป็นไม้กันหมา หลายสิ่งได้แจ้งไป แต่ไม่ได้รับการแก้ไข เช่น ขอวางทุนกันเรือ แต่ได้รับตอบกลับว่าไม่มีงบประมาณ หรือกรณีโป๊ะ และห้องน้ำที่เกาะพีพีชำรุด
นายทราย ยังระบุว่า เคยแจ้งเรื่องหลายกิจการโยนสมอเรือในแนวปะการัง แต่หัวหน้าอุทยานฯ และอธิบดีฯ ไม่ได้ตอบรับ และไม่ได้อ่านไลน์ ซึ่งยอมรับว่าส่วนใหญ่จะมีปัญหาในเรื่องการตักเตือนชาวบ้าน และผู้ประกอบการในเรื่องนี้ โดยตั้งคำถามว่าเหตุใดเรือจึงเข้าไปยังเขตฟื้นฟู ทั้งที่มีประกาศพื้นที่ชัดเจน ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการประนีประนอมในเรื่องนี้ เพราะเห็นว่าเป็นผลประโยชน์ทางธุรกิจ
ผมอยู่ในงานอนุรักษ์มา 4 ปี การเจอกันตรงกลางอาจใช้ในเรื่องขาว-ดำไม่ได้ ทั้งการโยนสมอเรือไม่ได้ เข้าไปในที่ฟื้นฟูไม่ได้
นายทราย ยืนยันว่า ไม่ได้เหยียดชาวบ้าน แต่ต้องเตือนผู้ประกอบการเพราะการโยนสมอเรือ ทำให้ปะการังเสียหายอย่างหนัก
นอกจากนี้ ขอบคุณอธิบดีที่ให้โอกาสตนเองทำงานตั้งแต่แรก สิ่งที่เกิดตอนนี้ไม่ดีต่อภาพอนุรักษ์ จึงอยากให้งานของเจ้าหน้าที่กับกรมอุทยานฯ มีความชัดเจนและโปร่งใสมากขึ้น เพราะปัญหาภาวะโลกร้อนกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ ตอนนี้ไม่มีเวลามาทะเลาะกัน แต่ต้องทำงานร่วมกันเพื่อปกป้องทรัพยากรที่จะเสียหาย

อ่านข่าว : ชงปลด “ทราย สก๊อต” พ้นที่ปรึกษาอธิบดีอุทยานฯ
"ผู้ประกอบการ" ฟ้อง 2 ข้อหา "ทราย สก๊อต" ปมโพสต์คลิปทำเสียหาย
เบื้องหลังดรามา" ทราย สก๊อต" ที่ปรึกษาบิ๊กอุทยานฯ ทำเกินหน้าที่
อนุรักษ์ยังไงไม่ให้สุดโต่ง “โลกนี้ไม่ได้มีแต่เรา” แต่มีอีกหลายคนที่สำคัญอยู่รอบตัว