วันนี้ (22 เม.ย.2568) พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ควบคุมตัวนายประจวบ ศิริเขตร นายมานัส ศรีอนันท์ และนายโสภณ มีชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 หรือคดีนอมินี ไปขอฝากขังศาลอาญาทันที หลังสอบปากคำแล้วเสร็จ ซึ่งทั้ง 3 คนปฎิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า นายโสภณ ยอมรับว่ารู้จักกับผู้ถือหุ้นชาวจีน และได้ให้ข้อมูลตามข้อซักถามบางส่วน และจะให้การเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษร ส่วนนายประจวบ และนายมานัส ไม่ยินยอมให้การ แต่จะให้การเป็นลายลักษณ์อักษรแทน ภายใน 30 วัน ซึ่งทั้ง 3 คนยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ส่วนคำให้การที่พนักงานสอบสวนได้วางประเด็นเพื่อให้ผู้ต้องหาชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร จะเน้นไปที่ประเด็นเรื่องการถือหุ้น, กระบวนการเปลี่ยนแปลงกรรมการและผู้ถือหุ้น, แหล่งที่มาของเงินทุน และอำนาจการบริหารภายในบริษัท ซึ่งทุกคำให้การจะถูกนำไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง
พ.ต.ต.วรณัน เปิดเผยอีกว่า ผู้ต้องหามีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทอีกแห่งหนึ่งเมื่อปี 2561 ก่อนถูกเปลี่ยนแปลงให้เข้ามาเป็นชื่อผู้ถือหุ้นในบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 จนถึงปัจจุบัน โดยนายประจวบ และนายมานัส ได้ชักชวนนายโสภณเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการของบริษัท ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินและกำไรที่ได้รับจากบริษัท ว่าสอดคล้องกันหรือไม่
แต่ข้อมูลที่ดีเอสไอมีอยู่บางส่วน และคำให้การเบื้องต้นของผู้ต้องหา ยังไม่สอดคล้องกับหลักฐาน เพราะบางคนมีอาชีพค้าขายและรับจ้าง เฉลี่ยรายได้ต่อเดือนหลักหมื่นบาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับฐานะผู้ถือหุ้นบริษัทที่ประมูลโครงการหลายพันล้านบาท
อ่านข่าว : จนท.นำร่างผู้สูญหายออกมาเพิ่มอีก 1 คน จากโซน C ส่งชันสูตร
รมว.ยุติธรรม เผยพบผนังลิฟต์อาคาร สตง. อาจมีความผิดปกติ
3 กรรมการถือหุ้นไชน่า เรลเวย์ฯ ปัดเป็นนอมินี - ศาลให้ประกันตัว "ชวนหลิง จาง"
แท็กที่เกี่ยวข้อง: