20 ปี ไมล์ส เดวิส ผู้สร้างแนวดนตรีใหม่ให้ดนตรีแจ๊ส
ลีลาด้นสดของไมล์ส เดวิส ด้วยเสียงทรัมเป็ตในเพลง Call It Anything ต่อหน้าผู้ชมนับแสนในเทศกาลดนตรี Isle Of Weight เมื่อปี 1970 กลายเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ เมื่อดนตรีแจ๊สที่เคยแสดงอยู่ตามคลับ บาร์ ได้รับความนิยมจนสามารถร่วมอยู่ในเทศกาลเพลงร็อกระดับโลก คือผลงานของ ไมล์ส เดวิส ผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแจ๊สให้ลื่นไหลไปกับบริบททางวัฒนธรรมตลอดเส้นทางดนตรีของเขา
ไมล์ส เดวิส เข้าวงการในช่วงที่แจ๊สพัฒนาจากดนตรีเต้นรำมาเป็นเครื่องมือถ่ายทอดความสามารถนักดนตรีในสไตล์ bebop ช่วงยุค 40 เขาสานต่ออุดมการณ์เหล่านั้นด้วยการสร้างแนวเพลงที่เข้ากับเสียงทรัมเป็ตที่นุ่มนวล ด้วยการนำบีบ็อบมาเรียบเรียงให้ผ่อนคลายขึ้น กลายเป็นที่มาของดนตรี cool jazz และเปลี่ยนแปลงอีกครั้งกับการนำดนตรีอันเป็นรากเหง้าของชาวแอฟริกันอเมริกันอย่าง บลูส์ และอาร์แอนด์บี มาผสานกับลีลาแจ๊ส จนกลายเป็นสไตล์ hard bop ที่โด่งดังในยุค 50
การพัฒนามาสู่ขั้นสูงสุดในอัลบั้มประวัติศาสตร์ Kind of Blue ในปี 1959 จากการนำนักดนตรีแจ๊สรุ่นใหม่ ซึ่งมีสไตล์แตกต่างกัน มาบันทึกผลงานด้วยการอิมโพรไวส์โดยไม่คำนึงถึงข้อจำกัดของทางเดินคอร์ด แต่บรรเลงโดยอาศัยโหมดของดนตรีเป็นหลัก จนกลายเป็นการปฏิวัติวงการไปสู่แนวเพลง Modal jazz ที่เสน่ห์แห่งความซับซ้อนสร้างอิทธิพลต่อนักดนตรียุคต่อมานับไม่ถ้วน
ไมล์ส เดวิส ยังคงสร้างสรรค์ดนตรีบนความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ในปลายยุค 60 ในการผสานเสน่ห์ของดนตรีสมัยนิยมทั้งร็อก และพังค์มาอยู่ในแจ๊ส นำไปสู่กระแสดนตรี Jazz fusion ทั้งในผลงานคลาสสิกของเขา และการสานต่อโดยศิลปินมากมายุคต่อมา
ตลอดปีที่ผ่านมา เฮอร์บี แฮนค็อก, เวย์น ชอตเตอร์ และมาร์คัส มิลเลอร์ อดีตนักดนตรีที่เคยร่วมงานกับไมล์ส เดวิส ได้นำเพลงดังของครูใหญ่แห่งแจ๊สผู้นี้มาบรรเลงตามเทศกาลมากมาย โดยเลือกที่จะดัดแปลงเพลงที่คุ้นเคยให้แปลกหู เพื่อเป็นการคารวะต่อจิตวิญญาณศิลปินของไมล์ส ผู้ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาดนตรีไปสู่หนทางใหม่ๆ เสมอ