“ชูวิทย์” ชี้ศาลยึดทรัพย์ไม่กระทบการทำหน้าที่ ส.ส.
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย เปิดเผยว่า ยอมรับคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ตัดสินยึดทรัพย์ของตน และและบริษัทโฮแปซิฟิค จำกัด เพราะทุกคนรู้ว่าที่ผ่านมาตนทำอะไร ตนทำก็ยอมรับผิดแต่มูลค่าในการยึดทรัพย์แค่ 340,000 บาท ไม่ใช่ 3.4 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าว พร้อมระบุ คำพิพากษาของศาลไม่ส่งผลกระทบการทำหน้าที่ ส.ส.ของตน เพราะการยึดทรัพย์เป็นคดีแพ่ง แต่อยากเรียกร้องให้ดำเนินการกับสถานบริการที่กำลังเปิดในลักษณะนี้ด้วย ควรทำมาตรฐานเดียวกันกับคดีของตน และคดีใดที่ศาลชั้นต้นฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์ยกแล้ว ควรมีการฎีกาแบบคดีของตน
ด้านนายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย เนื่องจากมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดำเนินการจัดหาและค้าประเวณี กรณีดังกล่าวเป็นคดีแพ่ง เบื้องต้นสมาชิกจะยังไม่พ้นสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. เนื่องจากการพ้นสมาชิกภาพการเป็นสส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 102 (7) ระบุว่า เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องมีผู้ร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสมาชิกภาพ หรือตัวสมาชิกเองหากต้องการให้ศาลวินิจฉัยสามารถเสนอได้