ผู้บริหาร
ผลกระทบจากการที่สนามบินดอนเมืองปรับมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยกำหนดให้ผู้โดยสารต้องนำกระเป๋าและสัมภาระทุกชิ้นต้องผ่านการเอ็กซเรย์ ก่อนเข้าไปในพื้นที่เช็คอินตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 2558 เวลา 12.00 น. ทำให้สนามบินดอนเมืองมีผู้โดยสารหนาแน่นกว่าปกติ เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบใช้เวลานานขึ้น
วันนี้ (20 ก.ค. 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายจตุรงคพล สดมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และกรมการบินพลเรือน (บพ.) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมเพื่อหารือถึงผลกระทบและแนวทางดำเนินต่อจากนี้
ด้านเจ้าหน้าที่จากสนามบินดอนเมืองเผยว่า การปรับเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยด้วยการเอ็กซเรย์กระเป๋าก่อนเข้าพื้นที่เช็คอินข้างใน เป็นมาตรการที่มีมานานและออกโดยกรมการบินพลเรือน แต่ช่วงหลังมีการผ่อนปรน เพราะคิดว่าการเอ็กซเรย์กระเป๋าถือในพื้นที่เช็คอินข้างใน สร้างความสะดวกให้กับผู้โดยสาร และน่าจะเพียงพอต่อการรักษาความปลอดภัย
"กรมการบินพลเรือนนำมาตรการดังกล่าวมาใช้อีกครั้งหลังจากที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เข้าตรวจสอบกิจการการบินของไทย ซึ่งยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับกรณีของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พกอาวุธปืนขึ้นเครื่องแต่อย่างใด และรายละเอียดในเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยนับต่อจากนี้ คงต้องรอผลการประชุมเสร็จสิ้น" เจ้าหน้าที่ของสนามบินดอนเมืองระบุ
ก่อนหน้านี้ ICAO ได้ประกาศว่าประเทศไทยมีความบกพร่องด้านมาตรฐานการบิน ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงเพื่อให้ผ่านมาตรฐานของ ICAO ขณะที่กรณีของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ที่พบว่าพกอาวุธปืนออกนอกประเทศโดยไม่ผ่านการตรวจจากเจ้าหน้าที่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จนกระทั่งถูกจับที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2558 ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงช่องโหว่ในการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานไทยอีกครั้ัง