ชาวนาอยุธยาวอนรัฐบาลทบทวนส่งน้ำรักษาข้าวใกล้เก็บเกี่ยว บางส่วนเริ่มมีปัญหาข้าวลีบจำใจเกี่ยวทิ้ง
วันนี้ (21 ก.ค.2558) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ได้ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ปลูกข้าวนาปีที่มีอายุ 3 เดือน ใน ต.มารวิชัย อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 4,000 ไร่ พบว่านาข้าวที่ตั้งท้องออกรวงสีเหลืองเริ่มมีสภาพฝ่อหลายไร่ ชาวนาในพื้นที่เปิดเผยว่าหากมีน้ำมาใช้หล่อเลี้ยงต้นข้าวอีก 10 วัน ข้าวชุดนี้ก็จะรอด ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ดังนั้น ชาวนาจึงเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาทบทวนให้ส่งน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังจะได้เก็บเกี่ยวอีกครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกันเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้ข้าวมีความชุ่มชื้นมีเมล็ดข้าวเต็มรวง ขณะเดียวกันพื้นที่นาของเกษตรบางรายที่พร้อมจะเก็บเกี่ยวในอีก 10 วัน ข้างหน้า ซึ่งขาดน้ำมานานหลายสัปดาห์หลังจากที่มติคณะรัฐมนตรีให้หยุดสูบน้ำ ต้องประสบปัญหาข้าวลีบทั้งหมด ต้องยอมตัดใจเกี่ยวข้อาวทิ้งเกือบ 25 ไร่ สูญเงินเกือบ 2 แสนบาท เพราะข้าวขาดน้ำมานานหลายวันทำให้เขา หมดหวังที่จะเกี่ยวข้าวได้
ขณะเดียวกันในพื้นที่ ต.มารวิชัย ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาชาวนาได้ระดมเครื่องสูบน้ำสูบน้ำจากแม่น้ำน้อยในช่วงน้ำขึ้น-น้ำลง เข้าคลองสาย 4 และทอยเข้าสู่นาข้าวที่กำลังจะยืนต้นตาย ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่ชาวนาเห็นว่าน้ำยังพอมี จึงได้ได้สูบน้ำเข้านา แต่ก็ไม่มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจะมาห้ามให้หยุดสูบเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือไม่ และยังขอให้รัฐบาลเห็นใจชาวนา เพราะหากไม่ได้น้ำนอกจากข้าวจะตายแล้ว รัฐบาลยังต้องจ่ายเงินค่าเยียวยาจำนวนมาก ส่วนปริมาณน้ำต้นทุนในคลองชลประทานที่รับน้ำมาจากแม่น้ำน้อยและน้ำสายสำคัญที่เป็นความหวังของชาวนาตอนนี้มีสภาพแห้งขอด ซึ่งวันนี้ชาวนาก็จะระดมเครื่องสูบน้ำทั้งวันเพื่อให้น้ำเดินทางมาถึง ต.มารวิชัย เพื่อที่จะช่วยข้าวนาปีเกือบ 4,000 ไร่ ไม่ให้ยืนต้นตาย
ทั้งนี้ในพื้นที่ ต.มารวิชัย อ.เสนา มีทั้งข้าวที่กำลังออกรวงพร้อมเก็บเกี่ยวในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า และข้าวที่ปลูกใหม่อายุ 1 เดือน ชาวนาระบุว่าข้าวที่ปลูกใหม่ไม่มีความหวังจะใช้น้ำ เนื่องจากต้องใช้น้ำถึง 2 เท่าตัว ดังนั้น ชาวนาจึงเรียกร้องว่าให้รัฐบาลทบทวนเป็นกรณีพิเศษสำหรับข้าวที่กำลังจะเก็บเกี่ยว เพราะหากไม่สามารถช่วยนาชาวนาจะขาดทุนจำนวนมาก