ฝ่ายค้านแนะรัฐควรสนใจแก้ปัญหาน้ำท่วมมากกว่าการเมือง
ผู้นำฝ่ายค้านแนะรัฐบาลให้เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและราคาสินค้าที่สูงขึ้น ก่อนที่จะแก้ปัญหาการเมือง ขณะที่นายกรัฐมนตรีสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำ ก่อนเข้ากรุงเทพมหานคร และย้ำในระบบเตือนภัยต้องรวดเร็วและทันการณ์
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันนี้ (4 ต.ค.) จะมีการประชุมและติดตามการรับมือกับสถานการณ์น้ำในกรุงเทพมหานคร โดยผลการหารือเบื้องต้นจนถึงขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงยืนยันว่าจะรับมือกับสถานการณ์ได้ แต่ก็ได้กำชับเพิ่มเติมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชิญเจ้าหน้าที่กรมชลประทานร่วมตรวจแนวคันกั้นน้ำและศักยภาพการรองรับน้ำ เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดเหตุซ้ำรอยจังหวัดเชียงใหม่
ขณะเดียวกันยังสั่งการให้กรมชลประทานประสานสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและเกษตรแจ้งเตือนภัยประชาชนในพื้นที่อุทกภัยให้ได้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ พร้อมกำชับผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีแจ้งเตือนภัยทุกๆ ชั่วโมง เพื่อการอพยพก่อนเกิดความสูญเสีย
ส่วนการแก้ไขปัญหาประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี นายกรัฐมนตรีกำชับให้กรมชลประทานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อมแซมประตูระบายน้ำที่พังให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมและการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย ก็เสนอแนะรัฐบาลในการบริหารจัดการน้ำ หลังเกิดความขัดแย้งในพื้นที่ และการช่วยเหลือทั้งกรณีเงินเยียวยาและการแจกจ่ายสิ่งของจำเป็น รวมถึงการดูแลราคาสินค้าที่สูงขึ้น พร้อมตั้งข้อสังเกตให้มีการตรวจสอบกรณีข่าวการหักหัวคิดเงินช่วยเหลือ
ขณะเดียวกันท่ามกลางกระแสข่าวว่า รัฐบาลช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมล่าช้าเกินควรนั้น สำหรับโครงสร้างการช่วยเหลือ ทุกขั้นตอนจะต้องผ่านศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) และเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติโครงการ โดยแต่ละขั้นตอนจะมีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง อย่างการบริหารจัดการน้ำก็จะเป็นหน้าที่ของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, การแจ้งเตือนภัยหรือการคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้า จะเป็นหน้าที่ของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและเกษตร กระทรวงวิทยาศาสตร์ และการช่วยเหลือเยียวยาหรือฟื้นฟู จะเป็นหน้าที่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย และแม้แต่ละขั้นตอนจะมีกลไกตามลำดับ แต่ก็มีช่องทางพิเศษที่นายกรัฐมนตรีจะรับทราบปัญหาโดยตรงผ่านการประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์