คนในแวดวงการศึกษาเชื่อคำสั่งย้ายข้าราชการ ศธ.นำไปสู่การปฎิรูปในกระทรวง

อดีตกรรมการคุรุสภา เชื่อคำสั่งย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงศึกษาธิการ จะนำไปสู่การปฏิรูปหลายด้านภายในกระทรวง เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นหลังได้มีการแสวงหาผลประโยชน์ในหน่วยงานบางแห่งมาเป็นเวลานาน

คำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 7/2558 ที่มีสาระสำคัญให้เลขาธิการคุรุสภา, เลขาธิการ สกสค., ผู้อำนวยการองค์การค้าของ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัดิภาพครูและบุคคลากรทางการศึกษา(สกสค.) รวมถึงคณะกรรมการบริหารของแต่ละชุดพ้นจากตำแหน่งนั้น

แหล่งข่าวในกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า คำสั่งย้ายครั้งนี้ไม่เหนือความคาดหมาย เพราะองค์กรในกระทรวงศึกษาธิการมักพบปัญหาทั้งการทุจริต ธรรมาภิบาล และมีเรื่องร้องเรียนมากมายและการทำหน้าที่ของกรรมการบอร์ดคุรุสภาบางคนไม่มีประสิทธิภาพ

เช่นเดียวกับคณะกรรมการ สกสค.ที่มีผลประโยชน์แอบแฝง ทั้งที่เป็นหน่วยงานที่ต้องกำกับดูแลด้านสิทธิ สวัสดิการครู สอดคล้องกับมุมมองของรองศาสตราจารย์มนตรี แย้มกสิกร อดีตกรรมการคุรุสภา ระบุว่า ทั้งคุรุสภาและ สกสค. ถือเป็น 2 องค์กรที่มีผลประโยชน์เชิงอำนาจ

ดังนั้นคำสั่งที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะนำไปสู่การปฏิรูปแนวทางสวัสดิการครู และการประกอบวิชาชีพครูให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) ระบุว่า การย้ายนางรัตนา ศรีเหรัญ รองเลขาธิการ กพฐ. ไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษานั้นถูกต้องแล้วเพราะนางรัตนามีความเชี่ยวชาญทางการการดูแลบุคลากรครูมาก่อน และงานด้านการสอบบรรจุครูผู้ช่วย รวมถึงจะจัดสอบผู้อำนวยการโรงเรียนอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2558 ส่วนการยุติการทำหน้าที่ สกสค. นายกมล เชื่อว่า จะไม่กระทบต่อการทำหน้าที่ขององค์การค้าของ สกสค. และคุรุสภา เพราะให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่เฉพาะผู้บริหารเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ สกสค. ได้นำเงินกองทุนจำนวน 2,100 ล้านบาท ไปร่วมลงทุนกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อเดือนธันวาคม 2556 และถูกอดีตบอร์ด สกสค. คนหนึ่งร้องเรียนการให้กู้ยืมเงินผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด สกสค.ในวันที่ 22 เมษายน 2558 เพราะที่ผ่านมาสำนักงาน สกสค.ไม่เคยรายงาน