รัฐบาลเปิดศูนย์ช่วยน้ำท่วมที่สนามบินดอนเมือง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกรัฐมนตรีและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ประชุมเป็นกรณีเร่งด่วน ที่อาคารภายในประเทศ สนามบินดอนเมือง เพื่อสรุปสถานการณ์น้ำท่วม และการหารือแก้ไขปัญหา รวมถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมเปิดศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำให้ทุกหน่วยงานจัดส่งตัวแทนเข้ามาร่วมทำงานแบบบูรณาการ ทั้งการรับข้อมูลจากทุกภาคส่วน การประมวลแนวทางแก้ไข และการให้ความช่วยเหลือ ก่อนทำหน้าที่แจ้งหรือประสานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เพื่อดำเนินการอย่างทันท่วงทีและทั่วถึง

 

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวย้ำให้รัฐบาลเร่งระดมฝ่ายการเมือง เพื่อทำหน้าที่ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะจุดที่ภาครัฐยังไม่สามารถเข้าถึง แต่ส.ส.ในแต่ละพื้นที่สามารถลงพื้นที่ดูแลแก้ไขปัญหาได้ โดยเฉพาะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดลพบุรี ทั้งนี้ก็จะลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อรับทราบสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับมือกับน้ำในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะใน 3 อำเภอของจังหวัดสงขลา คือ อำเภอคลองหอยโข่ง, อำเภอบางกล่ำ และอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า 2 สัปดาห์ข้างหน้า ฝนอาจตกลงมาในปริมาณที่สูง

 

สำหรับการประชุมของศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) ซึ่งมีนายพระนาย สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ เป็นประธานนั้น สรุปสถานการณ์ และย้ำให้มีการเร่งกู้ถนนสายเอเชีย ตั้งแต่หลักกิโลเมตรที่ 0-50 ให้กลับมาใช้งานได้ แต่ยังพบอุปสรรคกระแสน้ำแรง จึงปรับกำหนดแผนประชาสัมพันธ์หลีกเหลี่ยงเส้นทางแทน พร้อมประกาศให้ 5 จังหวัดเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง คือ จังหวัดอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดชัยนาท และกรุงเทพฯ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ สั่งการทุกฝ่ายเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะการสูบน้ำที่เตรียมสถานีสูบถึง 158 แห่ง และการเปิดประตูระบายไว้ 214 แห่ง ทั้งนี้ยังเตรียมบ่อรองรับน้ำไว้อีก 180 แห่ง

 

ขณะที่โรงงานรถยนต์ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เริ่มนำรถรอการส่งมอบให้ลูกค้ามาประมาณ 1,000 คัน จากทั้งหมด 3,000 คัน มาเก็บไว้ในคลังสินค้าที่สนามบินดอนเมือง โดยเจ้าหน้าที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า พื้นที่บริเวณท่าอากาศยานแห่งนี้ยังพร้อมเปิดรับทรัพย์สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาเก็บไว้เช่นกัน

 

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทำให้สถานีบริการน้ำมัน18 แห่งใน 7 จังหวัดหยุดให้บริการ ขณะเดียวกันต้องเลี่ยงเส้นทางการขนส่งน้ำมันและแก๊สแอลพีจี เพื่อไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากถนนสายเอเชียไปยังเส้นทางอื่นแทน ส่วนโรงแยกก๊าซและโรงกลั่น สามารถดำเนินการได้ตามปกติ และในวันที่ 12 ต.ค.นี้ ได้เตรียมแจกจ่ายน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล ขนาดถังละ 15 ลิตร รวม 500,000 ลิตร ให้กับเรือที่ช่วยประสบภัย ขณะที่เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนอุบลรัตน์ ได้รับการยืนยันจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ว่ายังแข็งแรง