บึ้มพระบิณฑบาตมรณภาพ 1 ทหารดับ 1 เจ็บอีกหลายราย-ยะลาสั่งคุมเข้มหวั่นซ้ำรอย
วันนี้ (25 ก.ค.2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 06.40 น. เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณชุมชนตลาดเก่า ถนนริมแม่น้ำสายบุรี หลังสภ.สายบุรี เขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยตำรวจทหารรุดเข้าไปยังที่เกิดเหตุ พบสะเก็ดและชิ้นส่วนระเบิด และเศษดิน ใบไม้ ตกเกลื่อนกลาดบนถนน และมีทหาร พระ ชาวบ้าน ได้รับบาดเจ็บอยู่บนถนน เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต่างช่วยนำส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี และ รพ.ปัตตานี
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทหาร ชุด รพศ.106 เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 2 นาย, พระสงฆ์มรณภาพ 1 รูป และบาดเจ็บ 1 รูป, ชาวบ้านบาดเจ็บ 3 คน ทราบชื่อ 1.จ.ส.อ. ชนันท์ พุ่มพิพัฒน์ 2.ส.ท.พูนศักดิ์ วรรวีระ 3.ส.ท.วรรณใหม่ ราคะโน (เสียชีวิต) 4.พระพยอม สุกตรี 5.พระเอกพล ศรีโอสถ (มรณภาพ) 6.นางสมใจ วิเศษสุวรรณภูมิ 7.นายนิวัฒน์ นิมะ 8.นายสุวาท คงอินทร์
จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุนำวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังแก๊ซปิกนิคน้ำนัก 20-25 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร นำมาวางไว้ใต้ต้นไม้บริเวณดังกล่าว
เมื่อรถของทหารที่นำพระสงฆ์มารับบิณฑบาตรถึงจุดเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุจึงจุดชนวนระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่วมรุ่นใหม่ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ตอบโต้เจ้าหน้าที่
ขณะเดียวกันที่จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเพิ่มความเข้ม ในการดูแลความปลอดภัยพระขณะออกบิณฑบาตรตามจุดต่างๆ อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณทางเข้าออกวัดต่างๆ เพื่อป้องกันผู้ก่อเหตุลอบทำร้ายพระสงฆ์
ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงเหตุการณ์ที่จ.ปัตตานีว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอแสดงความห่วงใยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะพระสงฆ์ที่ปฏิบัติศาสนกิจตามกิจของสงฆ์ แต่กลับถูกลอบทำร้ายด้วยระเบิดอานุภาพร้ายแรง พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยในพื้นที่เพิ่มการรักษาความปลอดภัยทุกด้านเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนทุกคน
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าน่าจะเป็นการกระทำของกลุ่มแนวคิดสุดโต่ง ที่ยังหลงเหลืออยู่อย่างโดดเดี่ยวในพื้นที่ โดยหวังสร้างความแตกแยกและหวาดระแวงระหว่างศาสนา จึงขอเรียกร้องสังคมอย่าให้น้ำหนักกับข่าวนี้
และไม่ควรเผยแพร่ภาพผู้สูญเสีย เพราะเกรงว่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์ผลงานตามความประสงค์ของผู้ก่อเหตุรุนแรง
ติดตามข่าวสารผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ไทยพีบีเอสออนไลน์
https://www.facebook.com/ThaiPBSNews?ref=hl