นายกฯให้ 10 จังหวัดประสานทำคันกั้นน้ำ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ตลอดทั้งวัน และประชุมร่วมกับผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพเพื่อเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือ และอพยพประชาชนไปที่ค่ายทหาร พร้อมหารือผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 10 จังหวัด ที่เผชิญสถานการณ์น้ำท่วมหนักในขณะนี้ เช่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และ ปทุมธานี โดยให้รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหา และสั่งการให้แต่ละจังหวัดมีเจ้าภาพแบ่งงานประสานกรมชลประทานทำคันกั้นน้ำ ปกป้องพื้นที่เศรษฐกิจซึ่งหากประเมินแล้วไม่สามารถป้องกันน้ำได้จะให้อพยพประชาชนในทันที
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีปฏิเสธถึงการประเมินสถานการณ์น้ำผิดพลาดจนทำให้น้ำท่วมหนักในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมถึงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของจังหวัด ตามที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี ฝ่ายปฏิบัติการ ศปภ.ได้ให้สัมภาษณ์ โดยมองว่าปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจำนวนมากเกิดจากแต่ละจังหวัดสร้างคันกั้นน้ำปกป้องพื้นที่ตัวเอง รวมทั้งมีประชาชนบางส่วนทำลายคันกั้นน้ำที่ภาครัฐสร้างขึ้น
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกกำหนดการเดินทางไปประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ในสัปดาห์นี้ เพื่ออยู่สั่งการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และ คืนนี้เวลา 20.30 น. จะแถลงสถานการณ์น้ำล่าสุดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ขณะที่แจ้งความประสงค์ขอให้ภาคเอกชนบริจาคกระสอบทรายป้องกันน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่ยังขาดแคลนอยู่กว่า 700,000 กระสอบ
ขณะที่ภาพถ่ายจากเฮลิปคอปเตอร์ของกองทัพบกแสดงถึงสถานการณ์น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้างในหลายอำเภอของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถนนหลายสาย ตลอดจนชุมชน ถูกตัดขาด ประชาชนรอรับความช่วยเหลือ ซึ่งกองทัพมีอุปสรรคในการนำเฮลิคอปเตอร์ลงจอดเพื่อลำเลียงน้ำและอาหารหรืออพยพประชาชน เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดถูกน้ำท่วม โดยจะมีการรายงานให้ทางกองทัพภาคที่ 1 เพื่อประเมินให้ความช่วยเหลือประชาชนต่อไป ขณะที่ความคืบหน้าการซ่อมแซมประตูระบายน้ำบางโฉมศรี จังหวัดสิงห์บุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกได้ให้ทหารเร่งซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์นี้